ยินดีต้อนรับผู้ว่าฯพิจิตรคนใหม่


...ผมเป็นผู้ว่าฯที่ชาวบ้านหาไม่เจอ เพราะผมเป็นลูกชาวนา เกษตรกรตัวจริง...

ในช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคราชการ จ.พิจิตร เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่เจ้าเมืองคนที่ 48 ของจังหวัดพิจิตรแล้ว

 

 เค้าชื่อ "นายปรีชา เรืองจันทร์"  คน อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร โดยกำเนิด โดยท่านย้ายมาจาก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง บอกตามตรงนะครับว่า มองรูปลักษณ์ภายนอกของท่านแทบไม่มีราศีของผู้ว่าฯ เลย เพราะนอกจากบุคลิก ท่าทาง คำพูด คำจาของท่าน เป็นกันเองมั๊ก มาก  ด้วยความที่เป็นลูกชาวนา เป็นเกษตรกรตัวจริง ที่รับรู้วิถีชีวิตชาวนาตั้งแต่เด็ก  เรียนจบมัธยม  กศน. เติบโตมาด้วยความยากลำบาก ทำให้ชาวบ้านเข้าใจ และเข้าถึงท่านได้ง่าย ไม่มีพิธีการอะไรมากมาย    

 คุณหมอสุรเดช เดชคุ้มวงศ์ และแกนนำชมรมเกษตรธรรมชาติและอาหารปลอดสารพิษ อาทิ ลุงจวน  ลุงสุนทร  ลุงสืบ ผู้ใหญ่เวช  คุณบำรุง ลุงชานนท์  นายก อบต. อย่าง คุณสุชาติ  และคุณประสิทธิ์  ได้เป็นตัวแทนภาคีเครือข่ายเกษตรฯ เข้าพบพูดคุยกับท่านผู้ว่าฯปรีชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 49 ที่ผ่านมา เพื่อปรึกษาแนวทางการทำงานร่วมกันตามแผนงาน "สังคมพิจิตรดีงาม อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2550"  โดยก่อนหน้านี้ทีมงานได้พูดคุยเตรียมการกันก่อนเข้าพบท่านเพื่อให้เนื้อหามีความกระชับ ชัดเจน  ซึ่งผู้ว่าฯมีเวลาให้ประมาณ 1.30 ชั่วโมง เท่านั้น  ก่อนเข้าห้องพบผู้ว่าฯก็ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งแถบ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ตามผู้ว่าฯมาร้องเรียนเรื่อง "ข้าว" ซึ่งถูกเถ้าแก่โรงสีเบี้ยวไม่จ่ายตัวก์มาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว ดูสีหน้าท่าทางผู้มาร้องเรียนแล้ว น่าหดหู่มาก ไม่รู้จะพึ่งพิงใครได้ ถึงแม้จะได้มาปรึกษาผู้ว่าฯ ก็ใช่ว่าจะช่วยได้เสมอไป เพราะท่านเองก็เกริ่นนำแล้วว่าท่านไม่ใช่เทวดาที่จะช่วยได้ทุกเรื่อง แต่ก็พยายามเต็มที่ที่จะช่วยพูดคุยกับเถ้าแก่โรงสีให้ การพูดคุยใช้เวลาประมาณ20นาทีก็ถึงคิวกลุ่มเครือข่ายเกษตรธรรมชาติฯ

คุณหมอสุรเดช เป็นคนนำเสนอผลงาน อดีตสู่ปัจจุบัน ให้ท่านผู้ว่าฯ ได้รับทราบ กระบวนการทำงาน และผลที่เกิดขึ้น พร้อมกับเสนอแผนงานก้าวไปข้างหน้าด้วย หลังจากหมอสุรเดช กล่าวจบ ท่านผู้ว่าฯ ก็กล่าวชื่นชมเครือข่ายว่า   ....ทำงานมาถูกทางแล้ว มีผลงานมากมายเกิดขึ้น ในส่วนของจังหวัด (หมายถึงยุทธศาสตร์) เน้นเรื่องข้าว พิจิตรเมืองงาม เมืองงามคือ มีหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อโมทย์ ทำไมไม่เอาพระเข้าไปในใจคนพิจิตร พอเข้าไปในใจ ใจก็จะงาม อยู่เย็นเป็นสุข  พิจิตรปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเป็นเมืองเกษตร โลกกำลังได้รับความสนใจในเรื่องอาหารปลอดภัย/ปลอดสารพิษ  คิดว่าที่ทำมาถูกทางแล้ว ตั้งแต่เริ่มต้น สร้างปัญญา มีหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย มีท้องถิ่นหนุนเสริม ประเด็นที่สนใจคือ เรื่องการพัฒนาจิตวิญญาณ ครอบครัวต้นแบบ ลดอบายมุข จะทำอย่างไร? ให้เห็นผลชัดๆ อย่างเช่นตั้งธงรบเลยทำยังไงให้ โรงเหล้า โรงบุหรี่ เจ๊ง!!!! (ในพื้นที่นำร่อง)  ทำดีต้องกล้าทำ ตั้งเป้าชี้วัดเลยไม่ต้องเขียนให้สวยหรูอย่างเดียวหรอก  เขียนสโลแกนสั้นๆอย่าง เลิกเหล้า เผาบุหรี่ ชีวิตสุขีทุกครัวเรือน       ในส่วนเรื่องเกษตรผสมผสาน เป็นเครือข่ายดีจังเลย ตอนนี้ผมรู้จักตัวแทนห้าง ร้านใหญ่ๆ อย่าง TOP ซุเปอร์มาร์เกต   79 สาขาทั่วประเทศ   MK สุกี้ ที่มีกำลังซื้อเป็นพันๆหมื่นล้าน โดยเฉพาะผัก ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเราจะทำ(ผลิต) ได้เพียงพอกับที่เค้าต้องการหรือเปล่าเท่านั้นเอง....

...ผมเป็นนักคิด นักพูด เป็นสัตว์กินพืชไม่กินสัตว์ ถ้าทำได้ผมจะเรียกเกษตร พัฒนาที่ดิน ธกส. และเรียกพวกท่านมาด้วย ชี้แจงว่ามีกลุ่มที่ผลิตอะไร? ได้เท่าไร? พื้นที่มากน้อยแค่ไหน? ผมจะเป็นคนบริการทุกอย่าง มีผู้จัดการ ตอนผมอยู่ จ.เพชรบูรณ์ ผมทำมาแล้ว ผมขอท้ารบคนพิจิตรทำได้ไหม ขึ้นอยู่กับศักยภาพพวกเรา ส่วนใหญ่เกษตรกรจะมักง่าย เห็นโตช้าก็ใส่อะไรไปก็ไม่รู้ อันนี้โกหกเค้าไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้เสียยี่ห้อหรอก ถ้าทำได้ผมเชียร์สุดๆเลย อยากให้เกิด....

ท้ายที่สุดท่านผู้ว่าฯ ได้ฝากข้อคิด ตามข้อเสนอว่า...

   - การปลดล็อกข้าราชการมาร่วมงานด้วย ควรเชิญเค้ามาเป็นกรรมการร่วมด้วย แบ่งบทบาทหน้าที่ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด

   - การรับรองพันธุ์ข้าว ต้องมีใบรับรองไม่งั้นเค้าไม่ซื้อ ให้กรมวิชาการเกษตรรับรอง

   - ทุกอย่างต้องมีวิธีการรูปแบบ ตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน คนพิจิตรต้องทำเอง

   - อาจจะตั้งศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงให้เกษตรจังหวัดทำ (เดี๋ยวผมติดตามเอง)

   - มีตลาดบนกับตลาดล่าง(ท้องถิ่น) รองรับการผลิต

   [ ต่อไปจะนัดรองผู้ว่าฯ พูดคุยทำ Work Shop แต่ตอนนี้จะฟังแต่ละกลุ่ม แต่ละประเด็นก่อน ผมจะทำงานในฐานะคนพิจิตร ไม่ใช่เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯ ต้องถามคนพิจิตรก่อนว่าทำอะไรอยู่ ติดอะไร จะแก้ยังไง แล้วก็หาคนช่วยคิด ช่วยทำ จะรีบประชุม กรรมการจังหวัด และประชาคมพูดคุย ผมไม่เชื่อพวกราชการหรอกว่าจะทำได้ฝ่ายเดียว ต้องมีทีมงานทุกฝ่ายที่เข้มแข็งร่วมกันทำ ] 

     ฟังท่านผู้ว่าฯพูดแล้วก็รู้สึกดีนะครับ (ถ้าท่านทำจริง) สุดท้าย คุณหมอสุรเดช ได้ถามความรู้สึกของลุงๆทั้งหลายที่ร่วมพูดคุยว่ารู้สึกอย่างไร?ที่ได้เข้าผู้ว่าฯในวันนี้  สรุปรวมๆแล้ว ต่างก็ เป็นปลื้มอกปลื้มใจ เป็นกันเองดี  เชื่อว่าผู้ว่าฯคนคนนี้คงช่วยได้แน่ และกลุ่มเครือข่ายเราก็จะร่วมมือเป็นอย่างดีแน่นอน  ท้ายที่สุดก็ประทับใจคำพูดที่ว่า จะพัฒนายังไงให้พิจิตร  เป็นดินแดนแห่งความสุข ของผู้อยู่และผู้มาเยือน

     พูดคุยกันจบประมาณ 17.30 น. ลงลิฟท์จากห้องผู้ว่าฯ มาหน้าศาลากลาง ก็ทำเอาลุงๆ รวมไปถึงผมสะดุ้งตกใจ เพราะที่เห็นเลื้อยอยู่หน้าบันไดทางขึ้นศาลากลาง มีงูสิงห์ตัวยาวใหญ่ เลื้อยอยู่ ไม่รู้เป็นลางดีหรือรลงร้ายนะครับงานนี้  ก็ปลื้มใจได้พูดคุยกับผู้ว่าฯได้ไม่นาน ก็สะดุ้งตกใจเฮือกใหญ่อย่างนี้  โบราณเค้าบอกว่า เจองูแล้วจะพบเนื้อคู่ สงสัยท่านผู้ว่าฯจะเป็นเนื้อคู่กับเครือข่ายเกษตรธรรมชาติฯหล่ะมั้ง

 

หมายเลขบันทึก: 67012เขียนเมื่อ 13 ธันวาคม 2006 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านแล้วรู้สึกดีใจแทนลูกบ้านชาวพิจิตรที่มีผู้ว่าถึงลูกถึงคน อย่างนี้แหล่ะค่ะดี ทำงานแล้วสนุก เป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ

อ้อ...เขาว่าเจองูแล้วจะได้ลาภนะ ถ้าไม่ใช่ลาภก็ไปกิบลาบซะก็เลี้ยวกัน.....อิอิอิ

อยากให้ท่านมาอยู่จังหวัดเราจังเลยผู้ว่าติดดินแบบนี้ เคยดูท่านออกรายการสะเกดข่าวช่อง7ประจำ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท