ความฉลาด สำคัญอย่างไร (1)



ความฉลาด เรามักหมายถึง เรียนเก่ง เราจะยกย่องคนเรียนเก่งว่าฉลาด.

แต่สิ่งนั้นไม่สำคัญเท่า ...ความฉลาดในการใช้ชีวิต...

คนเรียนเก่งแล้วฆ่าคนอื่น หรือฆ่าตัวตาย อันนี้ไม่นับเป็นความฉลาดอย่างใดเลย จริงไหมครับ

.
ผมมองย้อนกลับไปถึงตัวเองในอดีต ว่าชีวิตเราก็มีความผิดพลาดมาเยอะ...

ผิดพลาดด้วยเพราะ ทั้งนิสัยตัวเอง และผิดพลาดด้วยการคบคน พูดง่ายๆ ว่าเพราะความโง่ของเรานี่แหละ มันจึงพาชีวิตเราติดหล่ม.

และมันแย่มากๆ ตรงที่ บางทีมันเรื่องเดิมๆ โดนซ้ำๆ หลายครั้งต่อหลายครั้ง เหมือนกับมันไม่จำ ผิดแล้วก็ยังผิดอีก แก้ปัญหาไม่ได้  นี่เพราะอะไร เพราะว่าเราไม่ฉลาดในการใช้ชีวิต นั่นแหละ

.
อย่าพึ่งหัวเราะเยาะผมนะ ลองย้อนคิดกลับไปที่ตัวท่านดู บางทีท่านก็ลืมคิดไปนะว่าเราติดอยู่กับปัญหาซ้ำๆ ซากๆ เดิมๆ

ชีวิตที่ผ่านมา หรือชีวิตปัจจุบันก็ตาม เราจะเจอปัญหาทะเลาะกับแฟนเรื่องเดิมๆ  / ปัญหากับเจ้านาย / กับเพื่อนร่วมงาน / กับลูกค้า  กับคนใกล้ตัว พ่อแม่ลูก  หรือปัญหาเรื่องที่คบคนผิด โดนหลอกโดนโกง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมเชื่อว่ามีกันเกือบทุกคน ไม่มากก็น้อย

ปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ แล้วเราก็แก้ไม่ได้ ชีวิตก็ติดอยู่ในหล่ม แทนที่จะใช้ชีวิตได้ดีกว่านี้  เพียงหลุดจากปัญหาไปได้ ชีวิตก็แล่นฉิว

และบางที เราพยายามแก้ แต่กลายเป็นว่ายิ่งแก้กลับยิ่งยุ่ง ปัญหายิ่งพัลวันไปกันใหญ่  แต่ครั้นปล่อยเลยตามเลยก็ไม่ได้อีก  กลายเป็นว่าหมดหนทางแก้ไขกับปัญหาเดิมๆ ...เรียกว่า หมดปัญญา บางที่เราก็ปลอบใจตัวเองว่า ปล่อยวาง...แต่ใจลึกๆ ก็ยังกลุ้ม

นี่ถ้าหากเราฉลาดกว่านี้ล่ะ สามารถแก้ปัญหาซ้ำซากพวกนี้ให้หมดไปจากชีวิตได้ ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร จะสดใสรุ่งโรจน์กว่านี้แค่ไหน

เราจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย จริงไหมครับ  ผมเชื่อแบบนั้นนะ เราคงประสบความสำเร็จ มีความสุขได้ไม่ยากเลย

ใครอยากจะรวย อยากจะเก่ง อยากจะมีชื่อเสียงอย่างไร  ...ถ้าฉลาดพอ ผมว่าทำได้หมด....

.
ดังนั้น จึงน่าขบคิดไหมครับว่า ความฉลาด(ในการใช้ชีวิต) สำคัญมากแค่ไหน

แล้วทำอย่างไรล่ะ เราถึงจะฉลาดได้

เรื่องนี้ผมขบคิด และทำวิจัยส่วนตัวอยู่หลายปี ว่ามีทางลัดหรือไม่ อย่างไรที่จะทำให้เราฉลาดได้อย่างรวดเร็วทันใจ

แต่ละปี ผมค่อยๆ วิจัยตัวเอง และคนรอบข้าง ทั้งสังเกตุ ทั้งอ่าน จนค่อยๆ คลี่คลาย ค่อยๆ ค้นพบต้นเหตุของความฉลาด

จนกระทั่ง 2 ปีที่แล้ว ความกระจ่างก็ค่อยๆ ปรากฎ ผมก็พบสิ่งที่สำคัญสุดๆ  คนมีสิ่งที่เรียกว่า  “ศักยภาพในการเรียนรู้” มีอย่างสูง นี่เอง ที่จะฉลาดกว่าคนอื่นๆ

เราเคยเห็นไหมครับ คนที่เห็นอะไร ดูอะไรแป้ปเดียวเข้าใจหมด  สามารถเรียนรู้และทำได้อย่างรวดเร็วจนน่าทึ่ง 

ตัวอย่างเช่น  ไปเรียนว่ายน้ำพร้อมกันกับเพื่อน  เรายังว่ายเตาะแตะต้วมเตี้ยมอยู่ แต่เพื่อนว่ายพร้อมกับเรา ซ้อมพอๆ กัน แต่มันว่ายจนแทบได้แชมป์ไปแล้ว  หรือ ประมาณว่าคนที่สอบได้ที่ 1  แต่ไม่ได้เรียนพิเศษอะไรเลย  แถมเวลาเรียนก็ไม่เห็นจะตั้งใจอะไรนักหนา

นั่นแหละครับ สิ่งที่ผมกำลังพูดถึง “ศักยภาพในการเรียนรู้”  Potential of learning หรือ Learning skill พวกเขามีสิ่งนี้สูงกว่าคนปกติ เขาจีงได้อะไรมากกว่าคนปกติ เหมือนถังน้ำของเขาใบใหญ่กว่า จึงรับน้ำฝนได้มากกว่า

จึงไม่น่าแปลกว่า เพื่อนบางคนที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่ชีวิตเขากับเราช่างสุดยอดต่างกันกับเรา ราวกับฟ้ากับเหว...

.

คำถามของผมต่อมาคือ สิ่งนี้อาจจะเป็นพรสวรรค์ คือเขามีสมองที่เป็นเลิศมาตั้งแต่เกิด หรือว่า เป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถฝึกฝนให้เกิดมีได้

แม้พรสวรรค์แต่เกิดจะเป็นความจริง แต่ผมเชื่ออย่างหลังมากกว่าครับ  ผมเชื่อในศักยภาพของมนุษย์  ทุกคนมีศักยภาพซ่อนอยู่ และมีมากกว่าที่เราจะคาดคิดไว้เสมอ เพียงแต่เรายังไม่เจอสวิทซ์ที่เปิดให้มันระเบิดออกมา  ผมจึงตั้งคำถาม เพื่อวิจัยต่อไปว่า 

" อะไรที่เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดศักยภาพในการเรียนรู้ "...

จนกระทั่งปีนี้ เป็นปีที่สุดยอดของผม ผมค้นพบสิ่งที่ผมวิจัยมานาน  นับเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตผมเลยก็ว่าได้ สิ่งที่จะทำให้ชีวิตมีค่า สิ่งที่จะนำความสำเร็จของชีวิตมาให้ทุกคน...

และมันตลกตรงที่ มันเหมือนจุดไต้ตำตอ เหมือนอยู่ปลายจมูกนี่เอง แต่เราเองมองข้ามไป  มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยที่จะเป็นคนฉลาดได้ คิดได้แล้วผมก็อดขำไม่ได้...  ผมกล้าพูดเลยว่า ทุกคนบนโลกนี้ สามารถเป็นคนฉลาดได้หมด เพียงแค่รู้ และลงมือทำมันให้เป็นนิสัยเท่านั้น

หลังจากที่ผมค้นพบแล้ว ผมอยากจะจดลิขสิทธิ์ทางปัญญาเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่า มันคงไม่สมควร เพราะผมบอกเลยว่า สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่อะไรเลย เป็นความรู้ของคนโบราณที่พูดไว้นานแล้ว เราทุกคนรู้แล้วด้วย เพียงไม่มีใครนำมาขยายและบรรยายให้ทราบว่าสิ่งนี้มีความสำคัญยิ่งยวดแค่ไหน อย่างไร

แต่อีกใจหนึ่งผมมีความลังเลที่จะพูดถึง ตามประสบการณ์ชีวิตผม ผมเห็นว่า คนโดยส่วนมากไม่สนใจเรื่องความฉลาด ไม่ตระหนักว่าชีวิตติดหล่มอยู่หรือไม่...ขอเพียงอะไรที่ได้เงิน หรือหาความสุขง่ายๆ ก็จะรีบไปทำทันที ไม่คำนึงว่าปัญหาที่จะตามมาจะมีอะไรบ้าง

ด้วยเหตุนี้นี่เอง บางทีผมก็รู้สึกเหนื่อยกับการที่จะมานั้่งคิด นั่งพิมพ์ เพื่อนำสิ่งดีๆ มาให้...การจะพิมพ์เรื่องดีๆ ออกมาสักเรื่องหนึ่ง นี่ใช้เวลาไม่ต่ำว่า 3 ชม. โดยที่ผมเองก็ไม่ได้เงินทองอะไร

แต่อีกใจก็รู้ว่า คนที่สนใจก็ยังมี ... 

ถ้าท่านใดมีความสนใจเรื่องนี้จริงๆ ก็ขอให้ติดตามตอนที่ 2 นะครับ ว่าศักยภาพในการเรียนรู้ หรือ Potential of learning หรือ Learning skill ที่จะนำพาชีวิตเราให้ประสบความสำเร็จ  ...เราจะสร้างให้เกิดมีได้อย่างง่ายๆ ได้อย่างไร

ตราบใดที่ผมยังไม่หมดกำลังใจจะเผยแพร่ความรู้ ผมจะพยายามทำต่อไป...

หมายเลขบันทึก: 658684เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2018 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2018 11:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เยี่ยมมากค่ะ ได้มีกำลังใจว่าความฉลาดมาจากอะไรที่เราสามารถรู้ สร้างและให้กำลังใจตัวเองได้น่ะค่ะ

-สวัสดีครับอาจารย์-ติดตามอ่านบทความของอาจารย์อยู่เสมอ-ได้แนวคิด ได้แนวทางชีวิตหลายๆ อย่าง-ผมชื่นชอบการอ่านบทความแบบนี้มากกว่าแบบอ่านบทความวิชาการ-อ่านเหมือนได้ฟังคนเขียนพูด-อ่านแล้วเข้าใจ แบบที่เขาบอกว่า”ย่อยง่าย”-ด้วยความระลึกถึงอาจารย์-นวัตกรรมทางความคิดบางทีก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่โบราณบอกต่อๆ มา-ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท