โดยปกติวิสัยผมไม่ใช่คนที่มักจะเอ่ยอ้างถึงหลักธรรมต่าง ๆ บ่อยนัก แต่ล่าสุดมีนิสิตรุกคืบเข้ามาขอสัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับหลักคิดในการให้บริการ รวมถึงหลักธรรมที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการทำงาน ทำเอาผมนิ่งอึ้งและขบคิดอยู่นานพอสมควร...
(๑) "บริการ คือ งานของเรา" เป็นวาทกรรม (discourse) ที่ผมนำมาบอกกล่าวต่อนิสิตว่าเป็น "หลักคิด" ที่ผมยึดปฏิบัติสืบมาตั้งแต่เข้ามาเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย ซึ่งวาทกรรมนี้กองกิจการนิสิตก็เคย "ชู" เป็น "สโลแกน" ของการทำงานมาแล้วในยุคสมัยหนึ่ง และจึงไม่แปลกที่นิสิตจำนวนไม่น้อยที่มักจะโทรศัพท์มาใช้บริการปรึกษาหารือเรื่องต่าง ๆ กับผมโดยไม่จำกัดเวลาว่าจะเป็นเช้า บ่าย ค่ำ หรือแม้กระทั่งดึกดื่นเที่ยงคืนก็ไม่เคยว่างเว้น
และถึงแม้บุคลิกภายนอกของผมจะดูเป็นคนตรง ห้าว กระด้างไปบ้าง แต่ทั้งปวงก็คือส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความกระตือรือร้นที่มีต่อการให้บริการและมี "นิสิต" อยู่ในหัวใจของการให้บริการเป็นที่ตั้ง จนบางคนขนานนามว่าผมมีวิถีการให้บริการในแบบ "ถึงลูกถึงคน" และ "โหด มัน ฮา" หรือแม้แต่ "ใจดีแต่โมโหร้าย" ด้วยเช่นกัน
กระนั้น ผมก็ไม่เคยนิ่งดูดายในชะตากรรมของนิสิต โดยเฉพาะในเรื่องของกิจกรรมนิสิตและสวัสดิการนิสิต ผมจะไม่เคยเกี่ยงงอนเมื่อนิสิตร้องขอให้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา ถึงแม้บางครั้งเรื่องนั้นจะนำพาให้ชีวิตมีริ้วรอยบาดแผลอย่างมากมายทั้งที่เราเองก็ถูกต้องและชอบธรรม
(๒) ขณะที่ด้านของหลักธรรมที่ควรมีใน "หัวใจของผู้ให้บริการ" นั้นผมได้หยิบหยกเอาหลักธรรม 3 ประการ (ธรรมตรัยลักษณ์) มาเป็นหัวข้อของการเสวนา โดยละทิ้งประเด็นการสัมภาษณ์แต่หันเหชวนนิสิตเรียนรู้และแลกเปลี่ยนในเรื่องดังกล่าว
กล่าวคือ ผู้ให้บริการที่ดีควรยึดมั่นใน พรหมวิหาร 4 อิทธิบาท 4 และสังคหวัตถถุ 4 ซึ่งทั้งปวงนี้ก็มิใช่เรื่องแปลกใหม่ ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่ทางความคิดในการให้บริการ หากแต่เป็นความ "ร่วมสมัย" ที่ยัง "ทันสมัย" อยู่เสมอ !
และอาจเรียกได้ว่าหลักธรรมดังกล่าวคือ สารัตถะอันสำคัญที่ควรมีและมีอยู่อย่างล้นเหลือในจิตวิญญาณแห่งการให้บริการ (Sense of service)
ก่อนยุติการสัมภาษณ์และเสวนา "เรียนรู้ แลกเปลี่ยน" กันในวันนั้น ผมยังไม่ลืมย้ำเตือนกับนิสิตว่า นิสิตเองก็ต้องเข้าใจและเห็นใจในภาวะของการให้บริการของเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน มิใช่รั้นแต่จะเอาความปรารถนาของตนเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งต้องไม่ลืมว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่ปรากฎถึงแม้จะเป็นสัมผัสแรกที่รับรู้ง่ายแต่ก็ไม่ควรให้ราคาค่างวดมากไปกว่าภาพลักษณ์ภายในที่ยังซ่อนอยู่ในตัวตนของผู้ให้บริการ
เพราะมหาวิทยาลัยจะน่าอยู่น่าอาศัยหรือไม่นั้น คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าต้องมีผู้ให้บริการที่ดีแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ผู้ใช้บริการก็ต้องเป็นผู้ใช้บริการที่ดีด้วยเช่นกัน
เหรียญมีสองด้าน สังคมมีความหลากหลายทั้งกายภาพและชีวภาพ แต่ความแตกต่างทางความคิด คือ ความงดงามของสัตว์สังคม (ใช่หรือไม่)
นิสิตคนนั้น ตอบกับผมสั้น ๆ ว่า "ใช่ค่ะ.."