เซนได...จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (11) วัดชูซอนจิ มรดกโลกแห่งอิวาเตะ

เซนได…จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (11) วัดชูซอนจิ มรดกโลกแห่งอิวาเตะ

เซนไดเป็นเมืองศูนย์กลางของภูมิภาคโทโฮขุ ทั้งทางด้านการค้าและการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับดาเตะ มาซามุเนะ (Date  Masamune) ผู้ซึ่งปกครองเซนไดเมื่อประมาณ 400 กว่าปีมาแล้ว ที่นี่จึงมีความโดดเด่นด้วยความที่เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์มากมาย นอกจากนี้เซนไดยังเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮขุ สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในโทโฮขุได้อย่างสะดวกสบาย

ช่วงเช้าของการเดินทางท่องเที่ยวในวันนี้เราจะเดินทางขึ้นไปทางเหนือของภูมิภาค Tohoku เพื่อไปชมมรดกโลกจากการรับรองของ UNESCO เมื่อปี 2011 วัดชูซอนจิ วัดโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาในอดีตกว่าหลายร้อยปี

วัดชูซอนจิ ตั้งอยู่บนภูเขาภายใต้ร่มเงาของภูเขาคันซาน ที่เมืองฮิราอิซูมิ จังหวัดอิวาเตะ ในภูมิภาคโทโฮขุ เป็นวัดพุทธนิกายเทนไดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 850 โดย เอนอิน พระสงฆ์ระดับสูงของภูเขาฮิเออิ และมีผู้ดำเนินการก่อสร้างทั้งหมด คือ คิโยฮาระซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลโอชูฟูจิวาระ นั่นเอง

ในประวัติศาสตร์ของวัดได้ระบุว่าสาเหตุที่คิโยฮาระได้สร้างชูซอนจิขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม 9 ปี และสงคราม 3 ปี ซึ่งได้เกิดขึ้นในภูมิภาคโทโฮขุช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 11 ไม่ว่าจะทางฝั่งพันธมิตรหรือฝั่งทางศัตรูก็ตาม
โดยแรกเริ่มที่ก่อสร้างนั้นภายในวัดมีอาคารและเจดีย์มากกว่า 40 หลัง มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มากกว่า 300 รูป จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารและเจดีย์หลายสิบหลังได้ถูกทำลายลงเหลืออยู่เท่าที่เห็นในปัจจุบันนี้

บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นเนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเขาทำให้มีต้นไม้ปกคลุมตลอดทางเดินและศาสนาสถานภายในวัด แต่วัดชูซอนจิในฤดูหนาวในวันที่หนาวเหน็บหิมะโปรยปราย มองไปทางไหนก็เห็นแต่หิมะขาวโพลนไปหมด เวลาเดินก็ต้องเสี่ยงดวงไปด้วยเพราะหิมะที่จับตัวตามกิ่งไม้เมื่อมีน้ำหนักมากก็อาจไหลหล่นลงมาใส่ตอนไหนก็ไม่รู้ เวลาเดินชมต้องระมัดระวังเพราะอาจไถลลื่นได้

ต้นสนซีดาร์อายุราว 300 ปีข้างทางเดินซึ่งให้บรรยากาศความยิ่งใหญ่อลังการ เป็นสัญลักษณ์ว่าได้เดินทางมาถึง Hondo Main Hall  และ konjikido Golden Hall สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1124 ตามความประสงค์ของฟุจิวะระ คิโยฮาระ ที่ต้องการแสดงถึงการมีอยู่จริงของสวรรค์ในแบบที่จับต้องได้

จุดแรกที่ควรจะไปสักการะก่อนเป็นอันดับแรกคือวิหารใหญ่ฮอนโดะเป็นวิหารเก่าแก่ที่ยังเหลืออยู่เพียงหลังเดียว ซึ่งเป็นสถานที่เทศนาธรรมและประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากคือ วิหารแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ ซึ่งมีความสูงถึง 4.8 เมตร สร้างจากไม้แต่ถูกปิดทองจนเหลืองอร่ามสวยงาม

ไฮไลท์ของวัดชูซอนจิซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก คือ วิหารทองคำอันศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นตามคำสั่งของคิโยฮาระ ปัจจุบันทางวัดได้สร้างอาคารไม้ขนาดใหญ่ครอบวิหารทองคำเอาไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันความเสียหายจากฝนและลม ภายในไม่สามารถถ่ายภาพได้ ทำได้เพียงเดินชมความสวยงามอลังการของวิหารทองคำแท้ทั้งหลังที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ เป็นประติมากรรมที่วิจิตรงดงามมาก

วัดชูซอนจิถือว่าเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม ความวิจิตรงดงามของตัวอาคารเก่าแบบญี่ปุ่นผสมผสานกับการจัดสวนแบบญี่ปุ่น ต้นสนซีดาร์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมบริเวณวัดทำให้สบายตาสบายใจ ซึ่งถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวยงาม แต่จะเป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางมาที่วัดซูซอนจิแห่งนี้เป็นจำนวนมาก นับว่าการมาเที่ยวชมในฤดูหนาวขณะที่หิมะตกกระหน่ำก็มีส่วนดีอยู่ นั่นคือนักท่องเที่ยวน้อย ทำให้เดินชมได้อย่างสบายๆ

โมโตฮิระ ลูกชาย และ ฮิเดฮิระ หลานชาย ได้สืบทอดความตั้งใจของคิโยฮาระ ฟูจิวาระ โดยการสร้างวัดต่างๆ รวมทั้งอธิษฐานให้โลกที่สงบสุขปรากฏเป็นจริง ตามเจตนารมณ์ของคิโยฮาระ ฟูจิวาระ

"...ตั้งแต่อดีตจนถึงขณะนี้ต้องมีผู้คนล้มตายในการสู้รบมากมายเพียงไร ไม่สิ ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น ทั้งสัตว์ นก ปลา หอย... แม้ขณะนี้ชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนยังถูกสังเวย...ข้าขอให้ทุกครั้งที่เสียงระฆังก้องสะท้อนพิภพ ช่วยนำพาดวงวิญญาณที่เสียชีวิตโดยยังมีห่วงไปสู่ดินแดนสุขาวดีอันบริสุทธิ์ด้วยเถิด"