๒๐๒. เที่ยวงานประจำปี...วัดเลาขวัญ


อาหารโปรดเลย ชอบมาก ปลาหมึกย่าง แต่พอเดินไปใกล้ๆ ถาดปลาหมึกยังสวยใส เพราะเขายังย่างไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม อาหารทะเลในงานวัดที่จัดติดต่อกันหลายวัน ทั้งฝุ่นทั้งควันและอากาศที่แปรเปลี่ยน ควรระมัดระวัง พลาดพลั้งขึ้นมา อาจต้องพาตัวเองไปกินน้ำเกลือที่โรงพยาบาล เพราะอาหารเป็นพิษ

     จริงๆก็ไม่อยากใช้คำว่าเที่ยวเลย ไปเดินเล่นเสียมากกว่า ในช่วงเย็นที่ร้านรวงเพิ่งจะเริ่มขายของ แสงสีเสียงชุดใหญ่ไฟกระพริบก็ยังไม่มีให้เห็น ตั้งใจว่าจะหาอะไรกินแล้วก็จะกลับ

     ผมไม่ได้เที่ยวงานวัดอย่างจริงจังมา ๕๐ ปี หรือครึ่งศตวรรษแล้ว ในช่วงอายุ ๑๐ ปีแรก ก็เคยเที่ยวยันสว่าง ทั้งที่ยุคนั้นกับสมัยนี้ ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ด้วยความเป็นเด็ก งานวัดเล็กๆ ก็ดูจะตื่นตาตื่นใจไปหมด

        งานวัดเลาขวัญ ถือเป็นงานประจำปี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา พากันมากราบไหว้และปิดทองรูปเหมือน “หลวงพ่อเยี่ยม” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ อ.เลาขวัญ เมื่อเกือบ ๒๐ ปีที่ผ่านมา เคยจัดปีละ ๒ วัน ต่อมาก็จัดติดต่อกัน ๓ วัน ปีที่แล้วไม่ได้จัดงานเพราะโควิด ปีนี้เลยจัดกันเต็มอิ่น ๔ วัน ๓๐ มค.- ๒ กพ.๖๖

        

       งานวัดเลาขวัญ จัดตรงกันทุกครั้ง คือปลายเดือนมกราคม นัยว่าเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงพ่อเยี่ยม หลายคนจึงตั้งข้อสังเกตว่า ครบรอบทุกปีแบบนี้ ทำไมไม่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน มาจัดมหรสพเฉลิมฉลองทำไม งานแบบนี้ต้องสงบเรียบง่ายมิใช่หรือ…อันนี้ก็แล้วแต่มุมมมอง แล้วถ่้าไม่จัด กรรมการวัดจะเอารายได้ส่วนไหนมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟฟ้า และปรับปรุงซ่อมแซมศาสนสถาน อีกทั้งงานบันเทิง ก็ยังสร้างรายได้ให้แก่ภาคประชาชนด้วย

        บริเวณโดยรอบมณฑปของหลวงพ่อ รายล้อมไปด้วยร้านค้า ทั้งของกินของใช้ กว้างใหญ่มากมายอลังการขึ้นทุกปี ไฟประดับก็ดูดี ตอนที่ผมเป็นเด็กแค่เห็นไฟดวงเล็กๆสีขาวๆ กระพริบระยิบระยับก็นับว่าเร้าใจ สมัยนี้ไฟสีจ้าแจ่ม แต่ต้องมองเห็นในยามค่ำคืนจึงจะสวยงาม แต่ในยามนี้ สว.อย่างผมจะไม่ขอลุยงานกลางคืนแล้ว 

      เดินชมงาน สัมผัสบรรยากาศยามเย็น ที่ผู้คนยังไม่มาก จึงเดินได้อย่างคล่องตัวไม่ต้องหวาดระแวง สังเกตพบว่า ของกิน ทั้งคาวและหวาน มีร้านจัดมาให้บริการ มองดูชื่อร้านคงมาไกลหรือไม่ก็เป็นขาประจำงานวัด ตระเวนจัดร้านไปทั่วราชอาณาจักร เพิ่มสีสันให้งานวัดมิใช่น้อย

       สถิติข้อมูลคนเลาขวัญเป็นเบาหวานกันมิใช่น้อยๆ แต่ดูเอาเถิด ขนมหวานหน้าตาสวยใส เจ้าเก่าเจ้าใหม่จากเพชรบุรี มากันถึงที่ มีหรือจะขายไม่ได้ ๓ อย่าง ๑๐๐ บาท แค่เห็นก็แสบคอแล้ว ผมไม่เคยซื้อขนมแบบนี้ไม่ว่าจะที่วัดหรือที่ตลาด เพราะผมชอบขนมแบบบ้านๆมากกว่า

     

        ร้านค้าประจำงานวัดทั่วประเทศไทย ที่จะขาดไม่ได้เลย คือร้านก๋วยเตี๋ยว และช่วงนี้รู้สึกว่า ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ กำลังมาแรง ไปอยู่แห่งหนตำบลใด ก็ต้องเห็นป้ายแบบนี้ ผมชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากกว่า ไม่เคยลองแบบนี้และไม่คิดว่า..มะระ…จะรสชาติอร่อย ถ้าไปอยู่ในชามก๋วยเตี๋ยว ต้มจืดมะระยัดไส้ก็ว่าไปอย่าง

      อาหารโปรดเลย ชอบมาก ปลาหมึกย่าง แต่พอเดินไปใกล้ๆ ถาดปลาหมึกยังสวยใส เพราะเขายังย่างไม่เสร็จ อย่างไรก็ตาม อาหารทะเลในงานวัดที่จัดติดต่อกันหลายวัน ทั้งฝุ่นทั้งควันและอากาศที่แปรเปลี่ยน ควรระมัดระวัง พลาดพลั้งขึ้นมา อาจต้องพาตัวเองไปกินน้ำเกลือที่โรงพยาบาล เพราะอาหารเป็นพิษ

       ร้านหวานแหววแบบนี้ ก็มีอยู่ในงานวัดแล้วหรือนี่ มิใช่มีอยู่แต่ในห้างสรรพสินค้า คงไม่มีก็แต่ร้านเหล้า เพราะในวัดวาอารามเขาไม่ให้จำหน่ายสุรายาเมา แต่ตอนนี้ ผมเริ่มจะเมาแล้ว มึนงงไปกับร้านค้าหลากหลายชนิด ระรานตาไปหมด คงต้องหยุดสักร้านหนึ่ง เพื่อซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน

      ร้านนี้ของคาว…แต่ก็ยังไม่วายที่จะหวาน เป็นที่รู้กันดี ว่าคนเลาขวัญชอบอาหารรสจัด ไม่เผ็ดจัดก็หวานจัด ร้านค้าจึงเหมือนรู้ใจ ขนาดอาหารประเภทปลายังจัดแบบหวานมาเป็นสถานีกันเลยทีเดียว มีทั้งขนาดพกพาแบบทานเล่น หรือจะเป็นมื้อค่ำกินกันได้ทั้งครอบครัวก็มี จัดกันไปชุดใหญ่ แต่สำหรับผม ขอเดินผ่านไปก่อน…ยอมรับว่าไม่กล้าจริงๆ

   เดินไปหยุดลงตรงร้านนี้ ไส้กรอกหน้าตาดี กลิ่นยั่วยวนเหลือเกิน จัดไป ๒ ไม้ เป็นอาหารว่าง ก่อนมื้อเย็น แต่พอกินเสร็จแล้ว ตัดสินใจว่า จะไม่กินอะไรอีก รู้สึกอิ่มขึ้นมาทันที แต่ก็ยังพอเติมได้อีกนิดหน่อย มองหาตัวเลือกร้านต่อไป ว่าจะมีอะไรที่ถูกใจบ้าง

       นี่เลย…ดูสดสะอาด ย่างร้อนๆ คงจะหวานนุ่มชุ่มลิ้น ซื้อ ๑๐ ไม้ แต่กินได้แค่ ๕ ไม้ ก็รู้สึกจุก แบบว่าอิ่มจริงๆ งานนี้ไม่กังวลเรื่องท้องไส้ เพราะดูแล้ว ลูกชิ้นเขาสดมาก สงสัยอยู่นิดเดียว คนขายน่าจะผสมผงชูรสลงไปในกระบวนการผลิต เพราะกินเข้าไปแล้ว รู้สึกกระหายน้ำมาก

 

        งานวัดกับสนามเด็กเล่นสำเร็จรูป สมัยก่อนโน้นก็มี แต่สีสันไม่เหมือนกัน ยามค่ำคืน คงเป็นที่สุขสันต์ของเด็กๆ ได้กินได้เล่นอย่างเพลิดเพลิน น่าเสียดายที่ทางวัดไม่จัดให้มีภาพยนตร์หรือลิเกก็ได้ มันจะดูคึกคักเป็นแบบเปิดๆ ไม่ต้องไปกั้นรั้วเหมือนเวทีดนตรี ที่เก็บเงินค่าเก้าอี้คนละ ๑๐๐ บาท

          นักดนตรีกำลังทดสอบเสียง หลังคาเวทียังไม่ถูกยกขึ้น และนักร้องนักแสดงก็คงยังไม่เดินทางมา ในยุคนี้เวทีคอนเสิร์ตมักจะแยกกัน วงดนตรีจะจ้างมาต่างหาก นักร้องและแด๊นเซอร์นั่งรถตู้มาคันเดียวก็พอ มาเจอนักดนตรีบนเวทีทีเดียวเลย แต่ก็สามารถเปิดการแสดงไปด้วยกันได้ ยอมเขาจริงๆ

        ที่ต้องยอมรับกันมากกว่านั้น ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อมีดนตรี วัยรุ่นก็มักจะออกแรงตีกัน ทางคณะกรรมการผู้จัดงานเลยติดป้ายเตือนสติเอาไว้ ถ้าวัยรุ่นหัวร้อนไม่อยากเสียเงิน..ก็จงคิดใคร่ครวญเสียก่อน ถ้าใจไม่แข็งพอ ก็นอนอยู่บ้าน…อย่าไปเที่ยวงานวัดเลยจะดีกว่า หรือถ้าจะไป ก็ไปช่วงเย็นแบบผม อิ่มหนำสำราญแล้วก็กลับบ้าน

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๖

 

หมายเลขบันทึก: 711490เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2023 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2023 22:17 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เขียนบรรยายไดัดีมาก สาระดี รูปแจ๋ว วิจารณ์งานฯ ถูกใจ แต่กลัวเจ้าของงานจะไม่ให้เข้างานอีก และทำให้ผมคิดว่าตัวเองน่าจะอยู่บ้านเหมือนกัน ไปวัดหวังสงบมากกว่าอย่างอื่น ….วิโรจน์ ครับ (คำต่อท้ายนี้เพื่อเป็นการตรวจทานการพิมพ์ แล้วลงชื่อกำกับ ….แต่ก็ยังมีผิดพลาดเสมอตามวัยครับ)

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท