ไม่รู้ซิ ผมรู้สึกว่า เราถูกโปรแกรมให้คิด ให้ทำ ให้ใช้ชีวิต ตามฟอร์แมทของระบบๆ หนึ่ง ที่ไม่ได้มีความปรารถนาดีกับเรานัก !
ตั้งแต่เราเป็นเด็กเราจะถูกสอนว่า ต้องเรียนเก่งๆ โตขึ้นจะได้ทำงานดีๆ มีเงิน ซื้อของ ซื้อรถ ซื้อบ้าน มีครอบครัว เที่ยว ได้ทุกอย่างที่ต้องการ มีความสุข...
แล้วมันจริงหรือ เราใช้ชีวิตตามชุดความคิดนี้แล้วเป็นไปอย่างที่เขาว่าไม๊ มีความสุขไหมล่ะ
พูดในภาพรวมนะ คนที่ทำไม่ได้ตามฟอร์แมทนี้ ก็เป็นทุกข์ แล้วคนที่ทำได้ ก็ยังเป็นทุกข์อีก ยังมีปัญหาต่างๆ ไม่รู้จักจบจักสิ้น ปัญหาหนี้ ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาโกง ปัญหาชีวิตคู่ ปัญหาอบายมุข ปัญหาพ่อแม่ลูก ปัญหาการเมือง ฯลฯ
คนที่มีความสุขจริงๆ น้อยถึงน้อยมาก และส่วนมากที่มีความสุข เพราะเขาคิดเป็น ใช้ชีวิตเป็น ต่างหาก
แทบไม่ได้เกี่ยวกับที่ถูกสอนๆ มาเลยด้วยซ้ำ
แสดงว่าฟอร์แมทนี้ มันเป็นเท็จ น่ะซิ สอนในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง
ผมถึงบอกว่า ฟอร์แมทนี้ ไม่ได้มีความปรารถนาดีกับเรานัก มันโปรแกรมสมองเราไปในทางที่ผิด
เราถูกหลอกครับ
เราไม่เคยถูกสอนให้คิดให้เป็น ให้ใช้ชีวิตให้เป็น เวลาเจอปัญหาเรื่องนี้ ให้แก้แบบนี้นะ ไม่มี
คนที่คิดเป็น ส่วนมากมาจากประสบการณ์ทั้งนั้นเลย หรือ พ่อแม่สอน ซึ่งก็สอนจากประสบการณ์อีก
ผมถามนะ เรื่องจริงพวกนี้ ทำไมไม่ถูกสอนกัน ไม่สร้างฟอร์แมทที่ถูกต้อง ไม่โปรแกรมสมองให้ถูก
เราจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ ไม่ว่าจะเรียนเก่งหรือไม่เก่ง ทำงานอะไร หรือมีเงินเท่าไหร่ก็ตาม
ผมทำตามพระราชดำรัส เศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่อยู่ กทม. จนขณะนี้อยู่ เขาใหญ่ ก็สุขสบายดี ซาบซึ้งว่า ท่านสอนของจริง ท่านสร้างฟอร์แมทที่ถูกต้องไว้
นอกจากนี้ก็ดำเนินตามรอยพระพุทธเจ้าสอน ชีวิตก็สุขสงบ ไม่วุ่นวาย
ผมไม่เอาหรอก ฟอร์แมทที่ไม่ปรารถนาดี และก็อยากบอกคนอื่นว่า สิ่งรอบตัวเรามันหลอก มันไม่จริง
ของจริงอยู่เบื้องบน แต่ก็สัมผัสได้ แค่ตั้งใจหาให้ถูก และกล้าจะเปลี่ยนตัวเอง แค่นั้น
I agree with you in your observation. -we spend too much trying to be what they say ‘we should be’ -but not enough time to live what we like to live. -in the end we oscillate on the edge of chaos - not knowing who or what we are!
การที่ผู้ใหญ่สอนเรามาแบบนั้น ก็เพราะ ท่าน “ เข้าใจ” ว่า หากเราทำแบบนั้น หรือเป็นแบบนั้นได้ เราก็จะมีความสุข ซึ่งจริง ๆ แล้ว ท่านเหล่านั้นก็ปรารถนาดีนั่นแหละ ไม่มีเจตนาจะให้ลูกหลานลำบาก ซึ่งหากย้อนกลับ ผู้ใหญ่ท่านก็ไม่เคยทำได้ตามนั้น จึงต้องการให้ลูกหลาน ทำให้ได้ โดยไม่ได้คิดว่ามันเป็นความสุขไหม หรือถ้าทำได้จะมีความสุขจริงหรือเปล่า ?? คุณมะเดื่อก็เชื่ออย่างอาจารย์กล้วยนะว่า ความสุข ความสบาย มันอยู่ที่ตัวเรา ใจของเรา รู้จัก “ พอ” อย่างพ่อหลวงสอน ไม่ใฝ่หาความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น นี่แหละสุขแทั..สุขใจจ้ะ
เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ … มีอีกมุมมองหนึ่ง … ต้องให้เขาได้เผชิญกับความทุกข์ก่อน เมื่อทุกข์น้อยลงก็จะละเหตุแห่งความวุ่นวาย มาสบายตอนหลัง …