หรือจริง ๆ แล้วมนุษย์เราอ่อนแอทุกคน
ใช่ค่ะ หลิงมองว่าการที่เราอยู่คนเดียว
มันอ่อนแอจริง ๆ เราไม่สามารถจะผ่านอะไรไปได้
ด้วยตัวคนเดียว การที่เราได้มาเจอกัน อยู่ร่วมกัน
มันก็คือความเข้มแข็งอย่างนึงที่มันเกิดขึ้น
และหลิงเชื่อว่า ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้
ก็คงคิดเหมือนกันว่า การอยู่ร่วมกันมันดีกว่ามาก ๆ
เพราะทุก ๆ กิจกรรมในชีวิต เราก็ต้องมีคนซัพพอร์ต
และคอยให้ความช่วยเหลือเราเสมอ
เปรียบจากกิจกรรมที่หลิงได้ทำคือ
การทำไข่แดง (ของชาวชาติพันธุ์อาข่า)
หรือเรียกว่าการทำของขวัญที่เอาไว้รับขวัญคนที่มาเยือน
ระหว่างทำหลิงมีเพื่อน ๆ และคุณน้าในภาพ (วิทยากร)
ให้ความช่วยเหลือหลิงระหว่างทำได้เป็นอย่างดี
การที่หลิงได้รับโอกาสมาทำกิจกรรมที่นี่
มาเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่หมู่บ้านป่าคาสุขใจ
เกี่ยวกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการอยู่ร่วมกัน
มันทำให้หลิงคิดได้ว่า การที่เราจะต้องทำงานคนเดียว
หรือทำงานร่วมกันกับผู้อื่น การให้ความสำคัญทุก ๆ สิ่ง
และทุก ๆ คนอย่างเท่าเทียมก็มีความสำคัญเช่นกัน
ไม่ว่าเขาจะได้รับหน้าที่ในการทำงานน้อยหรือมาก
ทุก ๆ คนล้วนแล้วมีความสำคัญในตัวของมันเอง
เพราะถ้าขาดมันไป หรือ เราไม่ได้สนใจตรงนั้นเลย
เพราะคิดว่ามันน้อยมาก หรือ มันมากอยู่แล้ว
มันก็อาจจะทำให้จุดนั้นแหละค่ะ มาเป็นจุดอ่อน
ของการทำงานร่วมกัน จนบางทีมันจะทำให้เรา
ไม่ยอมรับฟังกัน ขัดแย้งกัน และอยู่ร่วมกันยากขึ้น
เพราะ หลิงมองว่างานจะออกมาดีได้นั้น
ความสัมพันธ์ของผู้ที่ร่วมงานกันก็ต้องดีด้วยเช่นกันค่ะ
และสุดท้ายนี้ความเข้มแข็งและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าเราไม่มีการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
และไม่ให้ความสำคัญกับทุก ๆ สิ่งทุก ๆ คนอย่างเท่าเทียม
เขียนต่อไป
เขียนทุกวัน
เขียนเรื่อย ๆ
;)…
การทำไข่แดง (ของชาวชาติพันธุ์อาข่า)หรือเรียกว่าการทำของขวัญที่เอาไว้รับขวัญคนที่มาเยือน
….
งดงามมากๆ ครับ
เป็นข้อเขียนที่ตอบโจทย์วัฒนธรรมไปในตัว สั้นกระชับ แต่มากด้วยความงาม และความหมาย
ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นทั้ง 2 ท่านนะคะ จะพยายามและหาเรื่องราวดี ๆ มาฝากอีกนะคะ 😊