เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านก็เบิกบานกันทั่วหน้า ผ่อนคลายความทุกข์โศกอันเนื่องมาจากโรคโควิดไปได้บ้าง
ปีที่แล้ว ก็เป็นแบบนี้ ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา จนถึงปลายปี ๒๕๖๓ ปีนี้นึกว่าจะห่างๆ หรือไม่ก็แล้งไปเลย แต่ปรากฏว่าเดือน มิถุนายน – กรกฎาคม จนถึง ณ เพลานี้ มีน้ำให้เห็นเต็มสระ คลอง และหนองบึง มีทีท่าว่าจะตกไปตลอดถึงเข้าพรรษากันเลยทีเดียว
เหมือนนัดหมายเอาไว้ เดือนนี้เมื่อปีก่อนนั้น น้ำก็หลากเข้ามาในนาแบบนี้ ชนิดที่ท่วมคันนาก่อนเวลาอันควร แทนที่จะได้ดำนาวันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อ ก็ต้องได้ทำก่อนและเก็บเกี่ยวกันไปก่อนกำหนดเช่นเดียวกัน
วันนี้ เดินดูท้องนาผืนน้อยของโรงเรียน พบปริมาณน้ำที่ท่วมขัง จึงตัดสินใจไม่เพาะต้นกล้าเองจะดีกว่า ประกาศขอ(ซื้อ)ต้นกล้าจากชุมชน จะรวดเร็วทันใจ ได้ดำนากันทันที หากมีฝนตกลงมาอีกก็ยิ่งจะดีมิใช่น้อย
อันที่จริง เพาะกล้าเอง ก็จะได้ความรู้สึกรักและผูกพัน ครบถ้วนตามระบบวงจรของกระบวนการ แต่เมื่อ ๓ วันก่อน เตรียมการจะลงมืออยู่แล้วเชียว เพราะได้ข้าวพันธุ์ดีมาจากกรรมการโรงเรียน
พอเริ่มทำแปลงเพาะกล้าในนา ผึ้งที่ทำรังอยู่ในบริเวณนั้นก็บินมารุมล้อมที่หมวก แล้วก็เลื่อนลงมาต่อยเข้าให้ที่นิ้ว เขาคงมาบอกว่าอย่าเสียเวลาเลยครู..เดี๋ยวฝนตกหนัก ข้าวเปลือกที่ทำพันธุ์มันก็จะลอยน้ำไปหมด
ไม่เพียงแค่เตรียมการที่กล่าวมาเท่านั้น..ขนาดว่านักเรียน ป.๖ มาเรียนพิเศษ วิชาภาษาไทย ที่มีบทอ่านทางวรรณกรรมว่าด้วยชีวิตของควาย ข้าว และชาวนา ผมยังให้เด็กรู้จักการฝัดข้าวเพื่อเอาแกลบออกไป รวมทั้งสอนเด็กให้รู้จักและมีทักษะเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านของไทย
โดยให้นักเรียนเรียนรู้ท่วงทำนอง “เพลงเกี่ยวข้าว” แต่งเนื้อร้องกับครู จากนั้นก็ไปแต่งเพิ่มเติมเป็นการบ้านคนละ ๑ บท ก่อนอื่นต้องร้องเกริ่นนำ(สร้อยเพลง) และออกเสียงลูกคู่ให้ได้ก่อน มันจะได้ดูคึกคักอยากที่จะเรียนรู้...
“เอ่อ เออ เอ้อ เออ ชะ เอิง เอิง เออ ชะ เอิง เอิง เอ๊ย.....” หัวหน้าห้องร้องนำแล้ว ลูกน้องร้องรับว่า...เฮ้ เอ้า เฮ้ เฮ้....จากนั้นก็ร้องไปตามบทของตัวเอง....
ครูให้ตัวอย่าง...เพื่อให้นักเรียนสังเกตการใช้คำและสัมผัสในวรรค ก่อนที่จะได้ลองฝึกแต่งกันให้ได้ทุกคน...
“ฉันเองก็อยากทำนา (ซ้ำ) แต่ไม่รู้ว่า...จะเริ่มยังไง......(เฮ้........)
“ทำนามันก็ไม่ยาก (ซ้ำ) แค่ไปออกปาก กับท่านผู้ใหญ่ ....(เฮ้....)
“รู้แล้วมันต้องเกี่ยวกัน (ซ้ำ) เพราะบ้านของท่าน นั้นมีรถไถ.....(เฮ้....)
วันที่เรียนนั้น นักเรียนแต่งกันจบครบทุกคน...ส่วนการบ้านที่ส่งทางไลน์คนละ ๑ บท ครูตรวจและให้ผ่านหมด เป็นอันว่าเข้าสู่กระบวนการทำนาและฝึกซ้อมเพลงเกี่ยวข้าวได้ ณ บัดนี้
ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ฝนดีสองปีซ้อนแบบนี้ จะทำอะไรก็ดูจะมีกำลังใจ คิดอ่านอะไรก็มีแววเห็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะ”โคกหนองนา สวนป่าในฝัน” หรือ “๔ ไร่ ใกล้เกษียณ”ของผู้เขียน แค่เห็นน้ำในคลองไส้ไก่ ใจก็ชื่นบาน ลืมเรื่องวิตกจริตกับโควิดไปได้มิใช่น้อย....
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔
-สวัสดีครับ ผอ.-มีน้ำมีชีวิตนะครับ-ติดตามกิจกรรมของโรงเรียนมาตลอดอบอุ่นใจมาก ๆ ครับ-ขอบคุณครับ
อยู่กับธรรม (ชาติ) ของจริง ;)…
เทวดาคงสงสารที่โควิดมา เทวดาเลยส่งน้ำมาให้ทำนาค่ะ