กรวย(กรอบ)แห่งความคิดและปัจจุบันขณะ


ผมกำลังสรุปการเรียนรู้ของตนเองจากหนังสือ "กลางใจราษฎร์ (หกทศวรรษแห่งการทรงงาน)" บทนำของหนังสือเขียนถึงประวัติความเป็นมาของคนไทย ยิ่งถอดความ ยิ่งสงสัยว่าใช่หรือไม่ใช่ ความจริงเป็นเช่นใด ยิ่งค้นไกลไปในอดีตยิ่งไม่เห็นทางจะยุติความสงสัย  โดยเฉพาะเรื่องคนไทยกับพระพุทธศาสนา มีข้อโต้แย้งกันด้วยหลักฐานและสมมติฐานกันอย่างดุเดือด  จับได้ว่ามาจาก ๓ แนวทาง คือ 

๑) พระพุทธศาสนาเกิดที่อินเดีย แล้วเผยแผ่ขยายมายังไทย ตามที่นักโบราณคดีชาวอังกฤษ Alexander Cunningham (1876 หรือ พ.ศ.๒๔๑๙) กล่าวไว้ให้โลกส่วนใหญ่เชื่อแบบนั้น 

๒) พระพุทธศาสนาเกิดที่เมืองไทย พระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ชมพูทวีปคือพื้นที่แถบไทย ลาว มอญ พม่า จีนตอนใต้ เกิดโดยชาติพันธ์ไท-กะได ตอนหลังค่อยเผยแพร่ไปยังอินเดีย ตามทฤษฎีของ ศาสตราจารย์ ดร.ชัยยงค์ พรมวงศ์ และทีม (อ่านสรุปสั้นที่สุดได้ที่นี่

๓) พระพุทธศาสนาเกิดที่อินเดีย แต่ตอนนั้นคนไทยนั่นเองที่อยู่อินเดีย อยู่ในแคว้นมคธของอินเดีย ต่อมาเมื่อถูกชาวอารยันมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จึงอพยพหนีตายมาที่สุวรรณภูมิ  โดยมาเริ่มกันอย่างจริงจังที่นครปฐม  แนวความคิดนี้ผมเชื่อมากที่สุด เพราะผู้ที่กล่าวเรื่องนี้ครั้งแรกคือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (ตามคำบอกเล่าของหลวงตาทองคำ จารุวัณโณ พระอุปัฏฐากหลวงปู่มั่น) ... ตั้งใจว่าจะสรุปบันทึกการเรียนรู้ในประเด็นนี้แยกไว้ในบันทึกต่างหาก

กรวยแห่งเวลาอวกาศ

อย่างไรก็ดี แม้ไม่มีข้อสรุปใดๆ แต่ใจผมได้เรียนรู้ว่า เหตุการณ์ในอดีตแทนที่จะชัดเจนกลับไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่มีวันจะชัดเจนได้ ผมตกผลึกว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นในขณะปัจจุบันหรือที่เรียก "ปัจจุบันขณะ" เท่านั้น  จึงนึกไปถึงหนังสือชื่อ Brief History of Time ของ Stephen Hawking นักฟิสิกส์เจ้าของทฤษฎีหลุมดำ นึกถึงกรวยเวลาที่นำเสนอในหนังสือเล่มนั้น และ Minskowski  นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันเสนอไว้ ดังภาพ (เรียกว่า Minskowski space time cone

ผมนำมาแปลเป็นภาษาไทย ดังภาพ 

กรวยแห่งเวลาอวกาศ นี้ บอกว่า 

  • ปัจจุบันขณะ มีเส้นทางเดียว มีขณะเดียว ในเสี้ยววินาทีคนเราจะอยู่ในอวกาศเวลาได้เดียงตำแหน่งเดียว เช่น ตอนนี้คุณกำลังอ่านบันทึกนี้ ก็มีคุณคนเดียวที่นี่ในจักรวาล 
  • อนาคตมีหลายเส้นทางนับไม่ถ้วน ยิ่งอนาคตไกล ยิ่งมีเส้นทางที่จะเป็นไปได้จำนวนมาก  ยกตัวอย่าง หลังจากที่คุณอ่านบันทึกนี้ คุณอาจจะตัดสินใจไปทำอะไรก็หลากหลายทาง เช่น ไปอาบน้ำ ไปนอน ไปดื่มกาแฟ ฯลฯ   ทางเลือกที่หลากหลายนี้เองที่ผมบอกว่า "อนาคตไม่ชัดเจน"
  • ที่น่าแปลกมากคือ "อดีต" ซึ่งควรจะมีเส้นทางทางเดียว เพราะอดีตเป็นเหตุของปัจจุบัน แต่เมื่อพิจารณาว่า อนาคตมีหลากหลาย อดีตเป็นเหตุของอนาคตเช่นกัน ทำให้รู้สึกสมเหตุสมผลเช่นกันกับกรวยนี้ 

กรวยแห่งความคิด

ผมลองพิจารณาเทียบเคียงกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ภายใต้ศักยภาพของมนุษย์ที่จะสามารถเข้าใจได้ภายใต้ข้อจำกัดของเวลา คือ เราไม่สามารถย้อนเวลาได้และไม่สามารถท่องไปในอนาคตได้ (ณ ตอนนี้)  สิ่งที่เราทำได้ก็คือการ "คิด"  และ "รู้" (สติ)  เราสามารถคิดไปในอดีต คิดไปในอนาคตได้อย่างอิสระตามจิตนาการและกรอบคิดของแต่ละคน และทุกคนสามารถรู้สึกตัวได้ ทุกขณะที่รู้สึกตัว คือการกลับไปอยู่กับ "ปัจจุบันขณะ"  ผมได้ภาพดังรูปด้านล่าง 

ขออธิบายกรวยแห่งความคิดนี้ว่า 

  • แกนเวลา -> เป็นแกนแห่ง "กรรม"  การลงมือกระทำสิ่งใดๆ (ด้วยเจตนา) ในขณะปัจจุบันเป็นการกระทำกรรม ซึ่งจะส่งผลตามมาในอนาคต กรรมใดที่ยังไม่ให้ผล ก็จะสั่งสมไว้ในอดีต 
  • วิธีที่จะหลุดออกนอกพื้นที่แห่งการกระทำกรรมนี้ มี ๒ ทางเท่านั้น ๑) คือ "คิด" เราจะหลุดเข้าไปในกรวยความคิดไปในอนาคต หรือไม่ก็กรวยความคิดไปในอดีต และ ๒) คืออยู่นอกพื้นที่แห่งการกระทำกรรมและอยู่นอกกรวยแห่งความคิด  ผมตีความว่า พื้นที่นี้คือ"นิพพาน" หรือ "จิตหนึ่ง" หรือ "จิตจักรวาล" หรือ "ธรรมธาตุ" หรือ "วิญญาณธาตุ" แล้วแต่ผู้บรรลุท่านจะเลือกใช้สำนวน 
  • กาลอวกาศ -> คือทุกสรรพสิ่ง อันประกอบด้วย กายภาพ (อุตุนิยาม) ชีวภาพ (ชีวนิยาม) จิต (จิตนิยาม) และ ธรรมชาติ (ธรรมนิยาม)

เข้าใจว่าไม่ได้ฟุ้งซ่านเกินไป หากเป็นหรือไม่ประโยชน์กับท่านใดที่เข้ามาอ่าน ก็ให้รู้ร่วมว่า สิ่งสำคัญของเราก็คือการปฏิบัติอยู่ในขณะปัจจุบัน ของแต่ละท่านนั่นเทียวครับ

หมายเลขบันทึก: 650661เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2018 10:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 สิงหาคม 2018 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท