หากให้กล่าวถึงจัตุรัสสุลต่านอะห์เมต นักท่องเที่ยวไทยที่ไปที่นั่นคงจะมีความคิดพ้องกันว่า “สนามหลวง” บ้านเรานี้เองด้วยการช่างวางแผนของไกด์ครูสาวโซเนียทำให้เราได้ใช้ช่วงเช้าตรู่กับธรรมชาติที่งดงามที่พระราชวัง Topkapi (ภาษาตุรกีแปลว่า ประตูปืนใหญ่) ที่ถูกสร้างในยุคสุลต่านเมห์เมตที่2 เริ่มสร้างในปีค.ศ. 1460 หลังจากที่ทรงปิดล้อมและยึดครองกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นอีสตันบูล จากพระราชวังแห่งนี้ทำให้เราได้มองช่องแคบบอสฟอรัสในส่วนของอ่าวโกลเดนฮอร์น และทะเลมาร์มาร่าในอีกมุมที่สวยมากๆ
พระราชวังแห่งนี้มีสภาพคงเดิมมากที่สุดและได้ถูกใช้งานมาจนถึงสุลต่านคนที่ 3 รวมเวลากว่า 400 ปี จึงย้ายไปที่พระราชวังโดลมาบาห์เช่ แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ พระราชวังชั้นนอก พระรางวังชั้นใน และฮาเร็ม ครูนกเริ่มเดินเข้าสู่พระราชวังชั้นในสถานที่ต้องห้ามของผู้ชายด้วยเป็นที่พักของมเหสี เหล่านางสนมตลอดจนลูกหลานสุลต่าน จากนั่นคือส่วนฮาเร็ม (Harem) ที่สำหรับสาวงามที่มาในฐานะเชลยศึก หรือเครื่องบรรณาการ การเข้ามาอยู่ที่นี่เหล่าสาวงามจะได้ชื่อใหม่ ห้องหับของฮาเร็มมีจำนวนมากเป็นร้อยๆ ห้อง แต่เราเข้าชมได้เพียงบางส่วน สิ่งที่ประทับใจมากสุดคือพระราชวังชั้นนอกโดยเฉพาะโรงครัวที่มองเห็นความยิ่งใหญ่ดังคำกล่าว กองทัพเดินด้วยท้อง และการได้เดินชมสวนที่มีดอกไม้แปลกตา และดอกไม้คุ้นตาของตุรกีคือ ดอกกุหลาบ
ปิดท้ายการชมพระราชวังTopkapi ที่แผนกครัว สถานที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ถึงความเจริญสูงสุดของออตโตมันผ่านอุปกรณ์เครื่องครัว ห้องครัว ตำราอาหาร ตลอดจนโต๊ะอาหาร มองเห็นภาพข้าราชบริพารที่มีจำนวนเกือบครึ่งหมื่น...นี้คือพระราชวังTopkapi พระราชวังเก่าแก่และทรงคุณค่าของเมืองอีสตันบูล
ไม่มีความเห็น