ภูมิปัญญาไทย โอ่งวัดแผ่นดินไหวและอื่น ๆ


ไฮไลท์สำคัญของนิทรรศการ 7,000 นวัตกรรมจีนที่เราจะนำมาเรียกนำย่อยกันได้แก่ “เครื่องวัดแผ่นดินไหว” เครื่องแรกของโลก สมัยราชวงศ์ฮั่น ปี ค.ศ.132 ผลงานการออกแบบของชาวจีนโบราณชื่อ “จาง เหิง” (Zhang Heng) มีขนาดกว้าง 225 ซม. ยาว 225 ซม. และสูง 170 ซม. ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเตือนภัยได้ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น แต่ยังสามารถบอกทิศทางที่เกิดแผ่นดินไหวซึ่งจำแนกออกเป็น 8 ทิศได้ด้วย โดยรูปลักษณ์ที่ดูแปลกตาเหมือนชิ้นงานประดับตกแต่งฝีมือประณีตมากกว่าผลงานที่จะใช้ประโยชน์ได้จริง ประกอบไปด้วยโอ่งสำริด, มังกรคาบลูกสำริด และคางคกสำริด ภายในโอ่งเป็นหลอดหรือลูกตุ้มที่เรียกว่า “ตูจู้” (duzhu)
       
       หลักการทำงานง่ายๆ ของเครื่องวัดแผ่นดินไหว คือ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว การสั่นสะเทือนจะทำให้ลูกตุ้มที่มีน้ำหนักมากภายในโอ่งเอียงไปกดลงขากรรไกรของมังกรที่หันไปทางจุดเหนือศูนย์แผ่นดินไหว ทำให้ลูกสำริดหล่นออกจากปากมังกร หล่นไปสู่ปากของคางคกที่นั่งอยู่ด้านล่างในทิศที่เกิดแผ่นดินไหว ดังนั้นเสียงดังที่เกิดขึ้นจากลูกตุ้มที่เอียงไปกระทบกับโอ่งและการหล่นของลูกสำริดก็จะช่วยบอกให้เราทราบถึงการเกิดแผ่นดินไหวและทิศทางของจุดกำเนิดแผ่นดินไหวได้
       
       มรดกตกทอดทางอารยธรรมจีนโบราณที่น่าสนใจชิ้นต่อมาได้แก่ “เข็มทิศหินแม่เหล็กโบราณ” ซึ่งเข็มทิศถือเป็น 1 ใน 4 สิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่ของจีนยุคบรรพกาล ช่วง 300 ปีก่อนคริศตศักราช หรือราว 2,300 ปีก่อนหน้านี้ โดยบรรพบุรุษชาวจีนได้ประสบความสำเร็จในการใช้หินแม่เหล็กมาทำเข็มทิศอันแรกของโลกที่เรียกว่า “ซือหนัน” (sinan) ซึ่งแปลตามตัวอักษรจะหมายถึง “ผู้ปกครองทางใต้” ทิศที่เป็นทิศมงคลสำหรับกษัตริย์นักปกครอง โดยได้มีการกล่าวถึงซือหนันครั้งแรกในหนังสือ “หันเฟยจื่อ” (Han Feizi) ซึ่งเขียนขึ้นในยุคจั้นกว๋อ (ยุคสงครามระหว่างรัฐ,สงครามรณรัฐ) ประมาณ 475-221 ปีก่อนคริสตศักราช
       
       ทั้งนี้ ซือหนันถูกแกะสลักขึ้นจากชิ้นของหินแม่เหล็กให้เป็นรูปทัพพีฐานเกลี้ยงและมน วางอยู่บนสมดุลบนแผ่นโลหะสำริดผิวเรียบที่หมายถึงโลก มีการแกะสลักตำแหน่งของทิศ 24 ทิศบนแผ่นสำริด เมื่อทัพพีวางอยู่บนตำแหน่งที่สมดุลแล้ว ปลายด้ามจับของทัพพีสำริดจะวางตัวชี้ไปทางทิศใต้เสมอ
       
       พระเอกของงานอีกชิ้นที่เรียกความสนใจได้ไม่น้อย คือ “อ่างกังวานลายมังกรหลงสี่” (Longxi: Resonant Basin with dragon pattern) ซึ่งหากใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์จีนตัวยงแล้วก็คงจะเคยเห็นอ่างกังวานลายมังกรมาบ้างแล้วก็ได้ โดยอ่างใบนี้จำลองมาจากต้นแบบในคริสต์ศตวรรษที่ 11-13 ที่มณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ลวดลายมังกรที่ประดับอยู่ภายในทำขึ้นมาใช้เฉพาะในราชสำนักเท่านั้น
       
       เมื่อมีการขัดถูด้วยฝ่ามือที่เปียกหมาดๆ ในบริเวณที่จับอย่างถูกวิธีจะทำให้น้ำภายในอ่างพุ่งขึ้นมาคล้ายกับน้ำพุ จึงใช้ล้างหน้าได้โดยไม่ต้องทำให้มือเปียกทั้งมือ ซึ่งเป็นผลมาจากการสั่นสะเทือนของภาชนะที่ส่งไปถึงน้ำในอ่าง โดยผู้รู้บางรายก็กล่าวถึงอ่างกังวานลายมังกรต่างออกไปว่า น่าจะเป็นอ่างน้ำผสมเครื่องหอมมากกว่า ซึ่งเมื่อขัดถูอย่างถูกวิธีแล้ว จะทำให้ละอองน้ำหอมกระเซ็นขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าผู้ใช้ ทำให้ได้รับกลิ่นหอมสดชื่นในแบบของอะโรมาเทอราฟี (การบำบัดด้วยกลิ่นหอม)
       
       นวัตกรรมจีนโบราณชิ้นสุดท้ายที่นำมาเรียกน้ำย่อยกันคือ "เกวียนแบบมีเครื่องวัดระยะทาง" (The Odometer Cart) สมัยราชวงศ์ฮั่น ค.ศ.25-250 ใกล้ยุคสามก๊ก (ค.ศ.220-280) เป็นเครื่องมือสำหรับการกำหนดระยะการเดินทาง มักใช้ในพิธีการเกี่ยวข้องกับการเดินทางของกษัตริย์ โดยเกวียนแบบนี้ใช้ชุดเฟือง 6 ตัวในการวัดระยะทาง แกนของมันถูกต่อเข้ากับ "ขบวนเฟืองทดรอบ" (Reduction Gear Train) ซึ่งขับเคลื่อนให้แกนลูกเบี้ยวหมุนไป และตุ๊กตาไม้ที่อยู่ด้านบนจะถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยขบวนเฟืองทดรอบนี้ด้วยเช่นกัน ในทุกๆระยะทาง 1 ลี้ หรือ ครึ่งกิโลเมตร ตุ๊กตาตัวแรกจะถูกกระตุ้นให้ขยับตีกลอง ส่วนตุ๊กตาไม้ตัวที่สองจะตีกลองที่ระยะทางทุกๆ 10 กิโลเมตร
หมายเลขบันทึก: 65843เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2006 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 14:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท