วันที่ 25 พฤศจิกายน 2549 ณ พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีวงสนทนาการขับเคลื่อนองค์กรการเงินและสวัสดิการชุมชน โดย คุณภีม ภคเมธาวี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นำการเสวนา องค์กรการเงินที่เข้าร่วมมีหลากหลายทั้งประเทศ
คุณภีม(ซ้ายสุด) ผู้ดำเนินรายการ
ดิฉันเข้าร่วมด้วย มีโอกาสดีมากทีเดียว ได้ฟังอย่างลึกซึ้งและตั้งใจ เห็นความหลากหลายของกองทุนต่างๆ ที่เริ่มก่อเกิดกองทุน การบริหารจัดการที่แตกต่าง ผลที่เกิดขึ้นมีหลากหลาย เช่น
•ทำให้เกิดความรัก ความผูกพันในกลุ่มของตนเอง
•เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน •กองทุนเป็นเครื่องมือการจัดการสังคมใหม่ ยกระดับจิตใจ
•ประชาชนมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการทุนภายในด้วยตนเองและ สามารถกำหนดอนาคตตนเองได้
•เป็นกระบวนการเรียนรู้ เจอกันทุกเดือน ร่วมคิดพัฒนาอะไรร่วมกัน
•ตัดสินใจบนฐานรากของชุมชน ไม่เลียนแบบใคร
•ส่งเสริมให้เยาวชนเข้าร่วมเรียนรู้
•ลดปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน
ครูชบและท่านอาจารย์พระสุบิน
ทั้งนี้ ครูชบ ยอดแก้ว ปรมาจารย์ด้านการออมเงินของชุมชนได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจ ว่าการพัฒนาคนเป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศเรา องค์กรการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคน โดยได้นำเสนอแนวคิดองค์กรชุมชนแก่กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ไปแล้ว และมีความหวังว่าสังคมไทยจะเป็นสังคมที่ไม่ทอดทิ้งกัน และเป็นสังคมที่มีคุณธรรมจริยธรรม ครูชบจะเป็นกระบอกเสียงให้แก่รากแก้วตลอดไป
นอกจากนี้ ท่านอาจารย์พระสุบิน มณีโต จ.ตราด เป็นปราชญ์ด้านการออมได้กล่าวสรุปว่า การออมจะทำให้เกิดการบริหารจัดการที่ยั่งยืน ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการออมมีหลายด้าน ท่านเน้นผลด้านสังคม เช่น จิตใจมั่นคงอบอุ่น ไม่ทอดทิ้งกัน มีการเยี่ยมคนแก่ ซื้อของกันให้ เกิดความอบอุ่นขึ้นในสังคม ทำให้ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีคุณค่า มีคุณธรรม สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และสังคมยั่งยืน
ธุวนันท์ พานิชโยทัย