ผุด 30 โครงการสร้างสุขภาวะคนพะเยาเน้นอาหารปลอดภัย-ต่อยอดชุมชนปลอดเหล้า


หน่วยจัดการพื้นที่ สสส.เมืองพะเยา ชู 4 ประเด็นหลัก “เกษตรอินทรีย์-สร้างเครือข่ายตลาดปลอดสาร-จัดการขยะ-ส่งเสริมการบริโภคผักในโรงเรียน” พร้อมเร่งขยายผลจากโครงการที่ประสบผลสำเร็จแล้ว โดยมองภาพรวมมากขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพชุมชน และขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ


        นางสาวกิตติกาญจน์ สมฤทธิ์ ผู้รับผิดชอบโครงการการพัฒนาศักยภาพและติดตามสนับสนุนการดำเนินงานโครงการในระดับพื้นที่ จังหวัดพะเยา (Node) เปิดเผยถึงโครงการในปี 2562/2563 นี้ว่า เน้น 4 ประเด็นหลัก คือ เกษตรอินทรีย์ การสร้างเครือข่ายตลาดปลอดสารเคมี การจัดการขยะ และการส่งเสริมการบริโภคผักในโรงเรียน ซึ่งจะมีประมาณ 30 โครงการย่อย

            “ที่ผ่านมา เราส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารทั้งในชุมชน และในโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่โครงการชุดใหม่นี้ จะเน้นทำนาอินทรีย์ เปิดรับกลุ่มคนที่อยากทำให้มารวมกลุ่มกัน เช่น 30 คน  แล้วอบรม ปรับทัศนคติ เพิ่งองค์ความรู้ เริ่มจากกระบวนการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การจัดการพื้นที่ การปลูก การจัดการน้ำ การดูแล เรียนรู้ทั้งจากปราชญ์ท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงขอนักวิชาการเกษตรช่วย”

            ขณะเดียวกัน ก็ต้องสร้างเครือข่ายตลาดปลอดสาร เมื่อมีกลุ่มผู้ผลิตมากขึ้น จะรับสมัครคนปลูกผักอินทรีย์ในพื้นที่อำเภอ เพื่อรวมเป็นกลุ่มปลูกผักปลอดสาร ไปคุยกับทางโรงพยาบาล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน จะได้มีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น และอาจดูไปถึงการแปรรูป แม้ว่าจะไม่อยู่ในโครงการก็ตาม

            ส่วนการจัดการขยะอย่างเป็นระบบนั้น เกิดจากข้อค้นพบที่ว่า การส่งเสริมครัวเรือนแยก และจัดการขยะอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องทำทั้งอำเภอ โดยใช้กลไกเด็ก เยาวชน ในระดับมัธยมเข้ามาช่วยขับเคลื่อน ให้เป็น “ตลาดปลอดถุงพลาสติก” นำร่องที่ตลาดก่อน แล้วจึงขับเคลื่อน ขยายสู่ทั้งอำเภอ

            สำหรับโครงการส่งเสริมการบริโภคผักในโรงเรียน ก็จะมีการขยายผลไปที่บ้านด้วย เมื่อผักงอกงามก็นำมาทำอาหารในโรงเรียน วิธีการนี้จะทำให้เด็กได้กันผักปลอดภัยทั้งในโรงเรียน และที่บ้าน

“โครงการใหม่ จะเป็นการขยายผล และต่อยอดแต่ละชุดโครงการที่ประสบผลสำเร็จในปีที่ผ่านมา เช่น โครงการลดเหล้างานศพ-งานบุญประเพณี ที่บ้านทุ่งเจริญ ต.บ้านมาง อ.เชียงม่วน เดิมทำแค่ระดับหมู่บ้าน ต่อมาขยายไปทั้ง ต.บ้านมาง ได้สำเร็จ  ก็จะขยายต่อไปอีก เพราะ จ.พะเยา เคยครองแชมป์เป็นจังหวัดที่มีคนดื่มเหล้ามากที่สุดของประเทศ และเมื่อมองในระดับจังหวัด อ.เชียงม่วน ก็คืออำเภอที่มีการดื่มเหล้ามากที่สุด จึงถือได้ว่าโครงการใหม่มีการมองให้เป็นภาพรวมมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะจุดหรือพื้นที่ เพื่อเสริมศักยภาพให้ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง และทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” น.ส.กิตติกาญจน์ กล่าว

หมายเลขบันทึก: 674485เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2020 23:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มกราคม 2020 23:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท