รักที่หลุดพ้น (ตอนที่ 19 เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์ของครูนิพาดา)


วรรณกรรมอิงธรรมะ เชื่อมโยงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประวัติการศึกษาไทยในชนบทแห่งหนึ่ง ของยุคหนึ่ง ในหลายๆมิติ

     การสอนคณิตศาสตร์ของนิพาดาที่ผ่านมาหลายปี ก็เจอเหตุการณ์ที่ตื่นเต้น ประทับใจไม่น้อยเช่นกัน  โดยเฉพาะตอนสอนนักเรียนห้องท้ายๆ ที่อ่อนแทบทุกวิชา ครูแต่ละคนที่เข้าสอนห้องนี้ต่างบ่นกันแทบทั้งนั้นว่า เวลาครูสอนไม่ตั้งใจเรียน บางคนก็เล่นกันเวลาเรียน แกล้งเพื่อน นักเรียนหญิงบางคนก็หยิบกระจกมาหวีผมแต่งหน้า  บางคนก็พูดคำหยาบ แทรกออกมาโดยไม่เกรงใจครู ฯลฯ เป็นที่เอือมระอาของครูที่เข้าสอนและครูประจำชั้น ที่ต้องคอยอบรม และชำระคดีความกันไม่เว้นแต่ละวัน
         นิพาดากลับมองว่า เป็นเรื่องธรรมดาและท้าทายดี เธอเชื่อว่า “ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ” ซึ่งต้นเหตุของเรื่องนี้ก็คือ การเรียนไม่รู้เรื่อง สอบครั้งใดก็ได้คะแนนไม่ดี มักจะถูกครูบ่นครูว่าแทบทุกชั่วโมง บางทีก็ถูกครูนำไปเปรียบเทียบกับห้องที่เรียนเก่ง  ในที่สุดพวกเขาก็เลยต้องหาปมเด่นให้คนสนใจตนเองบ้าง เมื่อทำปมเด่นทางบวกไม่ได้ก็ทำทางลบให้สะใจเสียเลย บางทีก็มีการตั้งแก๊งเกเรกันขึ้นในโรงเรียนให้ครูปวดหัวกันเล่น การไปดุไปด่า หรือลงโทษเขาเหมือนกับที่ครูหลายๆคนทำกัน นอกจากเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว ยังเป็นการไปช่วยเพิ่มปมเด่นให้พวกเขาสะใจและอยากจะทำให้หนักข้อยิ่งขึ้นอีก    
        นิพาดาคิดว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้จะต้องแก้ที่ต้นเหตุคือ ต้องพยายามทำให้เขาประสบผลสำเร็จในการเรียน หรือในเรื่องดีดีที่เขาทำได้ แล้วเสริมแรงให้แก่เขาอย่างจริงใจและทำอย่างต่อเนื่อง วัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังเหลือเฟือ ครูจะต้องหากิจกรรมที่ถูกจริตและสร้างสรรค์ให้เขาทำ อย่าให้เขาว่างมือ ถ้าปล่อยปละละเลย เขาก็จะทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ตลอดเวลา                     
        ซึ่งดูพูดง่าย แต่ทำยาก ยิ่งเป็นวิชาคณิตศาสตร์ที่เด็กห้องท้ายๆเกลียดเป็นพิเศษแล้ว ยิ่งทำได้ยากยิ่ง แต่สำหรับนิพาดาแล้ว อาจเป็นอานิสงส์จากการที่เธอได้ยึดมั่นและทำเยี่ยงนี้มาตลอด จนสามารถเข้าถึงโลกในใจของนักเรียนไม่ว่าห้องเก่งหรือห้องท้ายๆมาทุกรุ่น แล้วนักเรียนเหล่านั้นก็สื่อสารกับรุ่นหลังๆถึงบุคลิกของเธอให้เป็นที่รู้ทั่วกันปากต่อปากว่า              
         “ตัวเล็ก..ดุ...ใจถึง...ถึงลูกถึงคน...กัดไม่ปล่อย...แต่จริงใจ มีเมตตาต่อศิษย์ และสอนรู้เรื่องกว่าใครๆ”            
         บารมีเหล่านี้ส่งผลให้ชั่วโมงที่เธอเข้าสอนนักเรียนห้องท้ายๆครั้งใดทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ ไม่มีปัญหาเหมือนกับชั่วโมงของครูคนอื่น                 
          เทคนิคการสอนของนิพาดาให้นักเรียนห้องท้ายๆเรียนเลขรู้เรื่อง ก็คือ  พยายามทำให้พวกเขาประสบผลสำเร็จ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล เพราะเธอรู้ว่านักเรียนห้องนี้ถูกสั่งสมความไม่รู้เรื่องและเบื่อวิชานี้มาตั้งแต่ต้นๆก่อนถึงชั้นนี้แล้ว การจะทำให้เขารู้ทุกเรื่องเหมือนเด็กห้องเก่ง คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นในชั่วโมงแรกๆจึงต้องพยายามสอนทบทวนประสบการณ์เดิม เอาแต่ที่เป็นแก่นๆ ที่เป็นพื้นฐานอย่างง่ายที่สุด ไปช้าๆ แล้วออกข้อสอบง่ายๆให้เขาทำ ซึ่งผลปรากฏว่า เขาทำได้เกินครึ่งเกือบทั้งห้อง ที่ไม่ผ่านก็ได้คะแนนเกือบถึงครึ่ง แล้วก็เลยรีบเสริมแรงให้เขาทันที โดยเธอถามนักเรียนทั้งชั้นว่า               
         “ในชีวิตของพวกเราเคยทำเลขได้คะแนนมากขนาดนี้ไหม” นักเรียนทั้งห้องตาโตเป็นประกายด้วยความภาคภูมิใจขึ้นมาทันที เธอจึงไม่ละโอกาสอันดีนี้กล่าวกับพวกเขาต่อว่า               
        “เห็นไหมว่า วิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้ยากอย่างที่เธอคิดหรอก แล้วพวกเราอยากเรียนคณิตศาสตร์ในชั้นนี้ให้รู้เรื่องไหม”               
        “อยากครับ/ค่ะ...”
เสียงดังกระหึ่มพร้อมกันขึ้นมาทั้งห้อง นิพาดาจึงวางเงื่อนไขกับพวกเขาทันที             
        “สัญญากับครูได้ไหมว่าต่อไปนี้เธอจะตั้งใจเรียน ถ้าไม่รู้เรื่องก็รีบถาม ทำการบ้านด้วยตนเองทุกข้อ และถ้าไม่ทำตามนี้จะต้องถูกครูลงโทษด้วย”              
        “สัญญาค่ะ...”
เสียงตอบดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง             
        “ครูก็จะให้สัญญากับเธอเหมือนกันว่า ครูจะพยายามสอนให้เธอรู้เรื่อง และถ้าใครสอบวิชาคณิตศาสตร์ของครูในการทดสอบเก็บคะแนนครั้งต่อไปได้ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็มครูจะมีรางวัลให้ทุกคน”
เด็กๆตาเป็นประกายอย่างมีความหวังอีกครั้ง             
         “รางวัลอะไรครับ/ค่ะ...”
เด็กๆถามอย่างสนใจ              
         “ถึงเวลาก็รู้เอง แต่จะเป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิตของเธอ ครูบอกได้เท่านั้น” นิพาดากล่าวให้ความหวังกับเขา             
         หลังจากนั้นทุกชั่วโมงเด็กๆจะตั้งใจเรียนและทำตามสัญญากันอย่างเคร่งครัด นิพาดาเองก็พยายามจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สนุกสนาน ท้าทาย เช่น ถ้ามีโจทย์แก้ปัญหาที่ไม่ยากนักก็จะเชียร์ให้นักเรียนออกมาช่วยกันทำบนกระดานดำ โดยทำคนละบรรทัด ถ้าไม่กล้าออกมาคนเดียว จะออกมาสองคนก็ได้ พอมีหน่วยกล้าตายออกมา คนอื่นๆก็จะเป็นกองลเชียร์ให้กำลังใจ พอเด็กทำได้ครูก็จะให้ทุกคนปรบมือชื่นชมเพื่อน ถ้าใครทำไม่ได้ครูก็ไม่ตำหนิแต่จะหาจุดเด่นชม เพื่อไม่ให้นักเรียนเสียกำลังใจ เช่น      
         “วิธีทำของเธอถูกแล้ว แสดงว่าเธอจำสูตรได้ เพียงแต่รีบเร่งไปหน่อยเลยคิดเลขผิด คราวหน้าเอาใหม่นะ”                   
         ก็ไม่ทำให้เด็กเสียหน้า และทำให้คนอื่นๆอยากอาสาออกมาแก้โจทย์ปัญหาบ้าง และจากโจทย์ที่ง่ายๆก็ขยับขึ้นมาให้ยากขึ้นตามพัฒนาการและศักยภาพของเด็ก นอกจากนั้นเธอยังมีวิธีสอนอื่นๆที่ท้าทายและให้กำลังใจเด็กอีกหลายอย่าง เช่น ใช้เพื่อนสอนเพื่อน ใช้การแข่งขัน ฝึกการทำโจทย์เลขบ่อยๆ บูรณาการกับวิชาต่างๆ เป็นต้น                 
         พอถึงวันทดสอบเก็บคะแนนครั้งแรกของโรงเรียน  ดูเด็กห้องนี้ตั้งใจสอบวิชาคณิตศาสตร์กันเป็นพิเศษ ไม่มีใครออกจากห้องสอบก่อนเวลาเลย ทำให้ครูที่คุมสอบแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับการสอบวิชานี้                
         หลังจากสอบเสร็จ ทุกวันเด็กๆจะพากันมาเวียนถามว่า               
        “ครูตรวจข้อสอบเสร็จหรือยัง…ผม/หนูผ่านไหม?”
               
        อีกสามวันต่อมานิพาดาก็ตรวจคะแนนเสร็จ เธอได้เตรียมรางวัลไปมอบให้นักเรียนที่สอบผ่านได้คะแนนไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งตามสัญญา โดยไปซื้อแฟ้มพลาสติกจากสหกรณ์โรงเรียน ราคาแฟ้มละไม่กี่บาทร่วม 40 แฟ้มหอบเข้ามาในห้อง เห็นนักเรียนแต่ละคนนั่งเงียบอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างใจจดใจจ่อที่จะฟังข่าวดี ดูตื่นเต้นจนผิดสังเกต นิพาดาคิดว่าพวกเขาคงลุ้นว่าจะได้คะแนนถึงครึ่งหรือไม่ คงไม่ลุ้นว่าจะได้คะแนนเต็มหรือเกือบเต็มหรอก                
       “นั่งกันตามสบายก็ได้ ไม่ต้องนั่งเกร็ง ตัวตรงยังงี้ เดี๋ยวก็อัมพาตกินหรอก” นิพาดาสร้างบรรยากาศด้วยการทักทายนักเรียนอย่างเป็นกันเอง เรียกเสียงหัวเราะและทำให้บรรยากาศที่เคร่งเครียดดูคลายลง                
       “ก่อนอื่นครูดีใจและขอชื่นชมนักเรียนทุกคนอย่างยิ่งว่า ผลการทดสอบครั้งนี้นักเรียนได้คะแนนถึงครึ่งกันเป็นส่วนใหญ่ มีบางคนแม้ได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง แต่ก็เฉียดฉิว ไม่มีใครได้คะแนนต่ำจนผิดสังเกตเลย” นิพาดากล่าวเปรยเพื่อให้กำลังใจแก่นักเรียนก่อนประกาศผลสอบ และกล่าวต่อ                
       “ตามที่ครูให้สัญญากับเธอไว้ว่าใครสอบเก็บคะแนนครั้งแรกได้ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของคะแนนเต็มครูจะมีรางวัลให้นั้น ตอนนี้ครูจะทำตามสัญญาแล้วนะ และบอกเสียก่อนว่า ครูไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ครูก็ตั้งใจทำให้พวกเรา และครูอยากให้พวกเราภาคภูมิใจว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลจากการเรียนคณิตศาสตร์ อาจเป็นรางวัลแรกในชีวิตของนักเรียนหลายๆคน จึงนับเป็นรางวัลที่มีคุณค่ายิ่งของนักเรียน แม้บางคนจะไม่ได้ในครั้งนี้แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะได้ในครั้งต่อๆไปอีก เพียงแต่ขอให้ตั้งใจเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเท่านั้น”
                   
        แล้วนิพาดาก็เริ่มประกาศรายชื่อนักเรียนที่จะได้รับรางวัล ให้ออกมารับรางวัลกันทุกคน ท่ามกลางเสียงปรบมือ และความตื่นเต้นดีใจของผู้ที่ได้รับกันทุกคน         
        การสอนคณิตศาตร์ของนิพาดาจะให้ความสำคัญกับการท่องจำและความแม่นยำในสูตรทางคณิตศาสตร์ เป็นพิเศษ  นิพาดายอมรับว่าบางครั้งตนเองก็หลงลืมสูตรทางคณิตศาสตร์บางสูตรไปบ้าง เพราะมีสูตรคณิตศาสตร์มากมาย  ตนเองต้องสอนหลายระดับชั้นด้วย  แต่ก็พยายามใช้เทคนิคเข้าช่วย เช่น ก่อนเริ่มสอนก็ให้นักเรียนที่ค่อนข้างอ่อนไปเขียนสูตรที่จะต้องใช้ในการสอนครั้งนี้ไว้มุมกระดานดำ  ถ้าเขียนไม่ถูกนักเรียนที่เก่งกว่าจะบอกให้แก้ไขเอง  เวลาสอนก็จะชำเลืองดูสูตรด้วยเพื่อไม่ให้ผิดพลาด  หรือบางครั้งก็ใช้วิธีให้นักเรียนไปท่องสูตรมาก่อนแล้วมาท่องให้ครูฟัง ครูก็ถือโอกาสแอบทบทวนไปด้วย  ถือว่าได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

       เรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องเรียน  ตลอดจนสมุดจดงานและการทำงานที่เป็นระเบียบเรียบร้อยของนักเรียน เป็นสิ่งที่นิพาดาให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนติดเป็นนิสัยที่ถาวร  แรกๆก็ต้องเคี่ยวเข็ญและอดทนต่อการดื้อรั้นของพวกเขา แต่นานวันไปก็เข้าที่เข้าทางไม่ต้องจ้ำจี้จำไชกันมากนัก        
       นิพาดาคิดว่า ครูจะสอนแต่วิชาการอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องสอนเรื่องทักษะชีวิตและจิตใจให้นักเรียนด้วย                                     
                --------------------------------------                                              
                                 
           

หมายเลขบันทึก: 650658เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2018 10:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน 2020 10:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท