เซนได...จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (13) ล่องเรือชม 1 ใน 100 ทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นที่หุบเขาเกบิเค

เซนได…จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (13) ล่องเรือชม 1 ใน 100 ทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นที่หุบเขาเกบิเค

หุบเขาเกบิเค (Geibikei Gorge) อยู่ทางใต้ของจังหวัดอิวาเตะ ในภูมิภาค Tohoku ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นหุบเขาโขดหินขนาดใหญ่ ซึ่งในญี่ปุ่นมีที่เกบิเคเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ใช้เรือถ่อด้วยไม้ไผ่เพียงลำเดียวในการล่องเรือ

เกบิเคเป็นจุดชมวิวหนึ่งในร้อยทัศนียภาพอันสวยงามของญี่ปุ่น ทิวทัศน์ที่เกบิเคสวยงามอลังการทั้ง 4 ฤดู เริ่มต้นด้วยสีเขียวขจีสดสวยในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฟูจิฮานะหรือดอกวิสทีเรียสีม่วงหวานละมุนในช่วงเดือนพฤษภาคม ใบไม้แดงสดใสในช่วงเดือนตุลาคม และทิวทัศน์หิมะขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว ทุกฤดูกาลสวยงามแปลกตาแตกต่างกันไป

ทิวทัศน์อันทรงพลังที่ประกอบไปด้วยหินรูปร่างแปลกตา ถ้ำ และน้ำตกที่หน้าผาสูงกว่า 100 เมตรซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำซาเท็ตสึ การชมความสวยงามของทิวทัศน์ในหุบเขาเกบิเค มีเพียงวิธีการเดียวคือการล่องเรือไปตามลำน้ำด้วยเรือที่ใช้ไม้ไผ่เพียงลำเดียวถ่อไป นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของหุบเขาที่มีก้อนหินรูปทรงแปลกตาเรียงรายอยู่ทั่วไป

เกบิเคเป็นช่องเขายาวประมาณ 2 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง คำว่า "เกบิ"(Geibi) แปลว่า จมูกสิงโต ซึ่งมีที่มาจากรูปร่างของหินที่อยู่ใกล้ปลายสุดของช่องเขาที่มีลักษณะคล้ายจมูกสิงโต เรือที่ล่องไปตามลำน้ำในช่วงฤดูหนาวเป็นเรือท้องแบนติดตั้งหลังโปร่งใสมีอุปกรณ์ให้ความอบอุ่น เรียกว่า โคทัตสึ มีลักษณะเป็นโต๊ะขาเตี้ย ใต้โต๊ะติดตั้งเครื่องทำความอบอุ่น และมีผ้าห่มรอบด้าน เวลานั่งก็สอดขาเข้าไปทำให้อุ่นสบาย

โคทัตสึ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของคนญี่ปุ่น ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในยุคมุโรมาจิ ประมาณศตวรรษที่ 14 ในสมัยนั้นยังไม่มีฮีตเตอร์เหมือนปัจจุบันนี้ ชาวบ้านจึงคิดประยุกต์เอาเตาอิโรนิที่ใช้ทำอาหารมาใช้ให้ความอบอุ่น ต่อมาในยุคเอโดะจึงมีการปรับแบบเตาอิโรนิให้มีรูปแบบที่เอื้อต่อการใช้งานกับโคทัตสึ โดยปรับให้เตาอิโรนิมีระดับต่ำกว่าพื้นห้อง เพื่อที่จะสามารถนำโคทัตสึไปวางทับบนเตาได้ เพื่อที่ภายในโคทัตสึจะได้อุ่นตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่สามารถย้ายเตาอิโรนิตามไปด้วยได้ ภายหลังจึงคิดเอาถ่านไปใส่ในไหดินเผา ในปัจจุบันจะใช้เครื่องทำความร้อนติดไว้ที่ใต้โต๊ะทำให้สะดวกสบายขึ้น

เรือโคทัตสึจะใช้สำหรับล่องเรือในฤดูหนาวเท่านั้น ครั้นพ้นจากฤดูหนาวก็จะเปลี่ยนไปใช้เรือลำอื่นแทน และอาจนำโครงหลังคาออกเพื่อความสะดวกในการชมทิวทัศน์ที่สวยงาม

การล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคปกติจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที ก็จะถึงหน้าผาสิงโต ระหว่างทางมีจุดแวะให้โยนหินเสี่ยงทายโชคชะตา ขอพร อธิษฐาน และช่วงท้ายของการล่องเรือไกด์ชาวญี่ปุ่นจะขับร้องเพลง " เกบิโอยวาเกะ" (Geibi Oiwake) บทเพลงพื้นบ้าน ทำให้เคลิบเคลิ้มประทับใจกับการล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคอย่างไม่รู้ลืม