๑,๑๐๗ ครอบครัว....ข้าว


"ผมรู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจ และความไว้วางใจที่เจ๊นกมีต่อโรงเรียน ส่งเด็กๆ"ครอบครัวข้าว”ไปให้ผมสอน ประกอบด้วย ข้าวโอ๊ต ตอนนี้อยู่ ชั้น ป.๓ อยู่ห้องเดียวกับน้องสาวที่ชื่อ “ข้าวหอม” และพี่สาวคนโต กำลังจะจบ ป.๖ ชื่อ “ข้าวป้อน”"

        ผมเป็นครูมากว่า ๓๐ ปี ก็เพิ่งจะเจอ ทั้งปีนี้และคาดว่าจะเจอปีหน้าด้วยอย่างแน่นอน เรื่องนี้เริ่มต้นเกิดขึ้นมาเมื่อ ๔ ปีมาแล้ว..และยังดำเนินต่อไป

    คือลูกศิษย์ผมเป็นลูกหลานแม่ค้าขายหมูในตลาดสดในอำเภอ ร้านใหญ่ในจำนวนทั้งหมดที่มี ๒ ร้าน เป็นร้านขาประจำในโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนด้วย

        ชื่อร้านเจ๊นก..มีลูกค้าอยู่ราวร้อยละ ๕๐ ของผู้คนทั้งอำเภอ แบ่งการตลาดให้อีกร้านหนึ่ง ก็ถือว่ารายได้จากการค้าหมูไม่ธรรมดา จึงมีฐานะดี เป็นที่รักและนับถือของคนทั้งตลาด..สามารถนำพาลูกหลานนั่งรถตู้ไปเรียนโรงเรียนเอกชนได้อย่างสบาย..

        แต่เจ๊นกไม่ยอมให้ไป แต่ย้ายลูกหลานออกจากโรงเรียนใหญ่ในตลาด แล้วลงทุนขับรถมาส่งเรียนที่บ้านหนองผือ ระยะทาง ๓ กม.ทุกวัน

        ในปีที่เจ๊นกกับครอบครัวตัดสินใจเช่นนั้น มีเสียงร่ำลือฮือฮาไปทั้งตลาด ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ก็มีเด็กในตลาดย้ายไปเรียน แต่ไม่โด่งดัง พอสมาชิกครอบครัวเจ๊นกขยับนิดเดียว ก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่ว..

        จริงๆ..ก็ไม่ได้ขยับแค่นิดหน่อย ย้ายกันไปเรียนถึง ๓ คน ชั้นอนุบาล ๒ คน และชั้นประถมศึกษา ๑ คน..จนผมรู้สึกได้ถึงการรับลูกค้าไฮโซ..ครั้งแรกในชีวิต

        ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็เหมือนว่าเด็กทั้ง ๓ คนที่มาเรียน ช่วย “เรียกแขก” เข้ามาเรียนหนังสือมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งเช้าและเย็น..จึงมีรถวิ่งเข้ามารับส่งเด็กมิได้ขาด

        ผมรู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจ และความไว้วางใจที่เจ๊นกมีต่อโรงเรียน ส่งเด็กๆ"ครอบครัวข้าว”ไปให้ผมสอน ประกอบด้วย ข้าวโอ๊ต ตอนนี้อยู่ ชั้น ป.๓ อยู่ห้องเดียวกับน้องสาวที่ชื่อ “ข้าวหอม”  และพี่สาวคนโต กำลังจะจบ ป.๖ ชื่อ “ข้าวป้อน”

        ข้าวโอ๊ต..ตัวเล็กๆ พูดไม่รู้เรื่องแต่ฟังรู้เรื่องซุกซนตามประสาเด็กพิเศษ ซึ่งผ่านการคัดกรองเป็นที่เรียบร้อย ไม่ชอบอ่านและเขียนหนังสือ สนใจแต่งานวาดรูป

        ครอบครัวเจ๊นกเข้าใจข้าวโอ๊ตเป็นอย่างดี จึงฝากครูให้ช่วยดูแล ส่วนอีกสองคน “ข้าวหอม” กับ “ข้าวป้อน” ไม่มีปัญหาเลย เด็กผู้หญิงทั้งสองคนสนใจทุกวิชา ชอบอ่านและเขียนหนังสือ ตอนแรกลายมือไม่สวย ตอนนี้ดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจของครูประจำชั้น

        ผมเจอเจ๊นกในตลาด ได้รับทราบข้อมูลว่าเปิดเทอมใหม่ จะมีน้องชายข้าวหอม มาเรียนด้วยอีกคน ชื่อว่า “ข้าวทิพย์” ตอนนี้เรียนอยู่ศูนย์เด็กเล็กของเทศบาล..

        ผมถามปี พ.ศ.ที่เกิด ก็ทราบได้ทันทีว่าเป็นเด็กที่อยู่ในเกณฑ์ ที่ผมจะรับได้อย่างแน่นอน ผมเลยถามข้าวหอมเพื่อจะได้เก็บข้อมูลไว้เป็นการล่วงหน้า...

        “ข้าวหอม..ข้าวทิพย์..เป็นไงบ้าง..เหมือนข้าวโอ๊ตไหม?”

        “ซนเหมือนกันค่ะ แต่พูดรู้เรื่องกว่าข้าวโอ๊ต”

        “เห็นแม่หนูบอกว่า..ข้าวทิพย์มีน้องสาวอีกคนนึง..ยังไม่ได้เข้าเรียนที่ศูนย์เด็กเล็ก” ผมถามข้าวป้อน

        “ค่ะ...น้องข้าวสวย ค่ะ อายุเพิ่งได้ ๓ ขวบค่ะ”

        “ตกลงแม่เธอมีลูกกี่คน”    “๕ คนค่ะ แต่ข้าวทิพย์กับข้าวสวย คนละพ่อกันกับหนู ข้าวโอ๊ต ข้าวหอม กับหนู มีพ่อคนเดียวกันค่ะ” ข้าวป้อนอธิบายให้ผมเข้าใจ..

        “พ่อข้าวทิพย์กับข้าวสวยกับพวกหนูเป็นไงบ้าง?” ผมถามข้าวหอม

        “พ่อรักหนู มากกว่าพ่อจริงๆของหนูเสียอีกค่ะ” ข้าวหอมจีบปากจีบคอพูดอย่างชัดเจนและมั่นใจ

        “ปีหน้า แม่บอกว่าจะพาข้าวสวยมาฝากเรียนก่อน..ครูรับหรือเปล่าคะ” ข้าวป้อนถามผม..”ครูยังไม่แน่ใจต้องดูก่อนนะ..” จริงๆแล้วคงรับไม่ได้ เพราะอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ผมคิดว่า..เอาไว้ค่อยอธิบายให้ผู้ปกครองได้รับทราบ

        “ต่อไปถ้าพวกหนูมีน้องคนเล็กอีกสักคนอย่าลืมตั้งชื่อว่า ..ข้าวกล้อง..นะ”

        “คงไม่มีแล้วค่ะ...แม่ทำหมันแล้ว” ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย..ยัยข้าวหอม..รู้จักคำว่า..ทำหมัน..เสียด้วย

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๒  กุมภาพันธ์  ๒๕๖๓


หมายเลขบันทึก: 675543เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2020 20:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2020 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท