ความเป็นแพทย์ยังไม่เปลี่ยน แต่ยุคสมัยเปลี่ยน
ศ. นพ. สุรศักดิ์ บูรณตรีเวทย์ ส่งข้อเขียนของ อ. นพ. สตางค์ ศุภผล (ศูนย์การศึกษาแพทย์ทางคลินิก รพ. ขอนแก่น) มาให้ เพื่อลงใน บล็อก ผมเห็นว่าเป็นข้อเขียนที่มีประโยชน์ จึงช่วยนำมาลงไว้เพื่อช่วยเผยแพร่อีกทางหนึ่ง
อ.นพ. สตางค์ ศุภผล Thai Transformative Learning for Medicine (FB: (1) TTMD: Thai Transformative Learning for Medicine | Facebook)
“ความเป็นแพทย์ยังไม่เปลี่ยน แต่ยุคสมัยเปลี่ยน”
#นักศึกษาแพทย์เลว
แฮชแท็กนี้ มีทั้งเสียงต่อต้านและพยายามให้ความเข้าใจ
เป็นปรากฎการณ์ที่น่าจะทำให้สถาบันผลิตแพทย์ต้องหันมาทบทวนว่า
“เราบ่มเพาะให้นักศึกษาแพทย์เป็นแพทย์ที่แท้จริงแล้วหรือยัง” แพทย์ที่เติบโตผ่านประสบการณ์โชกโชน และเห็นคุณค่าของวิชาชีพแพทย์
จะทราบดีว่า “การมีความสุขอยู่ในวิชาชีพไม่ง่าย”
แม้ว่าภายนอกวิชาชีพแพทย์จะดูได้รับการยกย่อง มีรายได้ดึงดูดใจ
มีหน้ามีตาได้รับการยอมรับนับถือในสังคม
แต่ในเส้นทางการเป็นแพทย์
ก็ต้องผ่านอุปสรรค และมีความอดทนพยายามมากมาย
จึงจะยืนหยัดในวิชาชีพแพทย์ได้
สิ่งที่เผยแพร่ทางสื่อโซเชียล #นักศึกษาแพทย์เลว เท่าที่อ่านดูส่วนใหญ่ #เป็นความจริง
ถูกบอกเล่าออกมาด้วยน้ำเสียงและมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่แตกต่างและไม่คุ้นชินโดยจากคนรุ่นก่อน ๆ
แพทย์ทุกคนต้องผ่านการหล่อหลอมให้มีจิตใจเข้มแข็ง�(ไม่ต่างกัน #ฝึกทหาร ที่กำลังถูกมองต่างออกไปในคนรุ่นใหม่เช่นกัน)
วิธีการเดิมมันได้ผลในอดีต แต่ก็เริ่มถูกไม่เข้าใจโดยคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน
เป็นปรากฎการณ์ร่วมของสังคม
ที่คนรุ่นใหม่อยากมีสิทธิ์ที่จะบอกว่า เขาชอบหรือไม่ชอบอะไร ด้วยน้ำเสียงที่สังคมอาจจะรับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกกดดัน และคาดหวังการเปลี่ยนแปลง
ความจริงอย่างหนึ่งของวิชาชีพแพทย์ที่ได้รับการยอมรับ
และอาจจะไม่ได้พูดถึงกันในเชิงลบอย่างกว้างขวางอย่างในตอนนี้
มันซ่อนอยู่ในท่าทีเข้มงวดของอาจารย์แพทย์
การฝึกปฏิบัติงานในระหว่างเรียนอันนักหนากว่าการเรียนวิชาชีพอื่น ๆ
แผงอยู่ในการสอนแพทย์ “no pain, no gain” ที่ปฏิบัติกันมา
คือ เราต้องการแพทย์ที่ ปรับตัวกับ “ความหนักหนาสาหัส” ของการเป็นแพทย์ได้
และสิ่งสำคัญที่จะทำให้แพทย์ ไม่ว่าหมอรุ่นเก่า หมอรุ่นใหม่ ผ่านความหนักหนาสาหัสเหล่านั้นมากได้
คือ การรับรู้ถึง #คุณค่าของวิชาชีพแพทย์
ต้องยอมรับว่า แพทย์จำนวนมากที่ยังเลือกวิชาชีพแพทย์ที่หนักกว่าอาชีพอื่น
และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตคน
เพราะแพทย์เหล่านั้นยังรับรู้ถึงคุณค่าของวิชาชีพแพทย์
วิชาชีพที่ทำให้มีโอกาสที่แสดงความเมตตากรุณา
ความเห็นอกเห็นใจให้ความช่วยเหลือ
ให้การดูแลชีวิตคนแต่ละคนให้รอดพ้นจากความเจ็บป่วย ความทุกข์ทรมานและความตาย
ได้สร้างคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่ได้ทำประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์ ซึ่งวิชาชีพอื่น ๆ อาจจะทำได้ไม่เสมอเหมือน เมื่อตระหนักถึงคุณค่าวิชาชีพแพทย์ ก็ตามมาด้วย ต้องมี #ความรับผิดชอบ
ความรับผิดชอบที่ทำให้แพทย์ต้องทำงานหนัก ทั้งที่ไม่อยากทำ
ต้องไม่หลับไม่นอน ทั้งที่ต้องการการพักผ่อน
แต่เมื่อคนไข้ยังมี ยังต้องการการช่วยเหลือ
ความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ ต่อหน้าที่ จึงทำ
และแพทย์จำนวนไม่น้อยก็ทำด้วยความจริงใจ
เปรียบเสมือน หนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่บอกว่า “พลังอำนาจที่มีก็จะตามมาด้วยความรับผิดชอบ”
แพทย์ที่ตระหนักถึง #คุณค่าวิชาชีพ และ #มีความรับผิดชอบ อย่างเต็มเปี่ยม
จะผ่านสถานการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ทั้งครูดุด่าจนทุกข์เศร้าใจ คนไข้ตายโดยไม่ตั้งใจ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะคนไข้ยังวิกฤต และมีจำนวนมาก การทำงานที่เสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพ (เช่น ช่วงโควิดระบาด)
แน่นอนตอนแรกก็ทุกข์ใจแสนสาหัส และต้องปรับตัวมาก
แต่ประสบการณ์และการเรียนรู้
ก็ทำให้เขาผ่านสิ่งเหล่านี้มาได้อย่างเข้าใจและรู้ว่าจะทำอะไรอย่างไรให้เหมาะสมเพื่อดูแลกายและใจตัวเอง
พร้อมทั้งยังเกิดการดูแลรักษาคนไข้ที่เหมาะสมไปได้ด้วย อาจจะไม่ได้ดีไปทุกอย่าง
แต่ก็ดีที่สุดในแต่ละสถานการณ์ที่ต้องจัดการแก้ปัญหา
เรียกว่ากลายเป็น #Resilient doctor (แพทย์ผู้รับมือได้ทุกสถานการณ์)
Resilient doctor เป็นคุณลักษณะที่แพทย์ต้องค่อย ๆ สั่งสม
จากการสอนสั่งของอาจารย์แพทย์ และการเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวแพทย์แต่ละคน
เราจะทำอย่างไรให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้
และกลายเป็นแพทย์ที่ต่อสู้ปัญหา
มากกว่าให้ปัญหาเปลี่ยนแปลง
วิธีการสอนเดิมอาจจะเหมาะกันรุ่นเก่า
แต่อาจจะไม่เริ่มไม่เหมาะกันคนรุ่นใหม่
เห็นได้ชัดจากเสียงสะท้อนที่เขาพยายามสื่อสารออกมา�
ต้องยอมรับว่าคนรุ่นใหม่อาจจะทนทานแรงกดดันได้ไม่เท่าคนรุ่นเก่า
ไม่ได้เรียนรู้จากความทุกข์ทน และรู้สึกผิดเพื่อผลักดันตัวเอง
ไม่ได้รับรู้ได้เสมอไปว่า อาจารย์ดุเพราะหวังดี
เพราะความหวังดีที่เขาเคยได้รับมันตรงไปตรงกว่านั้น ��
ต้องยอมรับว่าการใช้อำนาจในกระบวนการเรียนการสอน
ทำให้อาจารย์เผลอที่จะควบคุม ดุว่า สั่งสอน ขู่เข็น เพื่อให้นักศึกษาทำได้อย่างที่ต้องการ
อาจจะไม่ได้นึกว่าในมุมมองนักศึกษานั้นคือกำลังลดทอน “ความเป็นมนุษย์” ของนักศึกษา
เป็นผลข้างเคียงคือการต่อต้าน มีบาดแผลในจิตใจ และอาจคุ้นชินนำไปใช้กันคนอื่น ๆ หรือคนไข้
#ยังไม่ได้ต้องเลือกว่าจะทำอะไร
เพราะทุกวิธีการก็มีข้อดีข้อเสีย ความยากง่ายต่างกันในแต่บริบท
เพียงแต่ลองเปิดใจมองกว้าง ๆ ว่า
ทางเลือกในการบ่มเพาะให้ #นักศึกษาแพทย์เป็นแพทย์ที่แท้จริง
มีได้หลากหลายวิธี
และเปลี่ยนแปลงได้ตามสถาการณ์ของสังคม
หรือแม้แต่ตัวนักศึกษาแพทย์แต่ละคน
ไม่ว่าคนรุ่นเก่า หรือ รุ่นใหม่
อาจารย์แพทย์ หรือ น้อง ๆ นักศึกษาแพทย์ในปัจจุบัน
ลึก ๆ แล้วที่ยังเลือก อยู่ในเส้นทาง “การเป็นแพทย์”
การไม่หลุดจากเส้นทางไปก่อน
ก็เพราะยังต้องการเข้าถึง
#คุณค่าของวิชาชีพและความเป็นแพทย์ที่แท้จริง
ไม่ต่างกัน
เคยเห็นอาจารย์แพทย์ดุด่านักศึกษาและฉีกใบคำสั่งแพทย์ต่อหน้า นศ เห็นแล้ว นศ คงเครียดอย่างหนักแต่ก็ทน ในที่สุดอาจารย์คนนั้นก็ลาออกไปค่ะ
วันนี้ 28-11-2563 เป็นวันเกิดอาจารย์ขอให้คุณพระคุ้มครองอาจารย์ให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขตลอดไปนะคะแก้ว อุบล จ๋วงพานิช
กราบขอพร อาจารย์ เนื่องในวันเกิดของ ครู KM ครับ
สุขสันต์วันเกิดค่ะท่านอาจารย์ ขอให้บุญรักษา พระคุ้มครองอาจารย์ ให้มีสุภาพแข็งแรงปัญญาเฉียบแหลมมิรู้คลาย มีความสุขทุกทิวาราตรีกาลค่ะ