นับเป็นความโชคดีที่ผมได้มีโอกาสไป เข้า Camp EQ ที่วัดธรรมอุทยาน จ.ขอนแก่น ตาโครงการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของปูนแก่งคอย (C-Cement) ก็ไปมาแล้วหลายครั้งครับ ทั้งที่ไปเป็นผู้เรียน และเป็นคุณอำนวย แต่ไปทุกครั้งก็ได้ฝึก “สร้างสติ” “ฝึกการดูจิต” ซึ่งช่วยได้มากในเรื่องของการควบคุมอารมณ์
แนวทางการฝึกปฏิบัติที่วัดธรรมอุทยานนั้น เป็นการฝึกอยู่กับปัจจุบัน ฝึกให้รู้ตื่น รู้ตัวอยู่เสมอ การฝึกทำได้ทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นนั่ง นอน ยืน เดิน กิน ทำงาน ล้างถวยล้างจาน ทุกอย่างถือเป็นการฝึก ฝึกสร้าง “ตัวรู้” รู้อยู่กับปัจจุบัน
ครูบาอาจารย์มักจะบอกว่า ถ้าอยากรู้ว่าเราฝึกได้ดีขนาดไหน ต้องรอให้เจอ “โจทย์” ซึ่งคงหมายถึงเหตุการณ์ใดๆ ที่มากระทบกระเมือนต่ออารมณ์ ของเรานั่นเอง และเมื่อเจอ “โจทย์” แล้วให้สังเกตว่าเรา มีอาการเกิดของจิต หรือเปล่า ถ้าเกิดแล้วเรา ระงับได้อย่างไร .....
อย่างเช่นผมวันนี้เจอโจทย์ ซึ่งเป็นโจทย์ที่เจอเป็นประจำ นั่นก็คือการขับรถครับ แต่ก่อนนั้นผมจะเป็นคนทีขับรถเร็ว แต่พอผ่านการฝึกมาแล้วหลายครั้ง ปัจจุบันขับไม่เร็ว ถือเป็นการฝึกสติและช่วยชาติ ไปด้วย แต่เรากำหนดตัวเราได้ กำหนดคนอื่นไม่ได้ ขณะที่ผมขับรถอยู่บนถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าจากอำเภอแก่งคอย ไป ตัวจังหวัดสระบุรี ขับอยู่ที่ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับอยู่เลนกลาง (ถนนสามเลน) ทันใดนั้นเอง มีรถใหม่ป้ายแดง วิ่งแซงมาทางด้านซ้าย ทั้งที่เลนขวาก็ว่าง เท่านั้นยังไม่พอ ปาดตัดหน้ารถผมจากเลนซ้ายสุดไป เลนขวาสุด ชนิดที่ว่าเฉียดหน้ารถผมไปนิ๊ดเดียว ไม่ต้องพูดอะไรเลยครับ ผมเบรค จนตัวโก่ง ถึงแม้รถผมจะเก่าแต่ก็ไม่อยากได้สีรถใหม่มาแปดเปื้อนครับ สีมันจะไม่เท่ากัน ...หากเป็นสมัยก่อนผมคงไล่กวดไปปาดหน้าเอาคืน หรือไม่ก็ด่าไฟแลบป แล้วล่ะครับ ...แต่ครั้งนี้ ..เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว เราสามารถเบรคได้ และปลอดภัย..ผมเฉยครับ ตัวรู้มันตื่นขึ้นมาทันที นี่ผมเจอโจทย์แล้ว โชคดีจัง.โชคดีทั้งที่เราปลอดภัย และโชคดีที่ได้ฝึกจิต...ผมก็ได้แต่นึกขอบคุณ..ที่มาช่วยสร้างโจทย์..ให้ผมได้ฝึกจิต ฝึกควบคุมอารมณ์ จึงขอยกให้เขาเป็นครูบาอาจารย์ในการฝึกจิตของผมอีกคน..สาธุ สาธุ ขอให้เขาขับรถได้ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ครับ...
ขอบคุณครับ..คุณหนิง..