หลายคนไปวัดก็ไม่รู้ความจริงเลยว่าไปวัดแล้วได้อะไร
ตอบง่ายๆได้บุญ ตอบเท่ๆ ได้ความสงบ
ได้ทั้งสองอย่าง..
แล้วไปวัดตั้งแต่หนุ่มสาวนั้นดีอย่างไร
หากได้ศึกษาปฏิบัติธรรมไปด้วยตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จะได้เป็นอาวุธในการใช้ชีวิตหน้าที่การงาน นำพาไปสู่ความสำเร็จได้จริง
ดีกว่ารอวันสำเร็จจนวัยเกษียณเพิ่งนึกเข้าวัดศึกษาธรรม ไม่ทันกาลได้แค่เอาไปใช้ชาติหน้า
ชาติหน้าก็ยังไม่รู้จะสำเร็จไหมแล้วชาติไหนจะได้ใช้ประโยชน์จากธรรม.
หนุ่มสาวเข้าวัดศึกษาธรรมกันลองดูไหม ไม่เข้าใจค่อยเลิก..
คำสอนของพระพุทธเจ้าให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติตามลำดับและ "อกาลิโก" ไม่จำกัดกาล ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ขึ้นอยู่กับความเพียร วัยไหนก็ได้ ผลเกิดตามลำดับของความเพียร
เร็วสุด ๗ วัน
อย่างกลาง ๗ เดือน
ช้าสุด ๗ ปี
ไม่เอาจริงไม่เอาจัง ๗ ชาติ
หลายคนเข้าวัดศึกษาปฏิบัติธรรมตั้งแต่วัยหนุ่มสาว บางทีหนุ่มสาวเหล่านั้นไม่เอาจริงไม่เอาจังมา ๖ ชาติแล้วก็ได้ ชาติสุดท้ายต้องรีบ ช้าจักไม่ทันกาล (บุญส่ง)
แต่ถ้าใครเข้าวัดเร็ว โดยเฉพาะตอนมีไฟวัยหนุ่มสาว ถ้าเข้าใจธรรมะด้วยแล้ว ธรรมะจะนำพาหนุ่มสาวผู้ปฏิบัติไปสู่ความสำเร็จอย่างใสสะอาด
และได้ใช้ประโยชน์ชาตินี้ในวัยเกษียณด้วยความสงบสุขแท้จริง
.ธัมมานุสารี.
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นหนุ่มๆ สาวๆ ไปวัดกันสักเท่าไหร่ สังเกตจากคนใกล้ตัว ชวนแลเวชวนอีก
ตามพุทธทำนายกึ่งหลังพุทธกาล คนจะห่างจากธรรมครับใครเข้าวัดศึกษาธรรมจะได้เปรียบในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานครับ
เข้าวัดเพื่ออะไรครับในเมื่อ หลักการต่างๆ สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ ฝึกปฏิบัติเองได้ทุกที่ ทุกเวลา หลักการต่างๆ พวกนั้น เป็นเหมือนหลักปรัชญาชีวิต นำมาใช้ได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับทักษะทางเศรษฐกิจ ต้องฝึกฝนตลอดเวลาเพื่อ นำมาหาเงิน กินใช้เพื่อดำรงชีวิต
ไปวัดเพื่อเอาเงินใหนนักธุรกิจนุ่งผ้าเหลือง กับ แมงดาผ้าเหลืองเหรอ
คงจะเหลือแค่คนแก่ ที่คุ้นเคยกับการที่ต้องมีปากกาและกระดาษ ขณะที่หนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ เขียนบันทึกบนแท็บเล็ต เช่นเดียวกับ พนักงานรุ่นเก่าที่บอกว่า พิมพ์ดีดทำงานได้เร็วกว่า
ถ้าเราไม่ไปวัดด้วยตัวเอง สุดท้ายเขาก็หามเราไปอยู่ดีครับ แม้เราไม่รู้ความจริงใดๆแล้ว มันก็เป็นความจริง