Happy workplace and nutrition
1.การถอดบทเรียนจากอาจารย์พิเศษ
>>>Happy work place
Naive Practice
- Recall ความรู้ที่มีอยู่ คือ ความสุขนั้นมีได้ทุกที่ ซึ่งการเข้าถึงความสุขก็เป็นเรื่องง่ายเช่นกัน ตราบใดที่เรายังไม่ได้เจอกับความทุกข์ที่เราไม่สามารถจัดการมันได้ กว่าเราจะมีภูมิคุ้มกันเวลาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกผิดหวังก็ต้องได้สัมผัสกับความผิดหวังนั้นก่อน และความสุขคือความพอใจกับประโยชน์ปัจจุบันและมีความหมายต่ออนาคต ซึ่งวัยที่เรามีความสุขที่สุดก็คือวัยเด็ก
- นิสัยที่ทำให้เราเกิดความทุกข์
- การใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ
- การตั้งความหวังไว้สูงเกิดนไป
- การจมกับความคิดที่เป็นลบ
- Recap ความรู้ใหม่ที่ได้รับ ได้แก่
>Pain point คือ ปัญหาที่พบเจอทำให้รู้สึกไม่ชอบหรือไม่พอใจจนอยากหาวิธีในการแก้ไขปัญหานั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างธุรกิจ หรือ Customer Journey ที่จะพาให้เขาหาข้อมูลและเลือกซื้อ โดยอาจารย์สอนพิเศษได้เพิ่มเติมในส่วนของการแยกส่วนประกอบนี้ออกมา ดังนี้ 1) Past 2) Action 3) Important 4) No(ไม่สำเร็จ)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Pain Point คืออะไร? ทำไมนักการตลาดต้องหา Pain Point - GreedisGoods
>MPS Model ซึ่งหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Happier ของ Tal Ben - Shahar พูดถึงกระบวนการค้นหาความสุขให้กับสิ่งที่ทำอยู่ เรียกว่า กระบวนการ MPS ครับ
MPS นั้นประกอบไปด้วย
M(Meaning) หมายถึง การให้คุณค่า
P(Pleasure) หมายถึง เราสนุกกับอะไรบ้าง
S(Strength) หมายถึง สิ่งที่เราทำได้ดี
โดยวงกลมแต่ละวงแทนแต่ล่ะตัวอักษร เขียนออกมาว่าในวงกลมนั้นเรามีอะไรบ้าง หลังจากนั้นเอาวงกลมทั้งสามอันมา Intersect กัน จะเกิดพื้นที่ตรงกลางที่เป็นจุดร่วมของทั้งสามวง จุดตรงกลางนั่นคือสิ่งที่เราให้คุณค่า สนุก และทำมันได้ดี
>Wheel of life เป็นวงล้อชีวิตที่ช่วยเช็คความสมดุลของชีวิตเรา ซึ่งทำให้เราได้เห็นมุมมองต่างๆของชีวิตในหลายมิติหรือในหลายๆด้าน โดยมีส่วนประกอบดังนี้
- อาชีพ/การงาน Work
- การเงิน/รายได้ salary/money
- การพัฒนาตัวเอง Self Development
- ครอบครัว Family
- ความสัมพันธ์/เพื่อนฝูง Relationship / Friend
- สุขภาพ /Health
- จิตวิญญาณ/ศาสนา Spirit / Region
- การแบ่งปัน/ช่วยเหลือสังคม sharing /Contribution
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Wheel of life วงล้อชีวิต ตั้งเป้าหมายให้ชีวิตสมดุล โดย ศศิมา สุขสว่าง (sasimasuk.com)
Purposeful Practice
- Spotlight แนวคิดการทำงานของอาจารย์สอนพิเศษ สิ่งใดที่ทำให้เราเป็นทุกข์ก็หลีกเลี่ยง เพียงแค่มองหาความสุขใหม่
- Spotlight ให้ข้อคิดในเรื่องจะทำอย่างไรให้การทำงานของเราเต็มไปด้วยความสุข
- Appreciation รู้สึกขอบคุณอาจารย์สอนพิเศษที่ทำให้ได้ตระหนักถึงความสุขทั้งในการทำงานและในชีวิตของเรา โดยได้ยกตัวอย่าง MPS Model ในการค้นหาสิ่งที่ทำแล้วทำให้เรามีความสุข และตัวอย่างวงล้อชีวิต Wheel of life ทำให้ได้มองชีวิตได้รอบด้านมากขึ้นและการสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิต
Deliberate Practice
- Describe ประเด็นที่ฟังแล้วไม่เข้าใจคือความสุขคือการไม่ประมาท และประเด็นที่ฟังแล้วไม่เข้าใจได้ทั้งหมดคือ จะทำอย่างไรให้ที่ทำงานเต็มไปด้วยความสุข
- Express สาเหตุที่ยังไม่เข้าใจ เนื่องจากว่ายังไม่ค่อยเข้าใจอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับประเด็นในส่วนของความประมาทว่าในทีนี้มันเกี่ยวกับด้านใดบ้างหรือในทุกๆด้าน ทุกๆการกระทำ ส่วนในเรื่องจะทำอย่างไรให้ที่ทำงานเต็มไปด้วยความสุข เพราะในคาบเรียนอาจารย์สอนพิเศษได้เปิดให้ดูคลิปตัวอย่างเกี่ยวกับองค์กรที่เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งผู้บริหารนั้นต้องเห็นถึงความสำคัญ แต่ดิฉันยังไม่ค่อยเข้าใจถึงวิธีที่จะทำให้สถานที่ทำงานนั้นเต็มไปด้วยความสุข เพราะ ในบางสถานที่ก็มีข้อจำกัดในหลายๆอย่าง แต่ดิฉันก็คิดว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆที่จะจัดการกับตัวเองได้ ในบางครั้งสถานที่หรือสิ่งแวดล้อมพร้อมแต่ตัวบุคคลเองที่ไม่มีความสุข
- Specific วิธีให้เข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริง มีหลากหลายวิธี เช่น สืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้นอาจในช่องทางอินเทอร์เน็ตหรือหนังสือ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
- Consequence สะท้อนความรู้ความเข้าใจ แบบ How to up skills 21 วัน ด้วยการค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และสอบถามผู้รู้เพิ่มเติม มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง มีการวางแผนเพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้า
>>>Nutrition
Naive Practice
- Recall ความรู้ที่มีอยู่ คือ อาหารและสารอาหารเป็นสิ่งที่ให้ร่างกายของเรามีพลังงานในการเคลื่อนไหวหรือทำกิจวัตรประจำวัน กิจกรรมต่างๆ ซึ่งการกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์เป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็น ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้แค่ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตอีกด้วย เพราะถ้าหากร่างกายไม่แข็งแรงจะส่งผลต่อจิตใจ การขาดสารอาหารบางอย่างจะทำให้เกิดโรคได้ การมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจจึงเป็นสิ่งสำคัญและจะต้องมาควบคู่กันเสมอ
- Recap ความรู้ใหม่ที่ได้รับ คือ แนวทางในการที่จะทำโครงการอะไรสักอย่างขึ้นมาเพื่อเข้าถึงคนในชุมชน อีกทั้งการให้ความสำคัญกับคนบริเวณชายขอบที่ข้อมูลต่างๆเข้าถึงได้ยาก ซึ่งในการทำโครงการ 1 โครงการขึ้นมาจะต้องผ่านการสำรวจถึงตัวบุคคลในชุมชน สภาพแวดล้อมในชุมชนสิ่งใดที่เป็นปัจจัยสนับสนุนหรือสิ่งใดเป็นตัวขัดขวาง แล้วจะแก้สิ่งนี้ได้อย่างไร อีกทั้งการให้ความสำคัญกับความสนใจหรือสิ่งที่คนในชุมชนให้ความสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยม เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาให้ความสนใจกับโครงการเรามากขึ้นและยังได้สร้างความตระหนักให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น
Purposeful Practice
- Spotlight แนวคิดการทำงานของอาจารย์สอนพิเศษและประสบการณ์การทำงานในพื้นที่ต่างๆของอาจารย์ อีกทั้งอาจารย์ให้ความสำคัญกับทุกสิ่ง
- Spotlight ให้ข้อคิดในเรื่องการให้ความสำคัญในเรื่องอาหาร และสร้างความตระหนักถึงการให้ความสำคัญกับคนบริเวณชายขอบ
- Appreciation รู้สึกขอบคุณอาจารย์สอนพิเศษที่ทำให้ได้ตระหนักถึงการกินในชีวิตประจำวันของเราเพราะเรากิน สุดท้ายมันก็จะส่งผลต่อตัวเรา ร่างกายหรือจิตใจเราจะดีสิ่งหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไปเช่นกัน อีกทั้งอาจารย์ทำให้เราได้เห็นถึงความสำเร็จของแต่ละโครงการนั้นกว่าจะถึงจุดนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆมากมาย บางครั้งมีข้อจำกัดในเรื่องบริบท หรือบางครั้งมีปัญหาในเรื่องงบประมาณ และกว่าจะสำเร็จไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน บางโครงการก็ 10 ปีกว่าจะเห็นความสำเร็จนั้น ดังนั้นอาจารย์จึงเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งของดิฉันในการทำงานให้กับ สังคม
Deliberate Practice
- Describe ประเด็นที่ฟังแล้วไม่เข้าใจคือกระบวนการทำโครงการที่เข้าไปทำในพื้นที่ชุมชน จะต้องมีกระบวนการอะไรบ้าง
- Express สาเหตุที่ยังไม่เข้าใจ เนื่องจากว่ายังไม่ค่อยเห็นภาพว่าเราจะเข้าไปสำรวจหรือประเมินพื้นที่นั้นได้อย่างไร ขั้นตอนต่างๆที่จะต้องทำมีอะไรบ้าง เพื่อให้เราเห็นถึงปัญหาที่เขาประสบอยู่ อีกทั้งยังสอดคล้องกับบริบทของชุมชนนั้นๆ
- Specific วิธีให้เข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริง มีหลากหลายวิธี เช่น สืบค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้มีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องของกระบวนการพัฒนาชุมชน และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านนี้
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : chapter 5.pdf (skru.ac.th)
- Consequence สะท้อนความรู้ความเข้าใจ แบบ How to up skills 21 วัน ด้วยการค้นคว้าเอกสารอ้างอิง และสอบถามผู้รู้เพิ่มเติม มีการวางแผนในสิ่งที่จะทำและได้ทำไปแล้วเพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้า
2.ความรู้เหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับชีวิตและโครงงานกลุ่มของเราได้อย่างไร
Happy workplace เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับความสุข และ Nutration เป็นการสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา ดิฉันคิดว่า ความสุขกับอาหารเป็นสิ่งที่คู่กัน เมื่อร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง และยังส่งผลกระทบต่อจิตใจอีกด้วย เมื่อร่างกายเราสุข สภาพจิตใจของเราก็ต้องสุขเช่นกัน จึงจะทำให้เรามีสุขภาวะที่ดี
สามารถนำ MPS Model เพื่อค้นหาความสุขให้กับสิ่งที่ตัวเรากำลังทำอยู่ เขียนออกมาว่าในวงกลมนั้นเรามีอะไรบ้าง ได้แก่ เราให้คุณค่ากับอะไร เราสนุกกับอะไรบ้าง และอะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดี หลังจากนั้นเอาวงกลมทั้งสามอันมา Intersect กัน จะเกิดพื้นที่ตรงกลางที่เป็นจุดร่วมของทั้งสามวง จุดตรงกลางนั่นคือสิ่งที่เราให้คุณค่า สนุก และทำมันได้ดี
อีกสิ่งที่ได้ศึกษาในครั้งนี้คือ ในการที่เราจะทำงานหรือโครงการใดสักอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือทีมของเรา เมื่อทีมของเรามีความสุข ประสิทธิภาพของงานที่ออกมาก็จะดีตามไปด้วย และในการทำโครงการต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเราเรียกว่า
“Interprofessional Collaboration”
คือการทำงานร่วมมือ สื่อสารกับทีมสหวิชาชีพอื่นๆ โดยในบางครั้งก็จะมีงานที่เกินขอบเขตความสามารถของเรา จึงต้องส่งต่อให้กับผู้ที่มีความสามารถหรือเชี่ยวชาญ จึงเรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็มความถนัดซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ในโครงงานกลุ่มของเราที่ทำเกี่ยวกับเว็ปไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กออทิสติก(ASD) จึงจะต้องมีความตระหนัก วิเคราะห์และประเมินในหลายๆด้าน ทั้งตัวของเด็ก ผู้ปกครอง ผู้ดูแลใกล้ชิด สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กว่าสนับสนุนหรือขัดขวางในการทำกิจกรรม ให้ความสำคัญกับกิจวัตรประจำวันทั้งของเด็กและผู้ปกครอง โดยไม่มองข้ามในเรื่องของ Nutration เพราะเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จะสนับสนุนหรือขัดขวางการทำกิจกรรม หากร่างกายเกิดปัญหาก็จะส่งผลต่อการทำกิจกรรมของเด็กและส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กอีกด้วย
Technics for addressing risk
1.Avoid = หลีกเลี่ยงการมองข้ามปัญหาด้านความสุขของเด็กและผู้ปกครอง
2.Modify = ปรับโครงการให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของเด็กและผู้ปกครองจริงๆ โดยคำนึงถึงตัวบุคคล บริบทหรือสภาพแวดล้อมและการทำกิจกรรม
3.Transfer = การส่งต่อความรู้ให้คนในชุมชนได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับเด็กออทิสติก สร้างทัศนคติที่ดีขึ้นกับคนในชุมชน
4.Retain = การให้ทำกิจกรรมบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงไว้ถึงสมรรถภาพในการทำกิจกรรมได้ดี และอาจดีขึ้นไปอีก
5.Exploit = การเผยแพร่ความรู้อย่างทั่วถึงในชุมชนและในสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้สังคมเกิดอคติกับเด็กออทิสติก
.........
จัดทำโดย : 6423032 ฮูดาซามีลา ดาโอ๊ะ