ยูยินดี
นาย นายธรรมศักดิ์ ช่วยวัฒนะ

วอนนักวิจัยช่วยเหลือชาวนาทางภาคอีสานด้วย


ราคาข้าวที่เกิดความแตกต่างกัน

  ถึงแม้ภาคอีสานจะสามารถผลิตข้าวหอมมะลิและมีราคารับจำนำสูงสุด 9.00 บาท ต่อกิโลกรัมก็ตาม แต่ปริมาณข้าวสารให้ได้คุณภาพ ร้อยละ 42  กลับเป็นสิ่งที่ชาวนาจะทำคุณภาพได้ส่วนมากอยู่ที่ร้อยละ 26 - 32 เท่านั้น ราคาข้าวดังกล่าว 8.10 - 8.60 บาทเท่านั้น อัตราส่วนต่างจากข้าวอื่นอยู่ไม่เกิน 2 บาท มันแพงกว่าเห็นได้ชัดเจน ชาวนาอีสานน่าจะรวยกว่า

   แต่ถ้าหากมองในแง่การผลิตต่อไร่จะพบว่า ข้าวหอมมะลิเป็นหนึ่งไร่จะให้ปริมาณข้าวเปลือกเพียง 300 - 450 กิโลกรัมต่อไร่ น่นแสดงว่า ถ้าหากคิดเป็นจำนวนเงิน จะตกอยู่ที่  2430 - 3870 บาท ต่อไร่ ต่างจากข้าวจ้าวเปลือก กิโลกรัมละ 7.10 บาท แต่ให้ผลลิตต่อไร่ ที่ 1100-1600 กิโลกรัมต่อไร่ คิดเป็นเงิน 7810 - 11,360 บาทต่อไร่

   ข้าวหอมมะลิดูแลรักษายากมาก เพราะเป็นข้าวประเภทไวแสง และต้องเป็นแสงประจำปีเท่านั้น จะปลูกนอกฤดูกาลไม่ได้  ความคุ่มค่าที่มองในเชิงเศรฐศาสตร์มันตกต่ำมาก ชาวนาอีสานจึงจนมากเรื่อย ๆ ส่วนต่างของกำไรก็ตกเป็นค่าดำเนินการของโรงสีข้าวมากกว่า ที่จะเกิดกับชาวนาที่จำใจต้องขายข้าว เพื่อปลดชำระหนี้ยที่ถูกบีบให้ขายโดยไม่รอราคาที่เป็นไปตามกลไกลของตลาด

   กำไรของชาวนาคือ ฟางข้าว ที่มีปริมาณ 200 - 650 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าข้าวหอมที่ได้ เกิด อะไรขึ้น คุณภาพของข้าวหอมมะลิที่สถิติผลิตได้มาที่สุดของศูนย์วิจัยพันธุ์ข้างจังหวัดสุรินทร์ ทำได้ เพียง 645 กิโลกรัมต่อไร่ จริงหรือไม่ ................

    แต่ทำไมชาวนาทำได้ไม่ถึงปริมาณที่วิจัยได้เลย ทำอย่างไร นักวิจัยจะพัฒนาพันธ์ข้าวหอมมะลลิได้ปริมาณที่มากกว่า 1200 กิโลกรัมต่อไร่ ถึงขายข้าวหอมมะลิราคากิโลกรัมละ 6.40 บาท ชาวนาอีสานก็ได้กำไรมากอยู่ดี

           ถ้าปีใดฝนฟ้าดี ก็ได้ข้าวดี  ถ้าปีใดแย่ก็แย่

 

    ช่วยกรุณาหาแนวทางเพิ่มมูลค่าของข้าวไทยในอีสานด้วย รัฐบาลผู้มากด้วยประสบการณ์เชื่อว่าท่านคงทำได้ ความรู้ งานวิจัย คืออะไร ชาวนาไม่รู้หรอก แต่สิ่งที่ทำ  ทำได้ ตามเป็หมาย แสดงไห้เห็น นั้นมีค่ามากกว่า  เราจึงมองข้าม คำว่าการจิจัย  แบบชาวนา  สถาบันการศึกษา ช่วยชาวนาไทย ให้พอเพียงแบบมั่นคงด้วยเถอะ

คำสำคัญ (Tags): #ยูยินดี
หมายเลขบันทึก: 65466เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2006 11:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ฟิลิปปินส์ สังซ้ือข้าวจากเวียดนามตันละ 1200 US(US = 32.00 บาท) ทำไมข้าวแพงจังเลย แต่ชาวนาไม่ได้เงินหรอกเพราะไม่มีแม้พันธ์ข้าวจะปลูก เพราะรัฐมุ่งส่งเสริมแต่อุตสาหกรรม ทำลายพื้นที่เพาะปลูกจนหมด โดนต่างประเทศมากล่าวหาไทยว่า ทำให้ข้าวราคาแพง คนอดอยาก ประเทศไทยผลิตข้าวได้มากสุด 26-27 ล้านตันต่อปี(2550) มีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับการผลิตก่อน พ.ศ. 2533 สาเหตุส่วนใหญ่ เนื่องจากไม่มีชาวนามืออาชีพระดับมือโปร ... เป็นเพียงผู้มีเงินคิดว่าที่นาราคาไร่ละ 20,000 - 50,000 บาทต่อไร่ ซื้อล้อมร้้วราคาแพง หรือไม่ก็ถมที่ไว้เฉย ๆ เขาอ้างว่าทำแล้วขาดทุน ไม่ใช่มืออาชีพ พื้นที่ทำนาประเทศไทยอยู่ประมาณ 45 ล้านไร่ (2550) ลดลงเพราะเขาคิดว่าคนรวยช่วยได้ ต่อไปนี้ชาวนาก็จะเหลือแค่นิยาม เพราะภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการคาดการที่จะหว่านข้าว จะปักดำ ภูมิรู้เหล่านั้น ตายเกือบหมดแล้ว ภาวะโลกร้อนทำให้ปัญหาภูมิปัญญางง... ความรู้ที่ถ่ายทอดมามากกว่า 4,000 ปี สูญ... (จาการค้นพบ ความชื่อทางพิธีกรรมการฝังศพในเขตบริเวณลุ่มน้ำมูลและทุ่งกุลาร้องไห้ ภาคอีสาน ภาชนะมีเศษคาร์บอน ที่สันิษฐานน่าจะเป็ยเมล็ดพันธุ์ข้าว ที่ชาวอีสานมีความเชื่อว่า อาหารที่ผู้ตายนำติดตัวไปได้น่าจะเป็นเล็ดพันธ์ข้าวเอาไว้ปลูกในสวรรค์เริ่มตั้งแต่การอบข้าวตอกแตก การหว่านข้าวไปตามทางเดินการขนหีบศพ จนกระทั่งถึงหลุมฝัง) นักโบราณคดี้ไม่มีเครื่องมือวิเคราห์จำแนกสารที่พบแหล่งฝังศพดังกล่าว แปลกที่ทำไมชาวต่างชาติจึงนำเอาเถ้าถ่าน ข้างศพไปทำอะไร...... งง ข้าวมาคารามากกว่าทองคำ มาตั้งแต่ก่อยยุคประวัติศาสตร์ไทย

รัฐบาลจะทำอย่างไรให้มีปริมาณข้าวระดับปรีเมียม

สถานการณ์ข้าวมีทิศทางการจำหน่ายกับการบริโภคไปในทิศทางเดียวกัน แต่ราคาของเกษตรกรขายก็มีราคาน้อยเท่ากับข้าวธงฟ้า คนไทยได้กินข้าวถูกหรือแพง เพราะเหตุปัจจัยใด

เมื่อกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ได้ปรับประมาณการผลผลิตข้าวโลกเพิ่มขึ้นจากปริมาณ 420.6 ล้านตัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เป็น 422.9 ล้านตัน ในเดือนมีนาคม 2551 เนื่องจากอินเดียมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจากประมาณการไว้ 2 ล้านตัน นอกจากนี้ได้ปรับการบริโภคข้าวลดลงจากปริมาณ 423.7 ล้านตัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 เป็น 422.5 ล้านตัน ในเดือนมีนาคม 2551 เนื่องจากจีนบริโภคข้าวลดลงประมาณ 2.1 ล้านตัน แม้ว่าอินเดียบริโภคข้าวเพิ่มขึ้นจากประมาณการไว้ 1.1 ล้านตัน ส่งผลให้ผลผลิตข้าวโลกสูงกว่าการบริโภคประมาณ 0.4 ล้านตัน

โดยในปี 2551 การค้าข้าวโลกยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 29.4 ล้านตัน ทำให้ตลาดยังคงเป็นของผู้ขายหรือประเทศผู้ส่งออก ทั้งนี้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดว่า ไทยจะส่งออกประมาณ 9.0 ล้านตัน และเวียดนามส่งออก 5.0 ล้านตัน อินเดีย 3.5 ล้านตัน สหรัฐฯ 3.5 ล้านตัน และปากีสถาน 2.9 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกค่อนข้างตึงตัวและการเพิ่มขึ้นราคาข้าวภายในประเทศ รัฐบาลของประเทศผู้ส่งออกจึงต้องดำเนินมาตรการชะลอการส่งออกข้าวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อาจส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกข้าวลดลงในปี 2551 ในขณะที่ประเทศผู้นำเข้าหลักยังคงนำเข้าข้าวปริมาณมาก ได้แก่ ฟิลิปปินส์จะนำเข้ามากที่สุดประมาณ 1.9 ล้านตัน อินโดนีเซียและไนจีเรียประเทศละ 1.6 ล้านตัน อิรัก 1.1 ล้านตัน EU-27 1.1 ล้านตัน ซาอุดิอาระเบียและบังกลาเทศประเทศละ 1.0 ล้านตัน และอิหร่าน 0.9 ล้านตัน

ที่มา: นายสุรัตน์ โชคประจักษ์ชัด และคณะ ,สมาคมโรงสีข้าวไทย (www.thairicemillers.com)

81-81/1 เจริญนคร 24 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100 โทร.02-2347289 โทรสาร 02-2347236

ความต้องการของตลาดสูง อีกทั้งประเทศพม่าก็มาสูยเสียปริมาณข้าวก่อนการเก็บเกี่ยวไม่กี่วัน น่าเห็นใจทั้งชาวนาและผู้บริโภค

ชาวนาในอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ส่วนหนึ่งมากกว่าหมื่นไร่ ได้ลงแปลงนาหว่านปลูกข้าวหอมมะลิระหว่างวันที่ 14 - 30 เมษายน ของทุก ๆ ปี โดยคาดว่าข้าวดังกล่าวจะรองรับปริมาณน้ำฝนที่สูงท่วมข้าวขนาด 10 - 15 เซนติเมตร ได้ไม่น่าเกิน 2 - 3 วัน แต่ด้วยพายุที่เข้ามาบ่อยครั้ง บัดนี้ข้าวหอมมะลิต้นอ่อนจมอยู่ในน้ำนานกว่า 5 วันแล้ว (ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2551 เป็นต้นมา) ข้าวปลูกที่เคยแย่งกันซื้อ ก็หมด ซ้ำยังอาภัพต่อเมื่อ ข้าวที่ทดตุนไว้เพื่อจะเปลี่ยนเป็นค่าเทอมบุตรหลานก็กลับดิ่งดับลงเหว จนถึงราคา 12 - 15.20 บาท (ราคาข้าวหอมมะลิ) ทุกขัง ที่รอฟ้า รอฝน รอแล้วรอเล่า ทำไมถึงไม่มีข้อมูลที่คาดการณ์สภาพดินฟ้าอากาศ จะให้ชาวนาทุกช้ำเพราะความเขลา เบาปัญญา คนเป็นเคยเป็นภูมิปัญญาก็ละสังขารไป คนสืบทอดก็คาดไม่ถูก อ้างว่าเพราะโลกร้อน อาภัพทางปัญญา ของชาวนาไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท