ปิดภาคเรียนเทอมนี้นิพาดาชวนธรรศสมัครไปอบรมปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจังหวัดจันทบุรี โดยจะไปชวนพ่อแม่ไปร่วมปฏิบัติด้วยเพราะเคยรับปากไว้แล้วครั้งหนึ่ง พ่อกับแม่นิพาดายินยอมแต่โดยดีเพราะกลัวลูกสาวจะต่อว่าและอยากรู้เหมือนกันว่าไปอบรมแล้วจะเป็นยังไงบ้าง
ทางฝ่ายธรรศก็โทรชวนพ่อที่เมืองจีนให้มาปฏิบัติธรรมด้วยกัน พ่อตอบตกลงจะบินมาเมื่อใกล้ถึงวันนัดหมาย ธรรศถามพ่อต่อ ถึงเรื่องที่พ่อเคยกล่าวอาฆาตชัชพงศ์ไว้ พ่อปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรกับครอบครัวของชัชพงศ์ เพราะหลังจากได้ฟังธรรศกับแม่ขอร้องในวันนั้น พอกลับไปท่านก็หายโกรธ และไม่อยากผูกพยาบาทกันต่อ
แม่กับน้าสาวของธรรศก็จะไปร่วมปฏิบัติครั้งนี้ด้วย ส่วนตากับยายอาสาขอเฝ้าบ้าน ครั้งต่อไปจึงจะไป ธรรศและนิพาดาทำหน้าที่สมัครเข้ารับการอบรมให้กับทุกคนและได้รับการตอบรับกันทุกคน นิพาดาไม่ลืมที่จะโทรชวนนิศมาและกรนุชไปด้วย แต่ทั้งสองคนติดภารกิจไปด้วยไม่ได้ สองครอบครัวเหมารถตู้เดินทางไปด้วยกันก่อนวันอบรมสองวัน ถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน และทานผลไม้กันด้วย รถตู้วิ่งจากสายมอเตอร์เวย์ ไปตามเส้นทางชลบุรี - แกลง มุ่งสู่ตัวเมืองจันทบุรี ธรรศและพนิดาจองบ้านพักหลังหนึ่งที่รีสอร์ทริมหาดเจ้าหลาวไว้ เป็นบ้านพักที่ติดกับชายหาด ได้ฟังเสียงคลื่นกระทบชาดหาด อากาศเย็นสบาย บ้านพักหลังนี้มีห้องพักสองห้องใหญ่แบ่งกันห้องละครอบครัวได้พอดี ทุกคนต่างพอใจในบรรยากาศที่พักนี้มาก โดยมีโปรแกรมจะพักที่นี่กันสองคืน เพื่อจะได้เที่ยวให้ทั่วจันทบุรี ซึ่งเป็นเมืองที่ใครๆก็อยากมาเที่ยว มีทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก อาหารการกินอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลไม้อร่อยให้รับประทานกันมากมาย
ธรรศเคยเป็นไก๊ด์พาคณะท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวจันทบุรีหลายครั้ง จึงรู้เส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวเมืองนี้ได้ดี จึงอาสาเป็นไก๊ด์พาคณะนำเที่ยว เริ่มจากบ่ายวันนี้ไปเที่ยวในตัวเมืองจันทบุรีกันก่อน นั่งรถไปวนเที่ยวรอบเมือง ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง ได้ย้อนประวัติศาสตร์เหตุการณ์สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินเข้ามาตีเมืองจันทบุรี แล้วสะสมอาวุธ พาหนะ อาหารและผู้คนก่อนยกทัพไปกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมาจากพม่า พ่อนิพาดาซึ่งมีความรู้ในประวัติศาสตร์ดีได้เล่าเหตุการณ์สมัยนั้นให้คณะฟังเพิ่มเติมจากที่ธรรศแนะนำสถานที่ ท่านกล่าวตอนหนึ่งว่า "ตอนนั้นถ้าไม่มีสมเด็จพระเจ้าตากสิน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยังมีประเทศไทยอยู่ในตอนนี้หรือไม่"
ทุกคนฟังแล้วสะท้อนใจ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสงสารท่านจับใจ ท่านต้องผจญความยากลำบากในการปกครองบ้านเมืองของท่านในตอนนั้น และชะตาชีวิตท่านในตอนปลายรัชกาล
อาหารมื้อเย็นวันนี้ธรรศพาคณะไปทานร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ซึ่งจะมีอาหารของเมืองจันทบุรีโดยเฉพาะ คณะจึงตกลงกันว่าจะเลือกสั่งอาหารของเมืองจันทบุรีจริงๆ จะได้ชื่อว่ามาถึงเมืองจันทบุรีแล้ว อาหารที่ได้รับคำแนะนำและสั่งทานกันคือ แกงหมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู กระวานผัดฉ่าไก่ ยำมังคุด ส้มตำทุเรียน และแกงเผ็ดเป็ดย่างเงาะสด แล้วตามด้วยของหวานคือ สละลอยแก้ว ทุกคนทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย แล้วกลับที่พัก
วันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นกันแต่เช้า ไปเดินสูดอากาศและดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดเจ้าหลาว ทานอาหารเช้าที่ รีสอร๋ทเสร็จ ธรรศนำคณะไปที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบนเป็นจุดแรก แล้วพาไปทานบุฟเฟต์ผลไม้ที่สวนๆหนึ่ง ทุกคนได้เข้าไปเที่ยวในสวนและได้ทานทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง สละจากสวนจนอิ่มแปร้ ถือเป็นอาหารกลางวันที่ถูกใจในมื้อนี้ด้วย อิ่มแล้วทุกคนหนังตาเริ่มหย่อน ธรรศจึงบอกให้ทุกคนไปนอนกันบนรถระหว่างเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกพริ้วในจุดต่่อไป พอรถวิ่งออกไปไม่นานทุกคนก็เข้าสู่นิทราด้วยฤทธิ์ของทุเรียน เวลาล่วงเลยไปกับการเดินทางและการชมธรรมชาติที่น้ำตกพริ้วจนบ่ายคล้อย ธรรศแนะนำว่าถ้าจะไปอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏอีกแห่งเกรงว่าจะมืดค่ำ ทุกคนจึงตกลงว่าจะเดินทางกลับที่พัก ได้ทานอาหารมื้อเย็นที่หาดเจ้าหลาวซึ่งเป็นอาหารซีฟู๊ดล้วนๆ ถูกใจและสมใจ ทุกคนถือว่าได้ถึงเมืองจันทบุรีอย่างสมบูรณ์และมีความสุข ทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
บ่ายวันต่อมาคณะเดินทางมาถึงศูนย์ปฏิบัติธรรม ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอโป่งน้ำร้อน เพื่อเข้าสู่การอบรมหลักสูตรวิปัสสนา 10 วัน ทุกคนเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว และรู้ว่าจะต้องปฏิบัติตนเช่นไร จะมีเพียงบางท่านคือพ่อแม่นิพาดา พ่อ แม่และน้าของธรรศที่เพิ่งเข้าปฏิบัติเป็นครั้งแรก จึงรู้สึกตื่นเต้นและทำอะไรไม่ค่อยถูกในตอนแรก ธรรศและนิพาดาจึงคอยแนะนำและฝากให้ธรรมบริกรช่วยดูแลเป็นพิเศษ
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยสวนผลไม้หลายชนิด อยู่ระหว่างเทือกเขาสองลูกล้อมรอบอยู่ไม่ไกล คือเทือกเขาสอยดาวอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และเทือกเขาคิชฌกูฏอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปีและมีทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ รวมทั้งที่พัก ที่ฝึกอบรมก็สะดวกสบาย ระเบียบปฏิบัติต่างๆก็เป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกศูนย์ จึงเป็นบรรยากาศที่ดี เอื้อให้ทุกคนได้ฝึกอบรม ผ่าตัดจิดใจเป็นเวลา 10 วันด้วยการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ให้พบกับความสุขและความสงบอย่างแท้จริง นิพาดากับธรรศดีใจที่ได้พบหลวงพี่ชัชพงศ์พาชาวบ้านมาร่วมอบรมครั้งนี้ด้วย 8 คน ซึ่งธรรศกับนิพาดาก็รู้จักทุกคนเป็นอย่างดี ต่างเข้ามาทักทายกัน หลวงพี่บอกว่าเที่ยวนี้หลวงพ่อไม่ได้มาด้วย ท่านฝากให้หลวงพี่ชัชพงศ์นำทีมมาเอง และปีนี้หลวงพี่ได้นำชาวบ้านไปอบรมที่ศูนย์อื่นๆมาสองครั้งแล้ว ธรรมะช่วยทำให้ชีวิตของหลวงพี่ชัชพงศ์เปลี่ยนแปลงไปสู่ความสงบสุขได้จริงๆ
10 วันผ่านพ้นไป ผู้เข้ารับรับการอบรมเกิดความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ตามคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ลึกซึ้งมากขึ้น ผู้ปฏิบัติใหม่เหมือนกับได้สัมผัสกับโลกใหม่ ผู้ปฏิบัติเก่าได้เพิ่มพูนทักษะการปฏิบัติให้ก้าวหน้ามากขึ้น ต่างได้รับความสุขความสงบจากธรรมะตามพื้นฐานของแต่ละคนโดยถ้วนหน้า พร้อมที่จะกลับไปเผชิญชีวิตในโลกปกติตามความเป็นจริงอย่างผู้มีสติที่มั่นคงกันต่อไป
--------------
ไม่มีความเห็น