เมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) ทีมงานจากศูนย์แพทย์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางกลับบ้าน กลับไปที่ทำงาน หลังจากที่พากันมาเสียสละ เดินทางมาวัดปฏิบัติธรรมตั้งแต่เย็นวันศุกร์ แต่ทว่า "ประสบอุบัตเหตุ" ถูกคนเมาขับรถชนท้าย
อ้าว... ทำไมมาทำบุญมาปฏิบัติธรรม กลับไปยังไม่ถึงบ้านก็เจออุบัติเหตุเลย
ทำดีได้ดีมีที่ไหน...?
-------------------------
เมื่อข้าพเจ้าได้ทราบว่าเกิดอุบัตเหตุขึ้นกับคณะนี้ ก็ได้นึกย้อนถึงคำเทศน์ของพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ ซึ่งได้เคยฟังท่านปรารภเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
"พระอาจารย์สมภพเคยสงสัยเรื่องกรรม เมื่อท่านทำบุญทำกุฎิถวายวัด และประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ (มีคนตายกว่า 20 คน) ท่านต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 41 วัน ต้องผ่าตัดม้ามทิ้ง ฯลฯ ทำให้ท่านสงสัยว่า ทำไปเมื่อทำบุญสร้างกุฏิอย่างนั้นผลบุญจึงกลายเป็นเคราะห์กรรม? ทำไม เมื่อก่อน กิน-เที่ยวสรรพัดอยู่กับอบายมุขเป็นประจำ จึงไม่เห็นเป็นไร เข้าทำนองว่า “ทำดีได้ดี มีที่ไหน...?”
พระอาจารย์สมภพบอกว่า ไม่ได้คำตอบเป็นที่พอใจจากพระอาจารย์ใดๆ จึงคิดว่า บาป-บุญคงไม่มีจริง
แต่มีคำตอบในพระไตรปิฎก กรรมนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนและยาวไกล กรรมบางอย่างให้ผลข้ามชาติหรือข้ามหลายๆชาติสุดแต่ว่าจะได้โอกาสเมื่อใด พระอาจารย์สมภพอ่านพระไตรปิฎกโดยตรงจึงเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรง ยิ่งเมื่อท่านอ้างคำบาลีประกอบ (พร้อมคำแปลเสมอ) ก็ยิ่งทำให้เข้าใจชัดขึ้น... (ข้อมูลจาก https://siamrath.co.th/n/99901)
ข้าพเจ้าขอโอกาสสรุปจากคำปรารภของท่านพระอาจารย์สมภพให้ทุกท่านได้เข้าใจได้ว่า...
เราทุกคนมีหนี้กรรมที่ติดตามตัวหลายภพหลายชาติ ซึ่งเจ้ากรรมนายเวรเขาก็ติดตามเราไม่ขาดหาย แต่ทว่า... เจ้าหนี้เค้าก็เห็นว่า เราไม่มีตังค์ ไม่มีเงินใช้เค้า ก็คือไม่มีบุญหรือกุศลกรรมที่จะชดใช้เค้า เขาก็เฝ้าติดตามเราอยู่เฉย ๆ แต่เมื่อใด เรามีเงิน หรือมีบุญ เขาก็มาตามทวงให้เราชดใช้กรรมโดยทันที...
----------------------------------
ครูบาอาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำในเรื่องความเห็นถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นมาเราจะได้มีปัญญาใช้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้อง
ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทีมงานที่เกิดอุบัติเหตุ ก็ได้ตอบข้อความกลับมาว่า....
"ถูกรถชนท้ายค่ะ"
คุมสติได้ไม่เจ็บค่ะ
"ให้อภัยเขาค่ะ"
"เมาเหล้าด้วย ไม่เรียกค่าเสียหาย ไม่เจ็บทั้งสองฝ่ายก็ดีแล้วค่ะ"
นี่เองเรียกว่า "สัมมาทิฏฐิ" เข้าใจเรื่องกรรม และกฏแห่งกรรม ไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาทต้องให้ข้ามภพข้ามชาติ เมื่อเขามาให้ใช้หนี้ ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะจบ ๆ กันไปในชาตินี้
----------------------------------
หลาย ๆ ครั้งข้าพเจ้าจะบอกคณะที่มาปฏิบัติธรรมเสมอว่า...
การปฏิบัติอยู่ในวัดนั้นเป็นแค่แบบฝึกหัด ทุกอย่างมันง่ายไปหมด เพราะครูบาอาจารย์ท่านจัดสิ่งแวดล้อมไว้ให้เอื้อต่อการประพฤติปฏิบัติ คนที่มาส่วนใหญ่ก็ตั้งมามาปฏิบัติ สิ่งกระทบก็น้อย ผัสสะก็ถูกจำกัดด้วยข้อวัตรปฏิบัติ แต่การปฏิบัติที่แท้จริงนั้น อยู่ที่บ้าน อยู่ที่ทำงาน และครั้งนี้ การปฏิบัติหรือโจทย์ในการภาวนาเกิดขึ้นระหว่างทางจากวัดกลับบ้านเลยทีเดียว จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ดูได้ตอนนี้แหละ
การเสียสละนั้น เป็นคำพูดที่ฟังดูแล้วง่าย ๆ แต่เมื่อใดที่เกิดเหตุการณ์ทั้งดีทั้งร้าย ขอให้เราเสียสละทุกอย่างออกไปให้ได้อย่างแท้จริง
สิ่งภายนอกก็คือสิ่งภายนอก... ขอให้นำสิ่งภายนอกมาพัฒนาสิ่งภายในก็คือจิตใจของตนเอง
ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นรถ ลาภ ยศ สรรเสริญ สิ่งอำนวยความสะดวกทุกสิ่งทุกอย่างนั้นคือ "กามคุณ" แต่ถ้าหากเราไปติดไปหลงมันก็จะกลายเป็น "กามโทษ"
อย่างอุบัติเหตุครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน รถยนต์ ถ้าเราใช้เป็นก็เป็นคุณ ทำให้เราเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก เราก็ดูแลระวังรักษาเป็นอย่างดี ขับรถด้วยความไม่ประมาท แต่ทว่าเมื่อคนอื่นประมาท เราก็ต้องใช้ความประมาทเหล่านั้นมาเตือนสติตนเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นนำปัญญามาให้เรา การเจริญมรณานุสสติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้เราไม่เผลอ หลงประมาทไปในชีวิต ว่าเรายังไม่แก่ ยังไม่ตาย ยังอยู่อีกนาน
นี้แลพระพุทธองค์ท่านจึงทรงเมตตาตรัสโอวาทครั้งสุดท้ายไว้ให้แก่เราทั้งหลายว่า
"สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด..."
ไม่มีความเห็น