“รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย”


“รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย”

PLC : “รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย”

ดร.ถวิล อรัญเวศ
รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4

มีคำที่ท่านโบราณกาลได้ให้ข้อคิดไว้ว่า

“ภัยที่น่ากลัวที่สุด คงไม่ใช่ภัยจากภายนอก แต่เป็นภัยที่เกิดจากภายในเรานี้แหละ”

ซึ่งถ้อยคำดังกล่าว ภัยที่เป็นอันตรายอยางใหญ่หลวงของประเทศชาติ คือการที่คนในชาติแตกแยก ขาดความรักความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม ชิงดีชิงเด่นกันในทางที่ไม่ชอบ หรือไม่ประกอบด้วยคุณธรรม กฎหมาย เอารัดเอาเปรียบกัน แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไม่สงบสุข .........

รวมกันเราอยู่

สังคม ไม่ว่าจะเป็นระดับครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศชาติ ทวีป และโลก ถ้าคนในสังคม มีความรัก ความเมตตา โอบอ้อมอารีมีน้ำใจต่อกัน เอื้ออาทร ปรารถนาดีต่อกัน ผูกมิตรไมตรีกันแล้ว ก็จะทำให้เป็นสังคมน่าอยู่เกิดความรู้สึกที่ดี บรรยากาศมีความเป็นพี่เป็นน้อง ใครมีปัญหาหรือเรื่องเดือดร้อนใจ ก็จะได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล ดังคำว่า

“ความรักมา เพราะน้ำใจมีความรักหนี เพราะน้ำใจหมดความรักหมด เพราะน้ำใจแห้ง”

หรือ

“ความรักมี ความสามัคคีก็มา
ความรักโรยรา ความสามัคคีก็หดหาย”

พระบรมราโชวาท รัชกาลที่ 9

“...ประเทศไหน ถ้าประชาชนพลเมือง มีความสามัคคีกลมเกลียวกันดี มีระเบียบวินัย ประเทศนั้นก็เจริญและอยู่ในฐานะดี จึงเห็นได้ว่า ความสามัคคีกลมเกลียวกันระหว่างคนในชาติ และความเข้าใจรักษาระเบียบวินัยเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่จะช่วยนำประเทศชาติสู่
ความวัฒนาถาวร”

“...ต้องสามัคคีช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน มีความเข้าใจซึ่งกันและกันโดยแท้จริง จึงจะทำให้บ้านเมืองของเราอยู่ได้”

ขอให้นึกตรึกตรองบทกลอนเตือนใจคนไทยที่ว่า

“ทุกวันนี้ ศึกไกล ยังไม่ห่วง
แต่หวั่นทรวง ศึกใกล้ ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทย หันมาฆ่า กันเอง
จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง”

ฉะนั้น เราจงมาช่วยกันสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดในบ้านเมืองของเรา ด้วยการหันหน้าเข้าหากัน ให้อภัยกันมีความเข้าอกเข้าใจกัน ยอมรับความแตกต่างทางความคิด คิดถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ดังคำกล่าวที่ว่า

“บ้านเมืองจะมั่นคงปลอดภัย
มั่งคั่ง ยั่งยืน ถ้าคนไทยรู้รักสามัคคี”

แยกกันเราตาย

อุปมาเหมือนคนในชาติ ไม่รับรู้สิ่งที่เป็นภัยมืดที่กำลังจะมาสู่ประเทศชาติ ทำเป็นไม่รู้ เข้าทำนอง “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” เราไม่เกี่ยว เมื่อข้าศึกมารุกรานมีแต่จะแพ้ และในที่สุดอาจจะไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย เพราะข้าศึกศัตรูขับไล่ไสส่ง หรืออุปมาเหมือนอวัยวะภายในร่างกายของเรา อวัยวะทุกส่วนต้องทำงานเป็นระบบประสานกัน ถ้าอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำงานไม่เป็นปกติ รับประทานอาหาร แต่ระบบย่อยไม่ดี ดื่มน้ำมาก ปัสสาวะยาก อินซูลินทำงานไม่ปกติ ไม่สามารถส่งน้ำตาลไปสู่ร่างกายได้ปกติ ก็จะทำให้ร่างกายเป็นทุกข์ ระบบขับถ่ายไม่สะดวก ก็จะเป็นอันตรายในที่สุด เราก็ตาย เพราะร่างกายไม่ไหวแล้ว

สรุป

ความรู้รักสามัคคี
จะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
เป็นปึกแผ่น มีความมั่นคง
มั่งคั่ง ยั่งยืน ดังคำที่ว่า

“รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย”


------------------

คำกลอนฝากไว้คิด

ก่อนจะเชื่อ สิ่งใด ให้พิสูจน์
ก่อนจะพูด ให้ยั้งคิด วินิจฉัย
ก่อนจะทำ งานใดใด ให้เข้าที
คิดให้ ถ้วนถี่ จึงจะดีเอย

วัวควายตาย ยังเหลือไว้ ซึ่งเขาหนัง
ช้างตาย ยังเหลืองาไว้ เป็นศักดิ์ศรี
คนเราตาย เหลือไว้ เพียงชั่วดี
คุณงามความดี ประดับไว้ ในโลกา

“ความรักมา เพราะน้ำใจมี
ความรักหนี เพราะน้ำใจหมด
ความรักหมด เพราะน้ำใจแห้ง”

หรือ

“ความรักมี ความสามัคคีก็มา 

ความรักโรยรา ความสามัคคีก็หดหาย

หมายเลขบันทึก: 658680เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2018 07:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2018 08:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท