พระพุทธรูปบูชามีไว้ให้เบา หรือมีไว้ให้หนัก


ตอนนี้ ผมกำลังช่วยพี่ชายขนของ ย้ายบ้านอีกบ้านหนึ่งไปอีกบ้านหนึ่ง มีของอีกกองหนึ่งหนักมากเลยครับ ของในกล่องนั้นเป็นพระพุทธรูปไว้บูชา ซึ่งมีจำนวนมากมาย มีน้ำหนักมาก ผมยกคนเดียวไม่ไหวครับ คงไม่ต่ำกว่า 30-40 กิโล ต้องหามกันหลายคน

ผมก็เลยถามพี่ชาย ว่า ตกลงพระนี่ เรามีไว้ทำให้ตัวเราเบา หรือมีไว้ทำให้ตัวเราหนัก เพราะการขนย้ายของในครั้งนี้ มีกล่องพระพุทธรูปบูชาหลายกล่อง มากมาย แต่ละกล่องหนักมากเลย

คำถามคือ ..เรามีพระไว้นี่ มีไว้เพื่อปฏิบัติดี หรือไว้ทำอย่างอื่น ทำไมกล่องใส่พระจึงหนักเหลือเกิน หนักกว่าของอย่างอื่นทั้งหมดที่มีอยู่ในทุกกล่อง ทั้งๆ ที่ของอย่างอื่น มันน่าจะหนักกว่าพระ ปรากฏว่า กล่องบรรจุพระพุทธรูปทั้งหลายนี่ หนักที่สุดในจำนวนกล่องทั้งหมดที่ขนย้ายมา ผมก็เลยมาตั้งข้อสังเกตว่า

ตกลงคนไทยส่วนใหญ่ มีพระบูชาไว้เพื่อให้ตัวเราเบา หรือมีไว้เพื่อให้ตัวเราหนัก ครับ

ใครมีข้อคิดเห็นอย่างไรครับ ช่วยเสนอแนะความเห็นด้วยครับ ขอบคุณมากครับ........

หมายเลขบันทึก: 67809เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2006 17:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

การแบกพระที่สะสมเอาไว้เป็นความทุกข์อย่างหนึ่งในโลก...พี่ชายอจ.ท่านสะสมมากพอดูเลยนะคะ..เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระอยู่ครั้งหนึ่งค่ะ..มีพระสมเด็จอยู่องค์หนึ่งสะสมไว้ที่บ้านนานแล้วต่อมามีคนแนะนำให้เราลองไปตรวจพระว่าใช่พระสมเด็จหรือไม่ใช่..ความโลภค่ะทำให้เรานำไปตรวจผลเซียนพระบอกว่าเป็นพระเก่าแต่ไม่ใช่สมเด็จฯแท้..มีสองความรู้สึกที่เกิดขึ้น หนึ่งสบายใจมากขึ้นที่จะแขวนท่านติดตัวไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องห่วงถูกฆ่าชิงพระ..สองเสียดายเงินสิบกว่าล้านที่คิดว่าจะได้หากเป็นพระจริง..แต่หตุผลข้อแรกมีมากกว่าค่ะใจก็เลยเบาไม่หนัก..

 

     ทั้งหนัก ทั้งเบา ครับ !

    ใครไม่รู้คงนึกว่าพูดกันเรื่องภารกิจยามเช้า .. เปล่าเลยครับ .. ประเด็นของท่าน ดร. แสวง รวยสูงเนิน 
 คือ .. 
   มีพระบูชาไว้เพื่อให้ตัวเราเบา หรือมีไว้เพื่อให้ตัวเราหนัก ?   
   
คำตอบของผมคือ ทั้งหนัก ทั้งเบา ครับ !

  • ทีว่า เบา คือ เพื่อความ เบากาย เบาใจ  ด้วยเป็นเครื่องเตือนให้เห็นแจ้งในสัจธรรม จนไม่โง่ไปแบกอะไรที่ไม่ควรแบกให้หนักอีกต่อไป เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ
  • ที่ว่า หนัก  คือมีไว้เพื่อให้เตือนใจให้ หนักแน่น ไม่หวั่นไหวไปง่ายๆกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น โลกธรรม ๘

สะสมพระค่ะ ส่วนใหญ่ได้มาเอง ไม่ได้แสวงหา เมื่อก่อนจะแขวนพระประจำ เพราะสบายใจ แต่เดี๋ยวนี้จะนำไว้บูชาที่บ้าน ยกเว้นไปต่างประเทศ(จะนำติดตัวไปด้วยเพื่อความอบอุ่นใจ) ก็แปลกนะคะว่าการสวดมนต์ไว้พระประจำ เช้า เย็นจะช่วยให้รู้สึกว่ามีพระอยู่ในใจ และอบอุ่นใจ แม้จะไม่ได้แขวนพระก็ตาม

  • ชอบคำตอบของ Handy ครับ
  • จริงแล้ว  พระพุทธรูปนี้   มีหลัง พุทธปรินิพพาน ตั้ง 500 ปี    เป็นพวกเราที่ "อยาก" มีกันเอง
  • ถ้าพระเยอะนัก   ก็เอาไปถวาย ลพ กล้วย ที่ วัดป่าธรรมอุทยาน  ขอนแก่น  ก็ได้ครับ    ลพ กล้วยท่านเอไปบรรจุใน พระใหญ่ สร้างที่เขื่อนป่าสักฯ สระบุรี
  • จิตอยู่กับพระ  ก็ดีกว่า อยู่กับ เหล้า  อบายมุข ฯลฯ   นะครับ
  • มีพระมาก ห่วงพระ  ก็ให้รู้ว่าเป็นห่วง   คือ  ดูจิต  สอบอารมณ์ตนเองบ่อยๆ     ถ้าเอาพระไปให้คนอื่น จิตเกิดไหม   หวงไหม ห่วงไหม 

 

พระเครื่อง พระพุทธรูป วัตถุบูชาต่างๆล้วนเป็นสิ่งสมมติครับ

หนักหรือเบาก็ล้วนเป็นสิ่งสมมติ จิตปรุงแต่งกันไปเองว่ามันหนัก มันเบา

แท้จริง มันไม่มีหนัก ไม่มีเบา เพราะมันไร้ตัวตนที่แท้จริงครับ......

คุณ Seangja พินิจ พัชรา วรภัทร์

สรุปว่าแบกพระ ดีกว่าแบกเหล้านะครับ และพระทำให้ทั้งจิตใจเบาและหนักแน่น

ขอบคุณครับที่มาให้ตวามเห็นที่ดีมากๆเลยครับ

คุณยอดดอย

คำตอบของคุณทำให้ผมนึกถึง ซุยเป๋ง ในเรื่องสามก๊ก ที่มองโลกทะลุ จนไม่ยอมไปช่วยเล่าปี่

เรียกว่า อยู่เหนือโลกครับ

สิ่งใดไม่ไช่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ สิ่งนั้นไม่ใช่พุทธศาสนา เอ่ ถ้าเป็นอย่างนี้หลาย ๆ อย่างของศาสนาพุทธก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ ดังนั้นก็ไม่ใช่พุทธศาสนาสิครับ

เรียน Aj kae,

ทุกศาสนามีปัญหาเดียวกันคือ

  • มีเนื้อแท้
  • กับเนื้อเทียม

ขึ้นอยู่ว่าใครหยิบตรงไหนไปใช้

พวกแขวนพระเครื่องก็อย่างหนึ่ง พวกเข้าวัดไปขอหวยก็อย่างหนึ่ง พวกบวชเก็บเงินแต่งงานก็อย่างหนึ่ง

เราต้องเลือกมองครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท