วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ มีการประชุม 3rd Preparatory Meeting ต่อจากการประชุมครั้งที่แล้ว (2nd Preparatory Meeting) เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๔ ทางซูม ที่ นพ. วิโรจน์ ดำเนินการประชุมได้อย่างยอดเยี่ยมมหัศจรรย์ ทำให้สรุปชื่อแต่ละ Subtheme และได้ Lead Coordinator และ Co-Coordinators ของแต่ละ Subtheme ให้กลับไปยกร่าง Concept Note ของแต่ละ Subtheme มาคุยกันในวันนี้ ได้ข้อสรุปที่ก้าวหน้าไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ ผมยกให้เป็นฝีมือของคุณหมอวิโรจน์และทีม IHPP สรุปได้ดังนี้
Sub-theme 1: ‘The World We Want: Megatrends and Futuristic Point of Views’
Lead: Dr. Fran Baum, and Ms. Bridget Lloyd, PHM; Co-leads: NUS, BMJ, UNFPA, WHO, WB, CMB, Chatham House, JICA, Thai Health, IHPP, and RAMA เสนอ 5 megatrends ได้แก่ (๑) โรคระบาดใหญ่ (๒) สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม (๓) ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขยายตัว (๔) ระบบเศรษฐกิจใหม่ (๕) ความขัดแย้งทางการเมืองภายในและระหว่างประเทศ
แนวโน้มใหญ่เหล่านี้ทำให้โลกไม่เสถียร เปิดรับการเปลี่ยนแปลงได้มาก โดยเป้าหมายของโลกที่เห็นพ้องกันคือ SDG 17 ด้าน เป้าหมายของการประชุมในส่วนของ subtheme 1 มี ๔ ประการคือ (๑) ตรวจสอบจากหลายมุมมอง ว่าจะบรรลุสภาพโลกที่ healthy, fair, and sustainable ได้อย่างไร (๒) ตรวจสอบแนวคิดจากหลายกลุ่มผลประโยชน์ ว่าจะบรรลุสภาพโลกที่ healthy, fair, and sustainable ได้อย่างไร (๓) ตรวจสอบฐานทฤษฎีและอุดมการณ์ที่นำไปสู่มุมมองที่แตกต่าง และ (๔) กำหนดแนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายภายใน ๑๐ - ๒๐ ปี
เขาบอกว่า ระบบเศรษฐกิจโลกในเวลานี้เดินตามแนว neo-liberal economics ที่มุ่งทำให้คนรวยรวยขึ้น อ้างว่าจะเกิด trickle-down effect ลงไปยังคนจน ซึ่งชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นเช่นนั้น มีทางเลือกแบบเปลี่ยนระบอบให้ไม่เป็นระบอบ extractive (ขูดเลือดคนจน) อย่างในปัจจุบัน หรือแบบทางสายกลางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และกระจายความมั่งคั่งมากหน่อย
ผมเองมีความเห็นว่า อุปสรรคใหญ่ที่สุดคือกระบวนทัศน์แก่งแย่งแข่งกันเป็นใหญ่ ที่นำไปสู่การต่อสู้กันเอง หากทดแทนด้วยความตระหนักว่า ความท้าทายใหญ่สามอย่างของการดำรงอยู่ของมนุษยชาติคือ สงคราม ความอดอยาก (ขาดแคลนอาหาร) และโรคระบาดใหญ่ สองอย่างแรกมนุษย์เรามีเครื่องมือเอาชนะได้ค่อนข้างดี เหลือตัวที่สามคือโรคระบาดใหญ่ ที่มนุษยชาติต้องร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิด หรือเมื่อเกิดปะทุขึ้นก็ร่วมกันกำจัดออกไปโดยเร็ว ก่อนที่จะลุกลามไปทั่วโลก
ความรู้เรื่องโรคระบาดใหญ่ช่วยให้เราตระหนักว่า มนุษยชาติต้องร่วมมือกัน จึงจะมีชีวิตที่ดีอยู่ภายใต้ความท้าทายที่จะเกิดโรคระบาดใหญ่อยู่ตลอดเวลา หรือกล่าวใหม่ว่า ความมั่นคงของมนุษยชาติอยู่ที่การจัดการโรคระบาดใหญ่ ตามที่หนังสือ How to Survive a Pandemic (2020) เขียนโดย Michael Greger, MD, FACLM บอกไว้
Sub-theme 2: Climate crisis: ‘Building Back Cleaner/Greener’
Lead: Dr. Peter Friberg, SIGHT; Co-leads: FHI 360, WHO, UNDP, USAID, WB, and BMJ
มีเป้าหมาย (๑) อภิปรายการบรรจบกันของสามวิกฤติคือ ภูมิอากาศ สภาวะแวดล้อม และสุขภาพ (๒) เสนอรูปแบบของความร่วมมือพหุภาคี (multi-sectoral) เพื่อมติร่วมกันทางการเมือง ในการฟื้นตัวหลังโควิดด้วยการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเดิม (๓) ให้ผู้นำรุ่นอนาคตเข้าร่วมแสดงข้อคิดเห็น และบอกว่าต้องการอะไรจากผู้นำในปัจจุบัน (๔) สร้างพลังร่วมกับเวทีโลกอื่นๆ เกี่ยวกับภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เช่น COP26 และ Stockholm +50
ยุทธศาสตร์สำคัญคือดึงนักการเมือง และผู้ตัดสินใจระดับสูง รวมทั้งคนรุ่นใหม่ เข้าร่วม
Sub-theme 3: ‘Learning from the COVID-19 Pandemic to Better Prepare for Tomorrow’s Challenges’
Lead: Dr. Dennis Carroll; Co-leads: FHI 360, USAID, RF, WB, WHO, BMJ, Chatham House, GF, JICA, IHPP, and RAM
มีเป้าหมาย (๑) ทำความเข้าใจปัจจัยที่ทำให้โลกไม่พร้อม ต่อการรับมือการระบาดใหญ่ (๒) ทำความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน ของการออกแบบและดำเนินการตามมาตรการระดับโลก ที่มีผลต่อการป้องกันและรัมมือการระบาดของ โควิด ๑๙ เช่น IHRs และ SDGs; โครงสร้างของระบบสุขภาพโลก; กลไกการให้ทุนสนับสนุนของโลก เป็นต้น และหาทางให้มีผลสัมฤทธิ์ได้จริง (๓) ทำความเข้าใจว่า แนวโน้มใหญ่ของโลกในปัจจุบัน มีผลอย่างไรต่อการเกิดโรคระบาดใหญ่ในอนาคต และเสนอแนะกิจกรรมด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ที่จะช่วยป้องกันและขจัดการระบาดใหญ่ในอนาคต
ทั้งสาม subtheme เสนอ ชื่อของ session ในการประชุม และ กิจกรรมที่จะดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ สำหรับเก็บข้อมูลไปประชุม Organizing Committee เพื่อร่วมกันออกแบบการประชุมช่วงปลายเดือนที่ภูเก็ต
วางแผนอนาคต (ที่ไม่แน่นอน) กันว่า PMAC 2022 จะเป็นการประชุมแบบลูกครึ่ง (hybrid) โดยสถานที่ประชุมอยู่ที่ภูเก็ต มีคนมาประชุมที่ภูเก็ตเพียง ๓๐๐ คน หากสถานการณ์ของโควิดเอื้ออำนวย หากสถานการณ์ไม่เอื้อ ก็เป็นการรประชุมเสมือนอย่างเดียว
วิจารณ์ พานิช
๒๕ พ.ค. ๖๔
ไม่มีความเห็น