KM บนโต๊ะอาหาร ได้ Best Practice ไม่มีถูกไม่มีผิด


"คลุกข้าวรวมกับ แต่ละคำได้ข้าว ได้ผัก ได้หมู ได้รสชาดทุกคำ สุดท้ายหมดไปพร้อม ๆ กัน" ต่างกับ "แยกข้าวแยกกับ อร่อยไม่เหมือนกัน คำนวณไม่พอดี อาจจะข้าวเหลือ กับเหลือ เลือกกิน "

 ช่วงนี้ขอ KM lism สักกะหน่อยจากการ sleep เอ๊ย ! Deep listening มาตลอด 3 วันกะอีก 2 คืน

โดยเฉพาะในร้านอาหารแห่งหนึ่ง  ขณะที่ผู้เขียนกำลังทานข้่าวกับคนอื่น ๆ อีก 3  คน (ไม่บอกว่าเป็นใครกัน)

ทั้ง 4 คน สั่งอาหารเหมือนกันหมด นั่นคือ ข้าวกับกะเพราะหมู (ในจานมีข้าว 1 กอง กับกะเพราะหมูอีกกอง--ลองจินตนาการดูน๊ะ) เมื่ออาหารมาได้เวลา หลังจากบันทึกภาพเสร็จ ทุกคนเริ่มบรรเลง..

ก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนิ !! แต่เมื่อมีคนจุดประเด็นขึ้น

"ทำไมผู้เขียนทานข้าวเหมือนเด็ก คลุกทุกอย่างรวมกันหมด" (บอกตามตรง เพิ่งรู้ว่าทานแบบนี้เหมือนเด็ก นั่นแสดงว่าเรายังเด็ก ที่เหลือ.....??)

 ผิดกับท่านอื่น ๆ ค่อย ๆ เขี่ยกับข้าวมาทานกับข้าวทีละคำ ๆ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตัวเองกินไม่เหมือนชาวบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้แต่ละคำมีความหลากหลายในรสชาด

ผู้เขียนมั่วได้ทันควันไม่รู้คิดได้ไง (ตอบ)ไปน้ำขุ่น  ๆ ค่ะว่า ผู้เขียนเลือกที่จะคลุกข้าวกับกับข้าวด้วยกัน แล้วปรุงรส แบบนี้คำแรกถึงคำสุดท้ายจะได้ความอร่อย(เหาะ)เท่ากันไง

หลังจากนั้นทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทาน...จนเสร็จ

คลุกข้าวรวมกับ แต่ละคำได้ข้าว ได้ผัก ได้หมู ได้รสชาดทุกคำ สุดท้ายหมดไปพร้อม ๆ กัน

ต่างกับ

แยกข้าวแยกกับ บางคำข้าวเยอะ กับเยอะ อร่อยไม่เหมือนกัน คำนวณไม่พอดี อาจจะข้าวเหลือ กับเหลือ

 ผลลัพธ์ (result หรือ Outcome) ปรากฏว่าผู้เขียนทานหมดเกลี้ยงจาน ไม่เหลือสักกะนิดเลย ใน 4 จานคราวนี้ล่ะเป็นตาของผู้เขียนได้โอกาสถล่มคนอื่น ๆ..

"เห็นมั๊ย ? การทานของผู้เขียนเป็น Best practice เพราะคนอื่น ๆ มีข้าวเหลือบ้าง กับเหลือบ้างอย่างละนิดอย่างละหน่อย"

นี่ไง KM บนโต๊ะอาหาร ได้ "Best practice" ไม่มีผิดไม่มีถูก หรือใครว่าอย่างไร ??

บอกตามตรงความประทับใจอย่างแรง(สูง) เห็นยังไม่มีใครเล่า แต่ผู้เขียนอยากเล่า เพราะเล่าให้นายดำ ฟังไปแล้ว คำตอบของนายดำ บอกว่า "มันขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยต่างหาก ผู้เขียนอาจจะหิวมากก็ได้เลยกินซะเกลี้ยงจาน" --เป็นงั้นไป !!

หมายเลขบันทึก: 65066เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2006 08:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 02:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

คุณศิริคะ

 

  • ข้าวผัดกะเพรา  เรียกอีกอย่างว่าอะไรรู้ไหมคะ
  • ไม่รอให้ตอบ เฉลยเลยดีกว่า
  • เค้าเรียก  "ข้าวผัดสิ้นคิด" ค่ะ
  • แล้วรู้หรือเปล่าว่าทำไมถึงเป็นข้าวผัดสิ้นคิดคะ
  • ไม่รอให้ตอบ เฉลยเลยดีกว่า
  • เพราะเวลาเราไปทานข้าวที่ร้านไม่รู้จะสั่งอะไร  ข้าวผัดกะเพรา ก็มักแว๊บขึ้นเป็นอับดับหนึ่งในความคิดค่ะ
  • อิอิอิ
  • แต่ขาดท๊อปปิ้งไปนะคะ 
  • ไม่รอให้ตอบ เฉลยเลยดีกว่า
  • ก็ไข่ดาวไงคะ
  • เป็น KM ได้หรือเปล่าคะ
  • ลืมบอกเคล็ดลับอีก 1 อย่าง ถ้าอยากให้อร่อยโดยการคลุกกันทั้งหมด 
  • เราไม่ต้องรอให้สวยงามค่ะ (หมายถึงแยกข้าวกับผัดกะเพราต่างหาก  แต่บอกให้ผัดรวมกันมาเลย จะยิ่งอร่อย ๆ ๆ ๆ ๆ มั่ก ๆ ๆ ๆ  ค่ะ
อ่านบันทึกแล้ว ทราบทันทีค่ะ ว่า "สี่คนที่ไปกินข้าวด้วยกันไม่ใช่คนมุสลิม" อย่างนี้ถือเป็น KM จานด่วนได้ไหมคะ
  • อย่าบอกว่าอาจารย์ปารมีลืมไปแล้วน๊ะ เอ๊ะ ! แต่เขียนแบบนี้แสดงว่าอาจารย์เป็น 1 ใน 4 รึเปล่าน๊ะ

 

ขอบคุณคุณอ๊อบ (Miss somporn) ถูกมั๊ย ? ค๊ะ

  • ขอบคุณมากค่ะ ดีน๊ะ ที่เฉลยให้เลย ไม่งั้นคิดจนหัวแตกแหง ๆ
  • คราวหน้าคราวหลังไม่สั่งแล้วข้าวผัดสิ้นคิด เฮ้อ!!! 
  • ว่าแต่ถ้าที่ร้านเขาผัดรวมกันเราก็คงไม่มีประเด็นให้พูดแหงเลย !! นี่ต่างหากล่ะ Best Practice
  • ทุกอย่างล้วนเป็น KM ค่ะ อาศัยการจัดการความรู้ (สึก) ทั้งนั้น

 

คุณจันทรัตน์ค๊ะ ขอบอก ...บอก...ว่า

"ถูกต้องแล้วคร๊าบ !!" เป็น KM จานด่วนจริง ๆ และจวน ๆ จะเป็น KM เอ๊ย ! อาหารสิ้นคิดซะแล้ว

เพราะ blog นี้ทีเดียว

วันนี้ทำให้คิดถึงข้าวผัดสิ้นคิด

สนไหมค่ะ  ข้าวผัดสิ้นคิดไก่ บวกกะ  ไข่เจียว

หร้อยมั่ก ๆ

(วันนี้คลุกข้าวกับผัดกะเพราและไข่เจียว  ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่.....ลองดูนะคะ)

วันนี้ผู้เขียนต้องทำอาหารเองซะด้วยสิ !!  เดี๋ยวนี้ผู้เขียนจะไม่เรียกข้าวกะเพราแล้วค่ะ เรียกเป็นข้าวผัดสิ้นคิด ตามคุณอึ่งอ๊อบ เล่นเอาบางคนงง!!! ผู้เขียนต้องบอกถึงที่มาและที่ไป  ขอบคุณเมนูที่แนะนำค่ะ 

 

เป็นอาหารจานโปรดของคุณเมตตา เช่นกันค่ะ...ได้รสชาดดี เผ็ด มัน เค็ม นุ่ม...ไข่ดาว....ชอบกินค่ะ...มันเป็นความลงตัวของรสชาดทีเดียว....ขอหยิกคุณอึ่งอ๊อบสัก ที....ทั้งสีสรร รสชาดเขาออกจะน่ารัก...ไปเรียกซะ....ไม่น่ากินไปเลย...คุณศิริ...สมองไว้...ไว...จังค่ะ คำแรกถึงคำสุดท้ายจะได้ความอร่อยเท่ากันไง
คุณเมตตาค๊ะ ผู้เขียนก็ปลื้มใจมากที่มั่วได้ เอ๊ย ! แก้ตัวได้น้ำขุ่นดี

สาธุ ในสิ่งดีที่ทำไปแล้ว คือการกินให้หมดจานตามที่จัดหามาได้(ผลบวก)

เป็นการฝึกรู้คุณค่าอาหารที่มีมาให้กิน(เหตุ)

หากเหลือ คือขยะ (ผลลบ) จะเป็นปัญหาให้คนอื่นต่อไป จนถึงแม่น้ำลำคลองเน่าเสีย (ผลกระทบ)

ฝึกคิด-พูด-ทำ  ตั้งแต่ต้นน้ำ(เป็นเหตุ) ไหลไป(เป็นผล)ไปเซาะตลิ่ง(เป็นผลกระทบด้านลบ) ไปพอกเป็นตะกอนปากอ่าวเป็นแหล่งปุ๋ยชั้นดี(เป็นผลกระทบด้านบวก) แต่ทำให้น้ำตื้นเขิน(กระทบด้านลบ)

ธรรมชาติสอนเราทุกวัน ทุกวินาที

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท