ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่ากุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดตราดนานหลายปีแล้ว แต่ยังจำได้ว่า ครั้งนั้นไปทำงานไปเตรียมการรับเสด็จฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีในฐานะเจ้าหน้าที่ประสานงานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปในห้องกิจกรรม สหกรณ์นักเรียนโรงเรียน
มิได้รอช้า มีเอกสารอะไรก็เอามาอ่านมาดูให้หมด (ต้องเปิดเบา ๆ
กลัวสมุดของนักเรียนช้ำ เพราะจะต้องมีผู้มาเปิดอ่านอีกเยอะล่ะครับ) ดูสมุดบันทึกรายงานการประชุมว่า
สหกรณ์นักเรียนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาเช่นไร ตัดสินใจตกลงกันที่จะทำกิจการอย่างใดบ้าง
มีการประชุมบ่อยไหม บันทึกรายงานการประชุมถูกต้องหรือไม่ ฯลฯ สมุดบันทึกบัญชีก็ไม่รอช้าหยิบขึ้นมาดูด้วย
บันทึกบัญชีด้วยดินสอ หรือปากกา ใช้น้ำยาป้ายขาวลบคำผิด หรือใช้การแก้ที่ผิด วิธีขีดฆ่าแล้วลงลายมือชื่อรึเปล่า
ทั้งนี้ก็เพื่อฝึกนักเรียนให้มีทักษะในการบันทึกรายงานการประชุม และบันทึกบัญชี อย่างง่าย ๆ (ง่ายสำหรับเด็ก )
คุณครูตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่ากุ่ม ในสมัยนั้น ให้นักเรียนมีบันทึกการปฏิบัติงานของนักเรียนที่เสียสละและมีจิตอาสา
สมัครเข้าเป็นกรรมการ ทุกคน ที่มาปฏฺบัติงานในห้องสหกรณ์ ไว้ที่ห้องสหกรณ์ด้วย เข้าใจว่า ครู ฝึกนักเรียนให้เป็นตำรวจ ในอนาคต
จะได้ลงบันทึกประจำวันหากมีประชาชนมาแจ้งความ ฝึกไว้ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน
อ่านในบันทึกแล้วก็ไปสะดุดอยู่ที่ นักเรียนบันทึกไว้ว่า " วันที่ ... เดือน ... พ.ศ....... วันนี้มาจำหน่ายสินค้าที่สหกรณ์แล้วเกิดปัญหาฝนสาดทำให้ต้องปิดร้านจำหน่ายสินค้าไม่ได้ "(สำนวนประมาณนี้ล่ะครับ
นานแล้ว ผู้เขียนเริ่มอายุเยอะแล้ว อาจจำคลาดเคลือน J )
พอดีกับพี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานของมูลนิธิสุมิตรเลิศสุมิตรกุลซึ่งอุปถัมภ์ โรงเรียนนี้ ผ่านมาจึงให้ท่านอ่านดูบันทึกด้วยทาง มูลนิธิสุมิตรเลิศสุมิตรกุลผุ้อุปถัมภ์โรงเรียน จึงได้กรุณาบริจาคเงินต่อเติมหลังคากันสาดให้แก่ห้องสหกรณ์นักเรียนทำให้ฝนไม่สาด นักเรียนทำกิจกรรมสหกรณ์ได้ สะดวกขึ้น
จึงนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ว่าการจดบันทึกของนักเรียนนั้นมีประโยชน์จริง และเมื่อได้ไปแนะนำโรงเรียนอื่น ๆ
ในฐานะคณะนิเทศโรงเรียนร่วมกับสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
และหน่วงงานร่วมสนองงานอื่น ๆ ก็ได้แนะนำให้ นักเรียนจดบันทึกการปฏิบัติงานในห้องกิจกรรมสหกรณ์ไว้ด้วยตั้งแต่บัดนั้นล่ะครับ
พีระพงศ์ วาระเสน
(Peeraphong Varasen)
5 มกราคม 2556
ไม่มีความเห็น