งานวิจัยเรื่อง FTA

FTA มีทั้งผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียผลประโยชน์

เมื่อได้รับมอบหมายงานมาก็ต้องเริ่มค้นคว้าข้อมูล เกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันว่า FTA ผมไม่ได้จบมาทางเศรษฐศาสตร์จึงต้องขอบอกตามตรงเลยว่า ไม่เคยรู้จักหรือว่าสนใจเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่กลับสนใจในด้านเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ไอที จึงต้องปรับตัวเองพอสมควร งานที่ทำได้รับหน้าที่เป็น Webmaster เว็บไซท์ http://www.ftadigest.com ซึ่งเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับ FTA ซึ่งมีผู้สนใจเข้าชมราวๆ 4-5 พันคน ต่อเดือน และได้มีส่วนช่วยในการรวบรวมข้อมูลมาใช้ทำการวิจัย โดยนับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากในชีวิตการทำงานที่ได้ร่วมงานกับนักวิจัยที่มีฝีมืออย่าง ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิช ผอ.วิจัยของสถาบันวิจัยแห่งประเทศไทย

ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับ FTA : ในมุมมองของผมแม้จะศึกษาเรื่องนี้มาไม่มากนัก แต่ก็เห็นว่าการทำ FTA นั้นมีผลดี และเป็นสิ่งจำเป็น เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ "ต้องทำเมื่อพร้อมและมีการเตรียมการที่ดี" 

แล้วผมจะนำเรื่องมาเล่าสู่กันฟังอีก ในวันต่อๆ ไปครับ 

[@Moui]

เคยเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็นต่อ FTA ไทย-สหรัฐ ในส่วนของ e-Commerce ค่ะ (เมื่อ 2 ปีก่อน) ในวงนั้น มุ่งเน้นเฉพาะพวก digital products เป็นหลัก และลงความเห็นว่า เราชาวไทยเป็น comsumers โดยแท้จริง การเปิดหรือไม่เปิดเสรีใน section นี้ ไม่แตกต่างเลยสำหรับเรา เพราะยังไงๆ เราก็ยังคงเป็นผู้บริโภคมากกว่าคนอเมริกัน

ยกตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้ในธุรกิจ hosting หรือ จดโดเมนเนม ถ้าลูกค้าชาวไทย ไม่ต้องการจะใช้บริการโฮสติ้งในประเทศไทย หรือ ไม่ต้องการจดโดเมน .th ก็สามารถเลือกจด เลือกใช้บริการได้ตลอดเวลา ฉะนั้น แม้ไม่มี FTA ยังไงๆ ก็เหมือนเปิดเสรีอยู่แล้วค่ะ

ไปทำงานต่อก่อนค่ะ ไว้แอบมา comment ต่อ

 

[worapong]

ขอบคุณมากครับ สำหรับ comment แรกของการใช้งาน gotoknow ของผม ดีใจมาก...

ในความคิดเห็นของผมนะครับ เรื่องการจดโดเมนเนม ผมก็เจอมากับตัวเองครับ ไม่รู้ว่าทำไมจด .th ถึงแพงกว่าจดเป็น .com ล่าสุดไปจดทะเบียนมาที่ราคา 450 บาท/ปี ราคานี้ก็ไม่ถือว่าแพงนัก หาร 12 ก็เหลือเดือนละ 37 บาท ถ้าใครอยากใช้ฟรีลองเล่น no-ip ดูนะครับ

[@Moui]

เรื่องโดเมนเนี่ย มันเป็นเรื่องของ economy of scale ด้วยค่ะ

[ดวงเด่น]

• สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
• ดิฉันก็เป็นผู้หนึ่งที่สนใจ FTAค่ะ และชอบที่จะได้ศึกษาในหลายๆแง่มุมดังที่ผู้เขียน
• นอกจากบริบททางเศรษฐศาสตร์แล้ว ในแง่ของกฎหมายก็ยังมีความสำคัญด้วยนะคะ เพราะการทำ FTA ก็เท่ากับรัฐทำสนธิสัญญาอันก็ให้เกิดข้อผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศด้วยค่ะ

[worapong]

ใช่ครับ ข้อผูกพันตามกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญที่อาจทำให้เกิดผลกระทบมากเลยนะครับ การเจรจาก่อนทำข้อตกลงจึงต้องใช้เวลาในการศึกษาวิจัยค่อนข้างมาก แต่ในรัฐบาลที่ผ่านมาผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเค้าเข้าใจในข้อนี้หรือไม่ เนื่องจากเป็นการเจรจาทีละหลายประเทศและทำอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญกำลังโดนวิจาณ์เรื่องการไม่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ แต่ปัจจุบันนี้คนให้ความสนใจกันมากขึ้น สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้วครับ ในการจะทำข้อตกลงขึ้นมาสักฉบับก็เลยมีหน่วยงานหลายแห่งทำหน้าที่วิเคราะห์ผลกระทบ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่า "ไม่ทำก็ไม่ได้" แต่ก็ต้องทำให้เหมาะสม และเกิดผลเสียต่อประเทศน้อยที่สุด