Netflix ไม่ได้พลิกโฉมธุรกิจหนังเช่าด้วยสตรีมมิ่ง และ Blockbuster ที่จริงแล้วตายเพราะซองกระดาษ


หลายคนอาจคิดว่า Netflix สร้างชื่อจากธุรกิจสตรีมมิ่ง แต่ที่จริงแล้วดาบแรกที่เปิดแผลให้คู่แข่งอย่าง Blockbuster คือการส่ง DVD ด้วยไปรษณีย์แบบไม่ต้องมีหน้าร้าน (Disc by mail) บทความนี้ลงนิตยสาร Happening ตอนปี 2008 

ปีนี้ 2019 มี update คือ Blockbuster เรียบร้อยไปแล้วครับ ส่วน Netflix by mail ผมเดาว่าน่าจะยังมีอยู่ในอเมริกา 

==========================================================================================

เช่าหนังผ่านเน็ต

ใครที่เป็นสมาชิกร้านเช่าหนังแผ่น คงเคยมีอาการรีบเร่งดูหนังเพื่อให้คืนทันเวลา หรือรู้สึกเบื่อกับการรอหนังใหม่ๆ ที่มักมีคนยืมแซงหน้าเราไปนะครับ ผมก็เหมือนกัน

จะดีไหมถ้าเราสามารถเก็บหนังเช่าของเราไว้นานเท่าที่เราอยากดู จะดีไหมถ้าเราเลือกหนังได้อย่างใจ โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแซงหน้า เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นที่อเมริกาแล้วครับ

เมื่อปี 1999 Netflix เปิดให้บริการเช่าดีวีดีผ่านอินเตอร์เน็ต แน่นอนครับ เมื่อหน้าร้านไม่มี วิธีการเช่าก็ต้องเปลี่ยนไปเริ่มแรก ลูกค้าก็ต้องลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บและเลือกแพคเกจว่าจะเช่าครั้งละกี่เรื่อง จำกัดจำนวนหนังเช่าต่อเดือนหรือไม่ เช่นผมเช่าครั้งละสองเรื่องแบบไม่จำกัดจำนวน ก็จ่ายประมาณสิบห้าเหรียญสหรัฐฯ เสร็จแล้วก็เลือกหนังได้ตามสบายผ่านหน้าจอครับ จะค้นหาจากชื่อผู้กำกับ นักแสดง หรือประเภทหนังก็ได้ทั้งนั้น แล้วก็นำรายชื่อหนังมาใส่ไว้ในคิว หนังในคิวจะมีกี่สิบ กี่ร้อยเรื่องก็ได้ครับ ไอเดียเรื่องคิวหนังนี้สำคัญครับ ลูกค้าใหม่มักจะสับสนเพราะคิดเปรียบเทียบกับบริการเช่าหนังแบบเดิม โดยในคิวจะบอกเพียงว่าหนังออกมาจากศูนย์ของ Netflix หรือยัง แล้วจะส่งถึงเราประมาณวันไหน แต่จะไม่บอกว่าคืนตอนไหน ซึ่งจริงๆ แล้วตรงนี้คือจุดเด่นของ Netflix เลยก็ว่าได้ เพราะหนังจะส่งมากี่เรื่องนั้นขึ้นอยู่กับแพคเกจที่เราเลือกไว้ตอนแรกนั่นเองครับ อย่างแพคเกจของผม สมมติผมเลือก Die Hard ภาคหนึ่งถึงภาคสามเรียงตามลำดับไว้ในคิว สองภาคแรกก็จะถูกส่งมาก่อน พอผมได้รับก็อาจจะดูภาคแรกแล้วก็ใส่ซองกระดาษซองเดิมซึ่งออกแบบให้ปิดกลับได้และส่งคืนทางไปรษณีย์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พอภาคแรกกลับไปถึงศูนย์ เขาก็จัดส่งภาคสามมาให้ทันที ระหว่างที่รอผมก็ดูภาคสองเสร็จแล้วก็ส่งกลับ ถ้ารีบดูรีบคืนก็อาจจะได้ดูเดือนละแปดถึงเก้าเรื่อง ซึ่งถือว่าคุ้มเงินพอสมควร สังเกตว่าแพคเกจที่ว่าเช่าคราวละสองเรื่องนั้น จริงๆ แล้วหมายความว่าหนังออกจากศูนย์ได้สองเรื่องซึ่งรวมถึงช่วงต่อระหว่างที่หนังเดินทางไปกลับทางไปรษณีย์ด้วยนะครับ ตรงนี้คือคำตอบว่าทำไมถึงไม่มีการคิดค่า late fee

รายละเอียดอีกประการที่เปลี่ยนแปลงไปจากบริการเช่าหนังทั่วไปคือลูกค้าไม่สามารถตรวจสภาพแผ่นหนังได้ก่อนเช่า ด้วยเหตุผลนี้ ทาง Netflix มีบริการแจ้งแผ่นชำรุด เป็นรอยผ่านหน้าเว็บของบริษัท ในกรณีเช่นนี้ทาง Netflix จะส่งหนังแผ่นเดิมให้เราทันทีที่ได้รับแจ้ง  

(ภาพนี้เพิ่งจะ capture เมื่อกี้เลย แสดงว่า DVD by mail ในอเมริกาน่าจะยังมีอยู่)

จุดเด่นอีกประการของการบริการผ่านเว็บคือการบริการเสริมต่างๆ โดยเฉพาะส่วนการแนะนำหนังให้เพื่อนและสร้างเครือข่ายเพื่อนที่เป็นสมาชิก Netflix การเรตหนังที่เราชอบและไม่ชอบ ซึ่งสองกรณีนี้จะกลายเป็นฐานข้อมูลสำหรับการแนะนำหนังเรื่องอื่นๆ ให้กับเราและช่วยในการเปรียบเทียบรสนิยมของเรากับเพื่อนๆ ได้ครับ โดยทางเว็บจะรายงานรสนิยมของเรากับเพื่อนๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเขากี่เปอร์เซ็น บริการแบบนี้เหมาะกับคนบ้าหนังจริงๆ เลย ว่าไหมครับ 

(ปี 2006 Netflix ตั้งรางวัล หนึ่งล้านเหรียญฯ ให้ทีมนักพัฒนาและนักวิจัยที่สามารถสร้างอัลกอริทึมแนะนำและให้คะแนนหนังให้มีประสิทธิภาพมากกว่าอัลกอริทึมของบริษัทเกิน 10%)

ปัจจุบัน Netflix มีสมาชิกมากกว่าหกล้านคนทั่วสหรัฐฯ และจัดส่งหนังแผ่นวันละประมาณ 1.5 ล้านแผ่น เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาล ขนาดที่บริษัทหนังเช่ายักษ์ใหญ่อย่าง Blockbuster ต้องหันมาเอาอย่างโดยเสนอบริการ Total Access ใช้จุดแข็งที่มีหน้าร้านอยู่ในมือ สมาชิกสามารถเช่าหนังและคืนหนังจากหน้าเว็บและจากหน้าร้านที่มีอยู่เดิม อย่าลืมนะครับว่าการชมภาพยนต์ไม่ว่าจะในโรงหรือที่บ้านสำหรับอเมริกันนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึก การเดินเลือกหนังจากในร้านสำหรับหลายๆ คนก็ยังถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องทำ บางคนอาจจะบอกว่ามันได้บรรยากาศมากกว่าจะมานั่งกดดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ Blockbuster เอาประเด็นเรื่องความช้าของการส่งหนังทางไปรษณีย์มาเล่นครับ โดยเสนอให้ลูกค้าคืนหนังและเช่าต่อจากร้านได้ทันทีแทนที่จะต้องรอไปรษณีย์ไปอีกหนึ่งวัน

มวยยักษ์คู่นี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นครับ ดูท่าจะไม่มีใครยอมใคร Blockbuster แลกหมัดด้วย Total Access และแถมเช่าหนังฟรีจากร้านสองเรื่อง ส่วน Netflix นั้นนอกจากบริการหน้าเว็บที่หลากหลาย ล่าสุดก็ปล่อยหมัดเด็ด Watch Instantly ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย เรียกว่าไม่ต้องลุกออกจากบ้านกันเลย ถึงแม้ขณะนี้คุณภาพของหนังอินเตอร์เน็ตยังไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่าแก้ขัดได้เหมือนกัน

(ภาพจาก deviantart น่าจะช่วงปี 2010 ที่เห็นถือดาบคือซองกระดาษใส่ DVD ของ Netflix ยืนเหยียบยอดอกกล่อง DVD ของ Blockbuster)

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าโมเดลธุรกิจนี้ไม่รุ่งแน่นอนในบ้านเรา ไม่ใช่เพราะเราดูหนังกันน้อยหรือเพราะผู้บริโภคไม่พร้อม แต่เป็นเพราะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับบริการหนังผ่านเน็ตนั้นยังไม่พร้อมมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบไปรษณีย์ที่ไม่สามารถรับประกันส่งตรงเวลาทั่วประเทศ บริการอินเตอร์เน็ตที่ยังไม่กว้างขวาง พูดแบบนี้ไม่ได้น้อยอกน้อยใจหรือนึกอิจฉาความเจริญบ้านเขาหรอกครับ ผมว่าฝรั่งมาเห็นวีซีดีเมืองไทยเกลื่อนเมืองน่าจะอิจฉาเรามากกว่าเสียอีก

อ้างอิง
Netflix vs. Blockbuster: What's the best service for streaming and DVDs? http://reviews.cnet.com/4520-11445_7-6325775-1.html
 ==========================================================================================

หมายเลขบันทึก: 662757เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2019 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม 2019 16:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท