มาเยี่ยมและให้กำลังใจน้องเก่งครับ!!!!
เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับผม......
ก่อนอื่น ต้องขอทวนคำถามก่อนนะคะ
ที่คุณบอกว่า จะทำอย่างไรดีให้คนอยากเรียนหรือต้องการเรียนเพื่อให้คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้สร้าง E-learning ใครมีความคิดดีๆ ช่วยหน่อยครับ?
ทำยังไงให้คนอยากเรียน .. แล้วก็คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้สร้าง E-learning ..
1.ทำให้คนอยากเรียนรู้ เป็นเรื่องไม่ยาก แค่ต้องล้างระบบการเลียน (ร)แบบเก่า ๆ ไปก่อน ทุกวันนี้ เราเน้นการเรียนมากไป (การเรียนที่เรียกว่า เลียนแบบ จดจำกันจนไม่มีเวลาทำอะไร ลืมแม้กระทั่งจะค้นหาตนเองว่า เรารัก เราใส่ใจอะไร เมื่อไม่รู้สิ่งที่ตนเองสนใจหรือชอบ ก็นำไปสู่อีหรอบเดิม คือให้เรียนก็เรียนได้ แต่ก็จะเป็นแบบเรียนผ่าน ๆ ไปเท่านั้น ไม่ได้สนุก หรือ สนใจอยากจะรู้ให้ถ่องแท้ คือ เรียนจบแล้วจบไป อย่าไปหวังว่าจะเกิด want to learn -- จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ อยู่ที่การรักที่อยากจะรู้ อยากจะรู้จัก ไม่ต่างอะไรกับการติดทีวี ติดยา แต่เป็นการรักติดในสิ่งที่สร้างสรรค์-- ซึ่งจุดเริ่มต้นตรงนี้น่าจะนำไปสู่ ฐานที่จะก่อให้เกิด การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง (self -directed learning) ได้
สิ่งที่ เยาวชนไทย สมัยนี้ขาดเป็นอย่างยิ่งก็ คือ ลักษณะนิสัยที่นำไปสู่การสร้างความสำเร็จ ซึ่งก็คือ ขาดการเรียนรู้ สู้สิ่งยาก ขาดฉันทะ--
มีวัฒนธรรมการเสพ การบริโภคความรู้แบบฉาบฉวย ขอไปที
ประเด็นที่สอง ในเรื่องของ **
ทำยังไงให้คนอยากเรียน .. แล้วก็คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้สร้าง E-learning
ก่อนอื่นก็ต้องมาดูก่อนว่า e-Learning เป็นไง
e-Learning เป็น การเรียน การสอนที่การถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซีดีรอม เครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซทราเน็ต หรือ ทางสัญญาณโทรทัศน์ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยซีดีรอม, การเรียนการสอนบนเว็บ (Web-Based Learning), การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ การเรียนด้วยวีดีโอผ่านออนไลน์
ถ้าถามว่าทำไงให้คนอยากเรียน แล้วคุ้มค่ากัการสร้าง e-Learning มั๊ย
คงตอบยาก แต่อย่างน้อยคงตอบได้ว่า อะไรที่เป็นสิ่งที่ดี สร้างสรรค์กันไปเถอะ ประโยชน์อาจไม่มากมายท้วมท้น แต่คงยังพอมีประโยชน์บ้าง -- อย่างน้อยก็มีประโยชน์กว่าการสร้างภาพยนต์ปัญญาอ่อน เช่น เดอะกิ๊ก ที่ใช้งบประมาณมหาศาล (เมือ่เทียบกับการทำe-Learning) เพื่อหล่อหลอมค่านิยมปัญญาอ่อนแน่นอนคะ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างคน (ที่มีคุณภาพ) + สร้างระบบการเรียน การศึกษาที่มีคุณภาพเช่นกันเช่น e-Learningควบคู่กันไป เพราะว่าหากพัฒนาแต่เครื่องมืออย่างเดียว แต่คนไม่ได้พัฒนาตาม ก็ไม่สามารถเอาประโยชน์จากเครื่องมือนั้น ๆ ได้ ต่อให้เป็นเครือ่งมือที่ดีที่สุด ก๋เหมือนคนไม่รู้วิธีใช้
ยังคงติดตามต่อไปนะคะ
หวังว่าคงพอจะมีประโยชน์บ้าง สำหรับคนที่ผ่านเข้ามา
ต่ออีกนิดนะคะ
จากหัวข้อที่คุณขึ้นว่า E-learning ดีจริงหรือ ???
อยากถามคุณเก่งเหมือนกันว่า ทุกวันนี้ เราควรที่จะถามกลับด้วยหรือเปล่าว่า
คนที่จะ ใช้ E-learning พร้อมหรือยัง ?
เพราะถ้า E-learning พร้อมแล้ว ดีแล้ว เหมาะแล้ว
แต่เยาวชน หรือคนที่จะใช้ ยัง ม่ายรู้ ม่ายดู ม่ายเอา
ก็คงจบเห่นะคะ
หากจะพัฒนายังไงก็คงยังเน้นว่า
ต้องพัฒนา บุคคลควบคู่ไปด้วยกับเครื่องมือ/รูปแบบการเรียนรู้
เช่น ความใฝ่รู้ ความมุ่งอนาคต การควบคุมตน ความมีวินัย และสุดท้ายปัญญา **โยนิโสมนสิการ
-- อยากให้ลองไปดู เกี่ยวกับเรื่อง ของ โยนิโสคะ
ถ้าเยาวชนมีโยนิโสมนสิการ ต่อให้ไม่มีไรเลย คนก็ยังมีปัญญาในการคิด การแก้ไข การมุ่งมั่นพัฒนา
ทุกวันนี้ เด็ก ๆ มีแต่ ความรู้ ความจำ
ยังไม่ใช่มีปัญญา
หุหุ ...
คนฉลาด กับคนมีปัญญา ต่างกันคะ
เด็กไทยทุกวันนี้เป็นเด็กฉลาดมากกว่ามีปัญญา
แล้วระบบการศึกษา ก็เอื้อให้คนฉลาดมากกว่ามีปัญญาด้วย
มาดึกๆ .. ความจริงจะเช้าแล้วครับ
ขอให้กำลังใจในการทำงานครับ
อ่านความเห็นท่าน คนผ่านทาง แล้ว จับใจ ตรงใจ อยู่มาก อยากให้เดินผ่านตาม Blog ต่างๆบ่อยๆครับ
ขอเพิ่มเติมว่า ภาวะ Want to learn นั้น จะเกิดได้จริงต้องผ่านกระบวนการสำคัญคือ จัดการให้เขาได้เข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ ด้วยใจรัก เช่น ทำให้สิ่งที่เรียน มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิตเขา เห็นชัดว่า ความสุข ความสำเร็จอะไรจะเกิดขึ้น หลังจากได้เรียนรู้เรื่องนั้น .. ถ้าให้ดี ควรเป็นความสุขที่เขาจะได้จากการทำอะไรเพื่อคนอื่น .. การได้รับการยอมรับนับถือ ฯลฯ .. ภาวะ Have to learn ก็จะเริ่มปรากฏในใจเขาว่า .. ไม่เรียนไม่ได้แล้วนะ .. ทำซ้ำ ทำบ่อยๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย แต่เป้าหมายเด่นชัด ก็จะค่อยๆสร้าง ภาวะ Want to learn .. และ Love to learn เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ได้ในที่สุด.
ต่อไปไม่ว่า E-Learning หรือสื่อการเรียนรู้รูปแบบใด แม้ที่เป็นกระดาษแผ่นเดียว ก็จะดึงดูดใจให้เขาอยากรู้อยากเรียนได้ทั้งสิ้น