วันนี้พี่ประจิม หรือฉายา แดประจิม จากทีม ตามรอย tube NaF blood มานำเสนอผลสำเร็จของโครงการลดอัตาการ clot ของหน่วยเก็บเลือดสำหรับตรวจ sugar พี่ประจิมเตรียมตัวมาอย่างดี รายงานด้วยความมั่นใจไม่มีเคอะเขิน มีกำลังใจจากพี่ๆ น้องๆ และพี่เลี้ยงส่งมาช่วยอย่างเต็มที่
ที่มาของโครงการนี้คือว่า โดยปกติหลอดทดลอง (tube) สำหรับตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด ( glucose )จะใส่สารกันเลือดแข็งชนิดหนึ่งไว้ นั่นคือ NaF (จะเรียกหลอดทดลองนี้ว่า NaF Tube) สารตัวนี้จะช่วยป้องกันกระบวนการใช้น้ำตาลโดยเม็ดเลือดให้ช้าลงได้ นั่นคือถ้าไม่ใส่สารตัวนี้ ค่าระดับน้ำตาลในเลือด (blood glucose) ที่ตรวจได้จะต่ำกว่าความเป็นจริง คุณศิริ เคยเขียนเรื่องของ NaF ไว้ที่นี่ค่ะ
เพื่อให้ทราบถึงต้นตอของปัญหา คุณประจิมและทีมงานได้ใช้วิธี ตามรอย ตามไปถึงก้นห้องแล็บ (คล้ายๆ ก้นครัว ค่ะ) ไปดูวิธีการเตรียม NaF Tube จากนั้นตามไปดูถึงห้องเจาะเลือด ดูว่าหลังจากใส่เลือดลงไปใน NaF Tube แล้ว เขย่าหลอด (mix) ให้เลือดผสมกันดีกับสาร NaF หรือเปล่า เพราะถ้าผสมกันไม่ดีเลือดจะ clot และถ้าเขย่าผิดวิธีหรือแรงเกินไป เม็ดเลือดแดงอาจจะแตกได้
เมื่อรวบรวมข้อมูลและระดมสมองจนได้ที่แล้ว ก็ได้จัดทำ
ผลการดำเนินงาน ปรากฏว่า อัตราการ clot เพิ่มขึ้นจาก 1.46 % เป็น 1.71 % อ่านไม่ผิดค่ะ......มันเพิ่มขึ้นจริงๆ เรื่องนี้ทีมงานก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไม ?
พี่เลี้ยงของโครงการบอกว่า ยังหาสาเหตุของการ clot ไม่ได้ เพราะดูวิธีการเตรียมก็ได้มาตรฐานแล้ว อาจจะยังเข้าไม่ถึงต้นตอของปัญหา อาจจะต้องปรับวิธีการ mix ใหม่ เพราะเท่าที่สังเกตช่วงที่คนไข้เยอะ อัตราการ clot จะเพิ่มขึ้น (ต้องรีบเจาะเลือด เวลาในการ mix ลดลง)
มีข้อเสนอจากผู้ฟังและกรรมการ หลายข้อดังนี้
ถึงแม้ปัญหายังไม่ลดลง แต่ทีมก็ได้อะไรหลายอย่างจากโครงการ นอกจากได้คู่มือทั้งสองอย่างที่กล่าวมาแล้ว
เรื่องนี้....บรรดาเซียนนักเจาะเลือดทั้งหลาย คงต้องขยายและถ่ายทอดเทคนิคดีๆ ไปสู่มือใหม่ๆ บ้างแล้วล่ะค่ะ
ไม่มีความเห็น