๑,๑๔๕ ดวงตาเห็น..ทำ..
ผมมีความเฃื่อว่า..พุทธศาสนา..เป็นสุดยอดแห่งศาสนาแล้วบนโลกใบนี้..องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า..คือสุดยอดแห่งศาสดาเอกของโลก..ท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน..อย่างแท้จริง
คำว่าจริง..ก็หมายความว่า..ทุกคำสอนของพระองค์..ล้วนแล้วแต่พิสูจน์ได้..
อย่างไรก็ตาม..ที่ไม่ต้องพิสูจน์เลยก็คือ..ทุกศาสนาล้วนแต่สอนให้ทุกคนเป็น..คนดี..
แต่ที่เหนืออื่นใด..ประเทศไทยในดินแดนขวานทอง ยังมีอีกหนึ่งบุคคลที่ควรค่าแห่งการเคารพกราบไหว้ ยังติดตราตรึงใจมิรู้ลืม เสมือนหนึ่งว่าพระองค์ทรงเป็นพระอรหันต์ เป็นบุคคลมหัศจรรย์ของไทยและของโลก ที่ทรงอยู่ในดวงใจพสกนิกรเสมอมา..
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช .พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย..“ศาสตร์พระราชา” คือคำสอนที่ยิ่งใหญ่ ในแนวทางแห่งพุทธบารมี ไม่มีใครในโลกใบนี้ที่ไม่เห็นด้วย..แค่ศรัทธาและลงปฏิบัติจริงเท่านั้น..จะเห็นผลเชิงประจักษ์ทั้งส่วนตนและส่วนรวม
จริงๆจะว่าไปแล้ว..ในทุกคำสอนของพระองค์ ล้วนเข้าถึงง่าย..เข้าใจง่าย ในความงดงามแห่งถ้อยคำภาษา..นำพาให้แก่นธรรมนำไปปฏิบัติได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
แต่บางครั้ง..ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไม?เราจึงเข้าไม่ถึง..อาจมีปัจจัยบางอย่างขวางกั้น ถ้าจะพูดไปแล้วก็เหมือนว่าเอ่ยอ้าง..เข้าข้างตนเอง ดังนั้น..จึงจำเป็นต้องเลือก..เพื่อนำมาปรับใช้ให้ตรงกับบริบทของชีวิต..ให้ผลสัมฤทธิ์แห่งการดำรงตนมีประสิทธิภาพและเจริญงอกงามยิ่งขึ้น
ผมคิดว่า..หลักธรรม..ในแต่ละข้อล้วนเป็น..”หัวใจ” ของศาสนาและ คำสอน..ทุกข้อล้วนมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน..ดังนั้นทั้งหมดทั้งมวลจึงไม่จำเป็นต้องท่องจำ..
แต่นำคำที่ชอบและเห็นว่าใช่..มาใส่ใจเพื่อเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ น่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง
ความชัดเจนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดและมองเห็นเด่นเป็นสง่าอยู่กลางใจผมก็คือ..ความอดทนและตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท..ความขยันหมั่นเพียร และความกตัญญูกตเวที..เท่านี้เองก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่า..เป็นคนดีได้ในระดับหนึ่งแล้ว..
ทุกวัน..ผมจึงรู้ซึ้งถึงรสพระธรรมเพียงแค่นี้..แต่ก็รู้สึกและสัมผัสได้ถึงความอิ่มเอมใจ ได้รับอานิสงส์แห่งการทำงาน..ด้วยความอดทน งานจึงราบรื่นและประสบผลสำเร็จ
ส่วนใหญ่แล้วจะทำทันที ไม่มีรีรอ ไม่มีการผัดวันประกันพรุ่ง หากเห็นว่าเพื่อนร่วมงานยังยุ่งๆอยู่ และอยู่ในวิสัยที่ผมช่วยได้ทำได้ผมจะรีบทำทันที ไม่ต้องคำนึงถึงหน้าที่ ศักดิ์ศรีหรือเกียรติยศใดๆ
อย่าคิดเยอะ..เป็นข้าราชการมีงานให้ทำก็ดีแล้ว..แค่ใส่ใจก็จะมีงานน้อยใหญ่ให้มองเห็นทุกวัน..ถามตัวเองว่า..เมื่อดวงตามองเห็นแล้วเช่นนั้น..แล้วใยจึงจะไม่ทำล่ะ...
ทำทันที..จึงไม่มีเวลามาขัดแย้งกับตัวเองหรือใครๆ หลายๆคนจึงได้ชื่อว่า “ปิดทองหลังพระ” เพราะเขาเหล่านั้นมีดวงตาเห็นทำ..และทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน...
เพราะแค่ได้ลงมือทำ ใจก็เป็นสุข..สนุกเมื่อได้ทำงานที่เกิดประโยชน์ต่อชีวิตตนเองและผู้อื่น
ผมยังไม่ถึงขั้นของการ “ปล่อยวาง” ถึงแม้ว่าจะมีดวงตาเห็นทำมาแล้วหลายปี เพราะยังมีความมุ่งหวังเล็กๆที่อยากเห็นความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน..ในโรงเรียนขนาดเล็ก
ที่ไม่ได้ส่งผลถึงตัวผม..แต่เป็นความเจริญก้าวหน้าของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน ในสักวันหนึ่ง..ซึ่งผมจะต้องจากไป..
และยิ่งในอนาคตอันใกล้..ไม่ว่าผมหรือครูท่านใด ล้วนต้องมีหรือถ้าไม่มีก็ต้องเรียนรู้และฝึกฝนให้เกิด..ดวงตาเห็นทำให้จงได้ อันเนื่องมาจากการเรียนการสอนในสถานการณ์เฝ้าระวังและป้องภันพิษภัยจากโควิด๑๙..มีงานให้ผู้บริหารและคณะครูต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างมากมายเหลือเกิน
จึงมาถึงยุคสมัยแล้ว..ที่ไม่ว่าใครหรือตำแหน่งใดก็ตาม ต้องดำรงตนอย่างมีสติ..ทำความดีอะไรได้ต้องรีบทำ..อย่าเอาหูไปนาเอาตาไปไร่..โควิดไม่เคยเลือกข้าง..อย่ารีบปล่อยวางหรือลดการ์ด ใช้ดวงตาเห็นทำนี่แหละ..ไปสู้กับมัน...
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๓
ความเห็น (4)
ดวงตา ที่เห็น “ทำ “ ..โดย ไม่มี รักโลภ โกธร หลง จุดบอด ของชีวิต ให้..เข้ามาบัง.ได้…..จึ่ง เป็น “ดวงตา..เห็น… ธรรม”..พิสูจน์ได้ ดั่งที่เห็น คือ ..คุณครู ผู้ประเสริฐ ที่แท้จริง.ในมายาคติภพนี้…
ขอบคุณครับ..คุณยาย..
ดิฉันเพิ่งดูทีวี พระพยอม กัลยาโณ วันก่อนท่านให้สัมภาษณ์ แล้วพูดเรื่องดวงตาเห็นทำเหมือนกันค่ะ เห็นก็ทำ ไม่เห็นก็ไม่ได้ทำ มีบางคนเหมือนกันที่เห็นแต่ไม่ทำ หรือทำเป็นไม่เห็นเพราะไม่อยากทำ … ธรรมทั้งนั้นนะคะ
ครับ..ดวงตาเห็นทำ..คือ..ธรรม..ขั้นพื้นฐาน..ครับ