ครม. อนุมัติงบ 550 ล้านตั้งศูนย์ฯ พิเศษรักษาความสงบ


ครม. อนุมัติงบ 550 ล้านตั้งศูนย์ฯ พิเศษรักษาความสงบ
         

           ครม.อนุมัติงบ 550 ล้านบาท ตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ คมช. และจัดกำลังเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย โดยใช้กำลังจากทุกเหล่าทัพและตำรวจเข้าร่วม โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.49 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ตั้ง ศอ.บต.เข้าสภา

          

          วานนี้ (26 ธ.ค.) ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ   คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และค่าใช้จ่ายในการจัดกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้

           1. ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว กำหนดให้มีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชาติ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามพระราชบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ คมช. จึงได้กำหนดให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยขึ้น โดยให้มีกำลังเตรียมพร้อมจำนวนหนึ่ง ประกอบกำลังจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเตรียมพร้อมดังกล่าวนี้ กำหนดให้พร้อม ณ ที่ตั้งหน่วย และสามารถออกปฏิบัติภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของชาติได้ทันทีเมื่อสั่ง  ทั้งนี้ ให้หน่วยต่าง ๆ ดำเนินการได้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป เพื่อให้การปฏิบัติของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย มีความพร้อม จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2550 (งบกลาง) จากรัฐบาล จำนวนเงิน 500 ล้านบาท

            

2. ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่อ้างถึงเรื่องการจัดส่วนงานและแบ่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ จากโครงสร้างการจัดกำลังดังกล่าว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ประกอบด้วย สำนักเลขาธิการและศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งมีหน้าที่ติดตาม ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในการใช้กำลังทหาร ตำรวจ และพลเรือน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงแห่งชาติ    ทั้งนี้  การจัดศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเพื่อปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ประกอบด้วย 3 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานทั่วไป กลุ่มงานยุทธศาสตร์ และกลุ่มงานการรักษาความมั่นคง ดังนี้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2550 (งบกลาง) จำนวน 55,962,600 บาท

มีความเห็นเพิ่มเติมจากทางสำนักงบประมาณโดยสรุปว่า เห็นเป็นการสมควรที่ ครม.จะพิจารณาอนุมัติ  ในหลักการตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเสนอ    ทั้งนี้ ควรให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ขอทำความตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณ โดยพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ของกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำมาใช้จ่ายเพื่อการนี้ก่อนเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2550 (งบกลาง) รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ ร.อ.นพ.ยงยุทธ ยังแถลงว่า ครม.ยังเห็นชอบการกำหนดแต่งตั้งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) และการจัดโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังของ ศอ.บต. ตามที่ ก.พ.เสนอมา ซึ่งจากการประชุม ก.พ.เมื่อครั้งที่ 11/2549 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้พิจารณาเรื่องการกำหนดตำแหน่ง ผอ.ศอ.บต. และเรื่องการจัดโครงสร้างและกรอบอัตรากำลังของ ศอ.บต. โดยมีประเด็นให้พิจารณาต่อ ครม. ดังนี้

1.  ยกเว้นมติ ครม. เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 เรื่อง ยุทธศาสตร์การปรับขนาดกำลังคนภาครัฐ     พ.ศ. 2549-2551 โดยขอกำหนดกรอบอัตรากำลังเพิ่มใหม่เป็นกรณีพิเศษ เพื่อปฏิบัติงานใน ศอ.บต. รวม 199 อัตรา ยกเว้นตำแหน่ง ผอ.ศอ.บต. ที่กำหนดไว้ในสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยแล้ว โดยกำหนดไว้ในส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับ ศอ.บต. และกำหนดกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ รวม 54 อัตรา และเมื่อภารกิจของ ศอ.บต. หมดความจำเป็นแล้วให้ยุบเลิกตำแหน่งดังกล่าวทั้งหมด

2.เห็นชอบให้กำหนดตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) เป็นตำแหน่งนักปกครอง 10 ระดับ 10 (บส.) เทียบเท่ารองปลัดกระทรวง จำนวน 1 ตำแแหน่ง ไปก่อนจนกว่า จะได้มีการออกพระราชบัญญัติศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ...  โดยให้ ผอ.ศอ.บต.  และรอง ผอ.ศอ.บต.จำนวน 4 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง และ ผอ.สำนักต่าง ๆ อีก 7 ตำแหน่ง
เป็นตำแหน่งประเภทบริหารระดับกลาง หรือบริหารระดับสูง ตามนัยมาตรา
4 (5) และมาตรา 3 (9) แห่งราชกฤษฎีกากำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง และประเภทบริหารระดับกลาง พ.ศ. 2535

           3.  ให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณ งบบุคคล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคล ได้แก่ เงินเดือน และเงินสิทธิประโยชน์อื่นตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับตำแหน่งตามกรอบอัตรากำลังตั้งใหม่ และการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งต่าง ๆ ในส่วนราชการต่าง ๆ ที่ ก.พ.กำหนดขึ้น สำหรับการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจของ ศอ.บต

4.  ให้สำนักนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติมคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 207/2549 จากที่กำหนดให้รองปลัด กระทรวงมหาดไทย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งเป็น ศอ.บต. รับผิดชอบบังคับบัญชาข้าราชการ และการดำเนินการของ ศอ.บต. เป็นให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็น ผอ.ศอ.บต. รับผิดชอบบังคับบัญชาข้าราชการ และการดำเนินงานของ ศอ.บต.

5.  เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ... ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนราชการ และกำหนดให้ภารกิจการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มภารกิจในกระทรวงมหาดไทย และในสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งให้มีการมอบอำนาจให้ ผอ.ศอ.บต. ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ หรือทบวง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี   หรือปลัดกระทรวง อธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ครม.กำหนด โดยให้มอบอำนาจให้ปฏิบัติราชการแทนข้ามกระทรวง ทบวง กรม

สำหรับสาระบางส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ....

มาตรา 3 ให้จัดตั้ง ศอ.บต.ขึ้นเป็นส่วนราชการ ตามมาตรา 18 วรรค 4 ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มีอำนาจ ดังนี้ 

-    กำกับ เร่งรัด การปฏิบัติของฝ่ายพลเรือนตามนโยบายเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการพัฒนาการศึกษา การสร้างความเป็นธรรม การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และการสร้างความเข้าใจในพื้นที่ โดยประสานการปฏิบัติการกับ พตท. ในการป้องกันและแก้ไขการก่อความไม่สงบในพื้นที่

-   รวบรวม กลั่นกรอง บูรณาการ และเสนอแนะการจัดทำแผน โครงการ และการจัดตั้งงบประมาณของส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ และจัดทำเป็นแผนการดำเนินงานเสนอต่อ กอ.รมน. เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามขั้นตอน

            -   ดำเนินการประสานงานการปฏิบัติในการบริหารงานยุติธรรม คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ- การพัฒนาข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม-   ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่-   แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติได้ตามความจำเป็น และปฏิบัติการอื่นใด ตามที่ ครม. หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
 
ผู้จัดการออนไลน์ : 27 ธ.ค. 49
คำสำคัญ (Tags): #งบประมาณ
หมายเลขบันทึก: 69629เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2006 09:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 11:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท