๑,๒๒๖ ฝนดี..สองปีซ้อน


  พอเริ่มทำแปลงเพาะกล้าในนา ผึ้งที่ทำรังอยู่ในบริเวณนั้นก็บินมารุมล้อมที่หมวก แล้วก็เลื่อนลงมาต่อยเข้าให้ที่นิ้ว เขาคงมาบอกว่าอย่าเสียเวลาเลยครู..เดี๋ยวฝนตกหนัก ข้าวเปลือกที่ทำพันธุ์มันก็จะลอยน้ำไปหมด

          เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านก็เบิกบานกันทั่วหน้า ผ่อนคลายความทุกข์โศกอันเนื่องมาจากโรคโควิดไปได้บ้าง

          ปีที่แล้ว ก็เป็นแบบนี้ ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา จนถึงปลายปี ๒๕๖๓ ปีนี้นึกว่าจะห่างๆ หรือไม่ก็แล้งไปเลย แต่ปรากฏว่าเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม  จนถึง ณ เพลานี้ มีน้ำให้เห็นเต็มสระ คลอง และหนองบึง มีทีท่าว่าจะตกไปตลอดถึงเข้าพรรษากันเลยทีเดียว

          เหมือนนัดหมายเอาไว้ เดือนนี้เมื่อปีก่อนนั้น น้ำก็หลากเข้ามาในนาแบบนี้ ชนิดที่ท่วมคันนาก่อนเวลาอันควร แทนที่จะได้ดำนาวันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อ ก็ต้องได้ทำก่อนและเก็บเกี่ยวกันไปก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน

          วันนี้ เดินดูท้องนาผืนน้อยของโรงเรียน พบปริมาณน้ำที่ท่วมขัง จึงตัดสินใจไม่เพาะต้นกล้าเองจะดีกว่า ประกาศขอ(ซื้อ)ต้นกล้าจากชุมชน จะรวดเร็วทันใจ ได้ดำนากันทันที หากมีฝนตกลงมาอีกก็ยิ่งจะดีมิใช่น้อย

          อันที่จริง เพาะกล้าเอง ก็จะได้ความรู้สึกรักและผูกพัน ครบถ้วนตามระบบวงจรของกระบวนการ แต่เมื่อ ๓ วันก่อน เตรียมการจะลงมืออยู่แล้วเชียว เพราะได้ข้าวพันธุ์ดีมาจากกรรมการโรงเรียน

          พอเริ่มทำแปลงเพาะกล้าในนา ผึ้งที่ทำรังอยู่ในบริเวณนั้นก็บินมารุมล้อมที่หมวก แล้วก็เลื่อนลงมาต่อยเข้าให้ที่นิ้ว เขาคงมาบอกว่าอย่าเสียเวลาเลยครู..เดี๋ยวฝนตกหนัก ข้าวเปลือกที่ทำพันธุ์มันก็จะลอยน้ำไปหมด

          ไม่เพียงแค่เตรียมการที่กล่าวมาเท่านั้น..ขนาดว่านักเรียน ป.๖ มาเรียนพิเศษ วิชาภาษาไทย ที่มีบทอ่านทางวรรณกรรมว่าด้วยชีวิตของควาย ข้าว และชาวนา ผมยังให้เด็กรู้จักการฝัดข้าวเพื่อเอาแกลบออกไป รวมทั้งสอนเด็กให้รู้จักและมีทักษะเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านของไทย

          โดยให้นักเรียนเรียนรู้ท่วงทำนอง “เพลงเกี่ยวข้าว” แต่งเนื้อร้องกับครู จากนั้นก็ไปแต่งเพิ่มเติมเป็นการบ้านคนละ ๑ บท ก่อนอื่นต้องร้องเกริ่นนำ(สร้อยเพลง) และออกเสียงลูกคู่ให้ได้ก่อน มันจะได้ดูคึกคักอยากที่จะเรียนรู้...

          “เอ่อ เออ เอ้อ เออ ชะ เอิง เอิง เออ ชะ เอิง เอิง เอ๊ย.....” หัวหน้าห้องร้องนำแล้ว ลูกน้องร้องรับว่า...เฮ้ เอ้า เฮ้ เฮ้....จากนั้นก็ร้องไปตามบทของตัวเอง....

          ครูให้ตัวอย่าง...เพื่อให้นักเรียนสังเกตการใช้คำและสัมผัสในวรรค ก่อนที่จะได้ลองฝึกแต่งกันให้ได้ทุกคน...

          “ฉันเองก็อยากทำนา (ซ้ำ) แต่ไม่รู้ว่า...จะเริ่มยังไง......(เฮ้........)

          “ทำนามันก็ไม่ยาก (ซ้ำ) แค่ไปออกปาก กับท่านผู้ใหญ่ ....(เฮ้....)

          “รู้แล้วมันต้องเกี่ยวกัน (ซ้ำ) เพราะบ้านของท่าน นั้นมีรถไถ.....(เฮ้....)

          วันที่เรียนนั้น นักเรียนแต่งกันจบครบทุกคน...ส่วนการบ้านที่ส่งทางไลน์คนละ ๑ บท ครูตรวจและให้ผ่านหมด เป็นอันว่าเข้าสู่กระบวนการทำนาและฝึกซ้อมเพลงเกี่ยวข้าวได้ ณ บัดนี้

          ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ฝนดีสองปีซ้อนแบบนี้ จะทำอะไรก็ดูจะมีกำลังใจ คิดอ่านอะไรก็มีแววเห็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะ”โคกหนองนา สวนป่าในฝัน” หรือ “๔ ไร่ ใกล้เกษียณ”ของผู้เขียน แค่เห็นน้ำในคลองไส้ไก่ ใจก็ชื่นบาน ลืมเรื่องวิตกจริตกับโควิดไปได้มิใช่น้อย....

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 691546เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2021 10:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม 2021 20:12 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

-สวัสดีครับ ผอ.-มีน้ำมีชีวิตนะครับ-ติดตามกิจกรรมของโรงเรียนมาตลอดอบอุ่นใจมาก ๆ ครับ-ขอบคุณครับ

อยู่กับธรรม (ชาติ) ของจริง ;)…

เทวดาคงสงสารที่โควิดมา เทวดาเลยส่งน้ำมาให้ทำนาค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท