พลังงาน คือ ความสามารถซึ่งมีอยู่ในตัวของสิ่งที่อาจให้แรงงานได้ ความสามารถที่จะทำงานได้ พลังงานเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น รถวิ่งจะมีพลังงานจลน์ เมื่อรถชนกันจะทำให้พลังงานจลน์นั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน พลังงานแสงหรือพลังงานเสียง และอีกตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น เมื่อรถกำลังวิ่งจะมีพลังงานจลน์ เป็นเราเหยียบเบรกจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานความร้อนที่ผ้าเบรค เป็นต้น
แต่วันนี้ผู้เขียนไม่ได้เขียนเรื่องการเปลี่ยนแปลงพลังงานนะครับ แต่จะมาเขียนเรื่องสมการที่เกี่ยวกับพลังงานศักย์โน้มถ่วงซึ่งใช้ในการเรียนการสอนระดับมัธยมปลาย พลังงานศักย์โน้มถ่วงในระดับ ม.ปลาย คือ E=mgh
เมื่อ E แทน พลังงานศักย์โน้มถ่วง
m แทน มวลของวัตถุที่กำลังพิจารณา
g แทน ค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก
h แทน ตำแหน่งความสูงของวัตถุจากตำแหน่งอ้างอิง (ในที่นี้คือระยะผิวโลก) ไปถึงตำแหน่งที่พิจารณา
สมการที่ผมยกมาจะเป็นสมการเส้นตรงครับ กล่าวคือ ถ้านำไปพล๊อตกราฟความสัมพันธ์ระหว่าง พลังงาน (E) กับ ความสูง (h) จะแสดงกราฟเส้นตรง ส่วนมวล (m) และ ค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก (g) เป็นค่าคงที่น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ
แต่เดี่ยวก่อนนะครับ ค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นค่าคงที่จริงหรือเปล่าครับ? ==> คำตอบ คือ ไม่จริงครับ ค่าความเร่งเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นค่าที่เปลี่ยนแปลงตามระยะเหมือนกันครับ ผมจะแสดงความสัมพันธ์ตามการค้นพบของนิวตัน ดังนี้
เมื่อ G แทน ค่าคงตัวโน้มถ่วงสากล (Universal gravitational constant)
M แทน มวลของโลก
r แทน รัศมี แต่นี้ที่นี้ผมจะแทน r = (R+h)
R แทน รัศมีจากแกนโลกถึงผิวดิน ส่วน h กล่าวไปแล้ว
จากนั้นแทน g ลงในสมการ E=mph และจัดรูปจะได้ความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและความสูง (h) ดังนี้
จากนั้นจะนำไปพล๊อตกราฟความสัมพันธ์ระหว่าง พลังงานศักย์โน้มถ่วงกับระยะความสูงจากผิวดิน
- กราฟที่ระยะ 100 เมตร
- กราฟที่ระยะ 1,000 เมตร
- กราฟที่ระยะ 10,000 เมตร
- กราฟที่ระยะ 100,000 เมตร
- กราฟที่ระยะ 1,000,000 เมตร (มาถึงระยะนี้ กราฟเริ่มไม่ตรงแล้วนะครับ)
- กราฟที่ระยะ 10,000,000 เมตร
- กราฟที่ระยะ 100,000,000 เมตร
เราสามารถวิเคราะห์กราฟได้ดังนี้ จะเห็นได้ว่า ที่ระยะตั้งแต่ผิวโลกถึงระยะ 6000 กิโลเมตร เราพบว่า กราฟเป็นเส้นตรงซึ่งมีความสอดคล้องกับสมการที่ผมได้เขียนไว้ในสมการแรก หมายความว่า ที่ระยะใกล้ๆ ผิวโลกเราสามารถอธิบายใช้สมการ E=mgh ในการทำนายพลังงานศักย์โน้มถ่วงได้ แต่ถ้าระดับความสูงเลยระยะ 6000 กิโลเมตรไป เราจะพบว่ากราฟไม่เป็นเส้นตรงแล้วนะครับ ซึ่งต้องใช้สมการที่ 3
โดยสามารถตีความกราฟสุดท้ายได้ดังนี้ สมมติว่าไอรอนแมนกำลังออกแรกผลักวัตถุประหลาดชนิดหนึ่งที่มาจากนอกโลกในช่วงแรก 0 – 6000 กิโลเมตร ให้ออกไปนอกโลก ยิ่งสูงมากขึ้นก็ยิ่งต้องออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไอรอนแมนจะออกแรงมากสุดที่ระยะ 6000 กิโลเมตรจากผิวดิน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ไอรอนแมนจะเริ่มรู้สึกว่าวัตถุนั้นค่อยๆ เบาลงๆ และสุดท้ายจะค่อยๆ ลอยไปในอาวกาศนั้นเอง
ไม่มีความเห็น