คิดได้หลายมุม...เรื่องการกล้าแสดงออก


ทางที่ดีเวลามีกิจกรรมของโรงเรียนให้คละๆเด็กที่ไม่ค่อยแสดงออกให้มีกิจกรรมบ้าง...จะได้เรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนๆ

วันนี้ดิฉั๊นมีโอกาสได้ไปร่วมงานปีใหม่ที่โรงเรียนลูก...พร้อมๆกับไปเชียร์ลูกแสดงในงานปีใหม่ของโรงเรียน...ดิฉั๊นออกจะแปลกใจที่ลูกได้รับคัดเลือกให้แสดงในวันนี้เนื่องจากเคยแสดงความเห็นกับครูเมื่อครั้งที่ลูกเพิ่งเต้นไปเมื่อกิจกรรมวันพ่อว่า...นอ้งแปมเป็นเด็กกล้าแสดงออกปกติ..ออกจะไปทางมากซะด้วยซ้ำ...ทางที่ดีเวลามีกิจกรรมของโรงเรียนให้คละๆเด็กที่ไม่ค่อยได้แสดงออกให้ได้ทำกิจกรรมบ้าง...จะได้เรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนๆเอาเป็นว่าไม่ต้องให้ลูกพี่แสดงทุกครั้งที่มีงานเดี๋ยวแกจะชอบ(อีกเหตผลดิฉั๊นไม่ชอบให้ลูกสาวแต่งหน้าแต่งตาเลียนแบบผู้ใหญ่..."ไม่น่ารักสักนิดเดียวในความเห็นของดิฉั๊น")แต่เอาหล่ะในเมื่อครูเลือกแล้วก็ส่งเสริม...ทำตาม...อำนวยความสะดวกในการรับส่ง...แต่งตัว...คอยเฝ้าดู...ได้ภาพนี้มาฝากกันค่ะ
new6.jpg new5.jpg new1.jpg
ยายแปม...บนเวที....ส่ายสนุก..และชวนเพื่อนคุย..

ทันทีที่พบหน้าครู
..โดยไม่ต้องถามครูตรงมาเล่า"คุณแม่..."แปม"ไปเกาะข้างเวทีทุกวันดูเพื่อนซ้อมท่าทางอยากแสดง...หนูสงสารเอาเค้ามาเต้นด้วย....ขอโทษนะคะเลยขัดกับความประสงค์เดิมของแม่(ครูคงคิดว่าคุณแม่ไม่อยากยุ่งยากในการแต่งตัวเตรียมให้ลูก)ครูอธิบายเพิ่มว่า....คุณแม่ต้องส่งเสริม...ให้เขาแสดงตามความอยาก...เด็กชอบแต่ดิฉั๊นกลับคิดว่า...ดิฉั๊นควรต้องให้เขาเรียนรู้ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะต้องได้แสดง...ต้องผลัดๆกันกับเพื่อนๆ...

new3.jpg

ดิฉั๊นมองเป็นต้องจัดสมดุลระหว่างจุดแข็งตรงนี้ซึ่งอาจกลายเป็นจุดอ่อนได้ภายหลัง

หมายเลขบันทึก: 69895เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2006 15:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 16:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
อื้มม ทำให้ได้คิดเลยนะคะเนี่ย...ใช่ค่ะ // ถึงแม้ว่าหนิงไม่มีลูกของตัวเอง แต่ก็มีหลานสาวเล็กๆอยู่ 2 คนค่ะ //ใช่ค่ะ หนิงก็ไม่ชอบให้หลานสาวแต่งตัวเลียนแบบผู้ใหญ่อ่ะค่ะ เพราะเค้ายังเด็ก ทำไปทำมาเหมือนแก่แดดเข้าไปทุกที พอเราบอกว่า แสดงอีกแล้วหรอ ..ทำไมบ่อยจัง คุณยายมักเข้าใจไปในทางที่ว่า เราไม่อยากสนับสนุนหลานสาว ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งจริงๆไม่ได้จำกัดค่าใช้จ่ายขนาดนั้นอ่ะค่ะ แต่ไม่อยากให้หลานแก่แดด... //การกล้าแสดงออกไม่ใช่แค่การแสดงร้องรำบนเวทีอ่ะค่ะ หนิงอยากให้ฝึกเค้ากล้าแสดงออกในสิ่งที่ดี มีอีกตั้งหลายอย่าง เช่น กล้าถามเวลาไม่เข้าใจอะไรในชั้นเรียน ถามอะไรที่เค้ายังไม่รู้เวลาพาไปเที่ยว ฯลฯ ที่ทำให้ได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณเมตตา น้องแปมน่ารักนะคะ ^__* สวยเหมือนคุณแม่เลย

มาเยี่ยม...ใกล้ปีใหม่

มาชื่นชมหนูแปม...เก่งเหมือนใครเอ่ย...

ขอบคุรครับ

แป้นว่าความจริงแล้ว การให้เด็กขึ้นไปแสดงบนเวที เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าแต่งตาก็ได้ เพราะเด็กๆเค้ามีความสวยสมวัยของเค้า อยู่ในตัวแล้ว การที่ต้องแต่งหน้าเป็นเหมือนวัฒนธรรมที่คนคิดว่าเมื่อต้องแสดงบนเวที ก็ต้องแต่งหน้าให้สวยงาม แต่ความเป็นจริง สิ่งที่คนข้างล่างมองคนเวที ก็คือการแสดง ไม่ใช่หน้าตาสักหน่อย เนอะ ว่ามั้ยคะ

โห...(^___^)

สดใสมากเลย...วันนี้น้ากะปุ๋มใส่เสื้อสีแดงเหมือนน้องแปมเลยคะ...แต่ไม่มีหนุ่มมาใกล้ให้กระซิบเลยอ่ะ..ทำไมดีน้องแปม...ว่าแต่ว่าหลานกะซิบ..ว่างัยน้ากะปุ๋มอยากรู้ด้วยจังเลย...อิอิ

Y__*

กะปุ๋ม

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

สงสัยจังว่าเมื่อไหร่แป้นจะทำตามอย่างที่พี่จิ๊บขอร้องได้สักที

เฮ้อ! แย่จัง มันเขียนไม่ออกอะ ทำงัยดี

เอาเป็นว่าของขวัญปีใหม่ จะตั้งใจเขียนBlog ทุกวันนะคะ

  • มาสวัสดีปีใหม่ครับ
  • ผมเป็นคนที่ชอบให้เด็กๆเขาน่ารักแบบธรรมชาติของเขา
  • ไม่ใช่แต่งตัวแบบนักร้องและทำท่าทางแบบผู้ใหญ่ครับ
  • ขอบคุณมากครับ
สาวน้อยตาคมน่ารักจัง
.
เรื่องการแสดงออก
น่าจะอยู่ที่ความชอบของเด็กนะคะ

เป็นข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดกับเด็กออสซี่อย่างหนึ่งค่ะ คือเค้ามีการแสดงบ่อยมากเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเห็นเด็กเค้าต้องแต่งหน้าแต่งตาแบบเด็กไทยเราเลย ถ้าจะแต่งก็เมื่อแสดงเป็นแม่มด ปีศาจหรืออะไรที่ไม่ใช่คนสวยคนงามธรรมดานี่แหละค่ะ เมื่อไหร่เราจะเลิกจับเด็กแต่งหน้าแต่งตากันเสียทีนะคะ

บ่นแล้วก็ต้องขอชมว่า น้องแปมสวยคมและดูมีความสุขกับการได้แสดงออกนะคะ ตรงนี้แหละที่สำคัญค่ะ

น้องแปม...เป็นน้องของน้องปลา...น้องแปมกล้าแสดงออกมากพี่ปลาก็เลยดีใจ...ใครที่ดูบันทึกนึ้..ดูภาพด้วยนะ..น้องปลาจะเป็นกำลังใจให้น้องตลอด..ตอนนี้..น้องแปมกำลังอาบน้ำกับพ่อ...พ่อเรียกน้องปลาไปทาแป้ง...ว่างๆ น้องปลาจะมาคุยใหม่..จบ
น้องปลา...

ลูกสาวสวยและน่ารักนะคะ

เห็นด้วยกับคุณเมตตาค่ะ เด็กๆน่าจะได้แสดงออกวิธีอื่นๆด้วยไม่ใช่แค่การเต้นอย่างเดียว ให้เด็กท่องคำกลอน เล่นดนตรี เล่านิทานฯลฯ ก็ได้ และไม่ต้องแต่งหน้าจัดค่ะ เด็กๆน่ารักตามธรรมชาติอยู่แล้ว

สิริญญา เกียรติกวินพงศ์

การสอนของพ่อแม่สำคัญ บางครั้งต้องพาลูกสัมผัสสิ่งรอบข้างบ้างตามโอกาสและชี้ให้เห็นความจริง ตลอดจนการฝึกให้แสดงออก ควรมีคำชมเป็นยากระตุ้นนะคะ อย่างลูกดิฉันคนโตตอนเด็กกล้าแสดงออก มีการแสดงที่ไหนครูจับแสดงเมื่อนั้น ก็พยายามให้เค้าได้ตัดสินใจเอง โตขึ้นเลยกล้าแสดงออกมีความคิดเป็นของตัวเอง ความคิดมีเหตุมีผลมากเลย อย่างตอนที่ลูกต้องตัดสินใจจะเรียนอะไรดี เราก็บอกแต่ละอาชีพมีข้อดีข้อเสียอะไร เค้าก็ตัดสินใจว่าอยากเรียนแพทย์ พ่อแม่ก็สนับสนุนเรื่องวิชาการ การเตรียมตัวสอบ จนสอบติดแพทย์มหิดลตามที่เค้าอยากเรียน ซึ่งก็เป็นจากการพยายามใช้เหตุผลกับลูกให้ลูกรู้จักคิดเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท