คุณ น.เมืองสรวง เขียนบันทึก ชื่อ แนวคิดเครือข่ายเรียนรู้เพื่อชุมชน (มุมมองของ น.เมืองสรวง)
มีคุณออต คุณพันดา เลิศปัญญา เข้ามาให้ความเห็น และคุณ น.เมืองสรวงก็ตอบไปแล้ว
เนื่องจาก คุณ น.เมืองสรวงก็มีคนที่ติดตามเขาอยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีข้อมูลที่น่าสนใจ บันทึกนี้ของเขา ความเห็นและคำตอบของเขา ได้ถูกหยิบมามองถึงก้นบึ้งถึงหัวใจของเขา ณ เวลานี้
ทำไม น.เมืองสรวง ถึงตอบความเห็นแบบนั้น คำตอบของ น.เมืองสรวงต่อความเห็นของคุณออต มีนัยสำคัญหรือไม่
คุณบอน
log out ไปแล้วแต่เหลือบเห็นบันทึกนี้แวบๆ เลยต้องกลับมาก่อน
ไร้นามอ่านแล้วเห็นว่า บทวิเคราะห์ที่เขียนลงมามีคุณค่ากว่าจั่วหัว เพราะเป็นวิธีคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า นักวิเคราะห์ตลาดหุ้น และคิดว่า การระบุวุฒิการศึกษา"มุมมองของคนจบ ป 6" ทำให้เรื่องดีๆ หลักคิดวิเคราะห์ที่น่ามหัศจรรย์ในบันทึกถูกกลบมากกว่าถูกทึ่ง
ความมหัศจรรย์ที่ไร้นามรับรู้ ไม่ใช่มหัศจรรย์ว่าคนจบป 6 คิด แต่มหัศจรรย์ว่า ประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์น่าศึกษายิ่งนัก และน่าศึกษาว่ามีความจริงใจในการคิดและกล้าคิด...
ประโยคสุดท้ายที่ต้องการยกย่องแต่ใช้คำว่า "คุณลุงที่จบแค่ ป 6" จึงเป็นการมองภาพติดกรอบของผู้บันทึกอย่างน่าเสียดาย
ขอบคุณ "เพื่อน" บอน ที่ให้ข้อคิดเห็น...กับประเด็นต่าง ๆ ขอบคุณ คุณออต ที่กำลังจะเขียนงานวิจัย จริง ๆ แล้วในความหมายคือ หากคุณออตทำวิจัยด้านวัฒนธรรมอยู่ ผู้วิจัยคือ คุณออตเอง ทีมงานวิจัย หรือ ผู้ช่วยนักวิจัย คือ ชาวบ้าน พี่น้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อาจารย์ ที่อยู่ในท้องถิ่นนั้น เรียกว่า ปราชญ์ชาวบ้าน นั่นเอง จริง ๆ แล้ว ผมทำวิจัยด้านนี้เมื่อหลายปีก่อนและมอบไว้ให้ชุมชน ให้เขาเป็นผู้คิดค้น ผสมผสานกับนักวิจัยซึ่งเป็นลูกหลาน ในการปรับใช้ในท้องถิ่นเพราะเขาคือ เจ้าของชุมชนที่แท้จริง .....
ขอบคุณคุณลุงวิชัยอย่างสุดซึ้ง....จริง ๆ แท้แน่นอนเหมือนอย่างคุณลุงว่า.....แต่เมื่อถึงเวลานั้นหลาน น.เมืองสรวงคนนี้ จะกลับไปเองครับ เพราะมันเป็น "ผืนแผ่นดิน ที่เป็นมรดกครับ " แต่ตอนนี้ ทุกคนมีหน้าที่และความรับผิดชอบหลาย ๆ ด้าน ยิ่งสมัยนี้แล้วต้องช่วยกันครับ การทำงานทุก ๆ อย่างถ้ามีความพอเพียงด้วยแล้วยิ่งเป็นผู้ประเสริฐครับ........จุดหมายปลายทาง ผมอยากเห็นพี่น้องท้องถิ่น อยู่ดีกินดีครับ ผม น. เมืองสรวง ขอท่องยุทธจักรก่อนนะครับ เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ
ในการทำวิจัยรูปแบบนี้เรียกว่า การวิจัยแบบ PAR คือการวิจัยแบบมีส่วนร่วมครับ..... หากว่าคุณออตเข้ากับคำว่า
** เข้าใจ
**เข้าถึง
**พัฒนา
........ยินดีครับคุณออตไม่มีเบอร์โทร... ผมเบอร์ 0890917869 ยินดีครับ ฝากขอบพระคุณคุณลุงวิชัย ด้วยครับ " ขอบคุณจริง ๆ" แลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ครับ
อ๋อ...เข้าใจความคิดของคุณ นายบอนแล้ว
แสดงว่าการเขียนว่า ป6 มีเป้าหมาย
ไร้นามก็ว่าไปตามปัญญาอันต่ำต้อยของไร้นาม ..มันอาจจะกลวงๆ โบ๋ๆ เลื่อนๆลอยๆ ..แต่อาจผิดก็ได้
เพราะเวลาฟังใครพูด ไร้นามไม่เคยไปถามว่า คุณจบ ป อะไร ...ยิ่งกับ ป ของประเทศแต่ละประเทศมาตรฐานก็ต่างกัน
ในทางกลับกัน ถ้าคนจบปริญญาตรีแต่คอยไปจับผิดดูถูกคนจบปริญญาโทว่าคิดได้แค่นั้นแค่นี้ อย่างนั้นก็ไม่ไหว
อย่างว่าไร้นามก็คิดไปเรื่อยๆแบบไร้นาม
คุณ นายบอนปัญญาเยอะ เพื่อนมาก จะเขียนอะไรก็มีอ้างอิงเอาความคิดเพื่อนๆมาเล่า ไร้นามละทึ่งจริงๆ
สวัสดีครับ คุณไร้นาม
ขอบคุณครับที่แสดงความคิดเห็นอีกครั้ง
ความจริงแล้วการเขียนตอบของคุณไร้นาม ถ้าเปรียบกับการดูตะกร้อ ...
.... เหมือนกับการบล็อกบ้าง การทำแต้มบ้าง การเสิร์ฟหยอดบ้าง
เรื่อง ป.6 นั้น ในสังคมที่นายบอนสัมผัส เป็นอย่างที่ได้เขียนความเห็นไปนั่นเองครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
รูปแบบการเผยแพร่บันทึกใน 5 บล็อกของนายบอน มักจะพึ่งพาเพื่อนๆครับ เรียกว่า หยิบเรื่องชาวบ้่านมาเล่า ทำให้มีประเด็นเขียนได้เรื่อยๆ ไม่เช่นนั้น ไม่สามารถที่จะเปิดประเด็นเรื่องใหม่ๆได้ทุกวันครับ
เช่น บล็อก
จุดประกายวิจัย
จะเป็นข้อความ ความเห็นของคนอื่นทั้งสิ้น และใช้รูปแบบนี้ในการเผยแพร่บันทึกมาตลอด 11 เดือนครับ
ทำให้ความถี่ในการเขียนบันทึกของบล็อกต่างๆที่นายบอน ดูแล ไม่ได้ขึ้นกับ จำนวนข้อคิดเห็น เพราะส่วนใหญ่ แม่มีข้อคิดเห็นจากคนอ่าน แต่เราก็ยังคงเิ่พิ่มบันทึกต่อไป
จึงเป็นเหตผลสำคัญครับ ที่ต้องอ้างที่มาว่า มาจากพรรคพวก แต่พรรคพวกก้ไม่ต้องการให้ระุบุชื่อจริง จึงอ้างได้ในขอบเขตนี้เท่านั้นเองครับ
วัฒนธรรมการเขียนบันทึกอาจจะแตกต่างจาก blogger คนอื่นๆบ้างในจุดนี้ครับ
ส่วนที่ทำให้คุณไร้นามไม่พอใจนั้น นายบอนคงต้องบอน้อมรับผิดทั้งหมด เพราะเป็นบุคคลที่แสดงตัวตนในที่แห่งนี้ครับ ซึ่งจะต่างจากพรรคพวก ที่ไม่แสดงตัวตน จึงไม่ต้องรับผิดชอบในข้อความที่เกิดขึ้นครับ