การประชุมคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมี นายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรแก่เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยขณะนี้มีจังหวัดที่ได้รับความเสียหายรวม 47 จังหวัด แบ่งเป็น ด้านพืชได้รับผลกระทบ 35 จังหวัด พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 5,376,069 ไร่ ประกอบด้วยข้าว 4,423,879 ไร่ พืชไร่ 580,394 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 371,796 ไร่, ด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 37 จังหวัด เกษตรกรเดือดร้อน 81,995 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 4,865,445 ตัว ประกอบด้วยโค/กระบือ 257,947 ตัว สุกร/แพะ/แกะ 140,222 ตัว สัตว์ปีก 4,467,581 ตัว และด้านประมงได้รับผลกระทบ 39 จังหวัด เกษตรกร 96,428 ราย พื้นที่บ่อ 219,741.54 ไร่ พื้นที่กระชัง 177,325 ตารางเมตร
สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ ที่ประชุมเห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์ช่วยเหลือเพื่อบรรเทา ความเดือดร้อน แบ่งเป็น 1) ด้านพืช ข้าว 414 บาท/ไร่ พืชไร่ 579 บาท/ไร่ และพืชสวน 786 บาท/ไร่ 2) ด้านประมง ปลาทุกชนิด 3,406 บาท/ไร่ กุ้ง/ปู/หอยทะเล 9,098 บาท/ไร่ และบ่อ/กระชัง 257 บาท/ตารางเมตร 3) ด้านปศุสัตว์ โค/กระบือ 15,800 บาท/ตัว สุกร 1,200 บาท/ตัว แพะ 1,400 บาท/ตัว แกะ 1,400 บาท/ตัว ไก่พื้นเมืองหรือลูกผสม 22.5 บาท/ตัว ไก่เนื้อ/ไก่ไข่ 15 บาท/ตัว เป็ดเนื้อ/เป็ดไข่ 15 บาท/ตัว นกกระทา 12 บาท/ตัว ห่าน 50 บาท/ตัว เมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ไร่ละ 2 ก.ก. 220 บาท/ไร่ ท่อนพันธุ์พืชอาหารสัตว์ 625 บาท/ไร่ และ 4) อาหารสัตว์ อาหารสุกรตัวละ 10 ก.ก. 100 บาท/ตัว อาหารสัตว์ปีกตัวละ 0.5 ก.ก. 5 บาท/ตัว
สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยที่มีความเสียหายรุนแรงหรือมีน้ำท่วมขังยาวนานหลายเดือน เกษตรกรไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกครั้ง ด้านผู้ประกอบการรายใหญ่ด้านการเกษตร อาทิ แปลงสวนไม้ ฟาร์มปศุสัตว์ ฯลฯ จะตั้งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือเป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้แนวทางการช่วยเหลือดังกล่าว จะเสนอของบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินการประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่ ครม. เห็นชอบแล้ว จะมอบให้คณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด (คชปจ.) ดำเนินการพิจารณาจ่ายเงินเป็นราย ๆ ไป ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือที่กำหนด ซึ่งการจ่ายเงินจะจ่ายผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และมีการประกาศรายชื่อผู้ขอรับความช่วยเหลือ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบความถูกต้อง และให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส ซึ่งการช่วยเหลือทั้งหมดกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยเร็วที่สุด
ประชาชาติธุรกิจ 4 ธ.ค. 2549
ไม่มีความเห็น