เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ได้มีการเผยแพร่พระอักษรสมเด็จพระกนิษฐาธิราช กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
“ได้ทำงานช่วยคนอื่นถือว่าเป็นเกียรติ ทำให้เรามีความสุข”
เมื่อครั้นเสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารสำนักงานมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ แห่งแรก
บนถนนพระราม ๔ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
จนถึงวันนี้ เราได้เห็นพระองค์ท่านปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง ดังพระอักษรที่ปรากฏให้เห็นตลอดเวลา
และอีกเรื่องราวดีที่ได้เห็นจากข่าวพระราชสำนัก เวลาพระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมประชาชนในพระหัตถ์จะมีสมุดและปากกา พร้อมกล้องที่คอยบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ อย่างละเอียดด้วยความใส่พระทัย
และเมื่อความทันสมัยและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้นโทรศัพท์มือถือมีความจำเป็นและใช้บันทึกภาพได้ เราจะได้เห็นท่านทรงใช้โทรศัพท์มือถือสลับกับการใช้กล้องธรรมดาอย่างชำนาญ
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงจากพระองค์ท่านคือการใช้สมุดและปากกาบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนเดิม
ทำให้ได้เห็นพระอุปนิสัยดังกล่าว ว่า ทรงถอดแบบและทรงดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมาโดยตลอด
นำมาจาก เพจ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” วันที่ 31 สิงหาคม 2564
การที่ทรงใช้สมุด และปากกา บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เหมือนเดิม เป็นการไปตามหลักการทรงงาน ของรัชกาลที่ 9
“ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด”
ในเรื่องของความประหยัดนี้ ประชาชนชาวไทยทราบกันดีว่าเรื่องส่วนพระองค์ก็ทรงประหยัดมาก ดังที่เราเคยเห็นว่า หลอดยาสีพระทนต์นั้นทรงใช้อย่างคุ้มค่าอย่างไรหรือฉลองพระองค์แต่ละองค์ เป็นเวลานาน ขณะเดียวกันการพัฒนาและช่วยเหลือราษฎรทรงใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยความเรียบง่าย และประหยัด ราษฎรสามารถทําได้เอง หาได้ในท้องถิ่นและประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในภูมิภาคนั้น ๆ มาแก้ไข ปัญหาโดยไม่ต้องลงทุนสูงหรือใช้เทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยากนัก
และหลักการทรงงาน ของรัชกาลที่ 9
“ทำให้ง่าย”
ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้การคิดค้น ดัดแปลง ปรับปรุงและแก้ไขงานการพัฒนาประเทศตามแนวพระราชดําริดําเนินไปได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และที่สําคัญอย่างยิ่ง คือสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่และระบบนิเวศโดยส่วนรวม ตลอดจนสภาพทาง สังคมของชุมชนนั้น ๆ ทรงโปรดที่จะทําสิ่งที่ยากให้กลายเป็นง่าย ทําสิ่งที่สลับซับซ้อนให้เข้าใจง่าย อันเป็นการ แก้ปัญหาด้วยการใช้กฎแห่งธรรมชาติ เป็นแนวทางนั่นเอง
-------------------------
ส่วนประสบการณ์ของผู้เขียนได้พบเจอกับประโยชน์ของการบันทึก แจ้งชัดแล้ว
https://www.gotoknow.org/posts/515182
ประโยชน์ของการจดบันทึก ของ นักเรียนในกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน
ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่ากุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดตราดนานหลายปีแล้ว แต่ยังจำได้ว่า ครั้งนั้นไปทำงานไปเตรียมการรับเสด็จฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีในฐานะเจ้าหน้าที่ประสานงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปในห้องกิจกรรม สหกรณ์นักเรียนโรงเรียน
มิได้รอช้า มีเอกสารอะไรก็เอามาอ่านมาดูให้หมด (ต้องเปิดเบา ๆ กลัวสมุดของนักเรียนช้ำ เพราะจะต้องมีผู้มาเปิดอ่านอีกเยอะล่ะครับ) ดูสมุดบันทึกรายงานการประชุมว่า สหกรณ์นักเรียนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาเช่นไร ตัดสินใจตกลงกันที่จะทำกิจการอย่างใดบ้าง มีการประชุมบ่อยไหม บันทึกรายงานการประชุมถูกต้องหรือไม่ ฯลฯ สมุดบันทึกบัญชีก็ไม่รอช้าหยิบขึ้นมาดูด้วย บันทึกบัญชีด้วยดินสอ หรือปากกา ใช้น้ำยาป้ายขาวลบคำผิด หรือใช้การแก้ที่ผิด วิธีขีดฆ่าแล้วลงลายมือชื่อรึเปล่า ทั้งนี้ก็เพื่อฝึกนักเรียนให้มีทักษะในการบันทึกรายงานการประชุม และบันทึกบัญชี อย่างง่าย ๆ (ง่ายสำหรับเด็ก )
คุณครูตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่ากุ่ม ในสมัยนั้น ให้นักเรียนมีบันทึกการปฏิบัติงานของนักเรียนที่เสียสละและมีจิตอาสา สมัครเข้าเป็นกรรมการ ทุกคน ที่มาปฏฺบัติงานในห้องสหกรณ์ ไว้ที่ห้องสหกรณ์ด้วย เข้าใจว่า ครู ฝึกนักเรียนให้เป็นตำรวจ ในอนาคต จะได้ลงบันทึกประจำวันหากมีประชาชนมาแจ้งความ ฝึกไว้ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน
อ่านในบันทึกแล้วก็ไปสะดุดอยู่ที่ นักเรียนบันทึกไว้ว่า " วันที่ ... เดือน ... พ.ศ....... วันนี้มาจำหน่ายสินค้าที่สหกรณ์แล้วเกิดปัญหาฝนสาดทำให้ต้องปิดร้านจำหน่ายสินค้าไม่ได้ "(สำนวนประมาณนี้ล่ะครับ นานแล้ว ผู้เขียนเริ่มอายุเยอะแล้ว อาจจำคลาดเคลือน )
พอดีกับพี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานของมูลนิธิสุมิตรเลิศสุมิตรกุลซึ่งอุปถัมภ์ โรงเรียนนี้ ผ่านมาจึงให้ท่านอ่านดูบันทึกด้วยทาง มูลนิธิสุมิตรเลิศสุมิตรกุลผุ้อุปถัมภ์โรงเรียน จึงได้กรุณาบริจาคเงินต่อเติมหลังคากันสาดให้แก่ห้องสหกรณ์นักเรียนทำให้ฝนไม่สาด นักเรียนทำกิจกรรมสหกรณ์ได้ สะดวกขึ้น
จึงนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ว่าการจดบันทึกของนักเรียนนั้นมีประโยชน์จริง และเมื่อได้ไปแนะนำโรงเรียนอื่น ๆ ในฐานะคณะนิเทศโรงเรียนร่วมกับสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ และหน่วงงานร่วมสนองงานอื่น ๆ ก็ได้แนะนำให้ นักเรียนจดบันทึกการปฏิบัติงานในห้องกิจกรรมสหกรณ์ไว้ด้วยตั้งแต่บัดนั้นล่ะครับ
พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้
(Peeraphong Bobbie Varasen)
https://www.gotoknow.org/blog/peeraphong-varasen
บันทึกเมื่อวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564
ไม่มีความเห็น