เด็กที่ รร. 90% ต้องอุดฟัน ถอนฟัน ครอบครัวมีส่วนในการดูแลมากน้อยเท่าไรครับ


ขอบคุณสำหรับข้อสังเกตและคำถามค่ะอาจารย์ เท่าไหร่เป็นคำถามเชิงปริมาณ คงไม่มีข้อมูลพอจะตอบเป็นตัวเลขได้ ค่อย ๆ อ่านช้า ๆ หลาย ๆ รอบนะคะ  วกวนบ้าง  เป็นความคิดเห็นส่วนตัวโดยแท้ค่ะ  อาจจะถูกหรือผิดก็ได้  ใช้สิ่งที่ห็นที่อำเภอตัวเองตอบนะคะ  อาจจะต่างจากอำเภอของอาจารย์บ้าง

คงตอบหมือนกับคำถามว่า เด็กรู้หนังสือ เด็ก ป. 6 (ที่ไม่ใช่เด็กพิเศษ, LD หรือมีข้อจำกัดอื่น ๆ) อัตราการอ่านออกเขียนได้ ….% ครอบครัวมีส่วนร่วมในการดูแล …. อย่างไร น่าจะสำคัญมากเช่นกันนะคะ

การดูแลเท่าไหร่ ในแง่ระยะเวลาที่ครอบครัวใช้ดูแลเด็กก็สำคัญ ครอบครัวที่ใช้เวลาดูแลเด็กมากกว่า  พ่อแม่ก็คิดว่าใช้เวลาอย่างมีคุณภาพแล้ว   ลูกน่าจะเอาใจใส่ดูแลสุขภาพช่องปากตัวเองมากกว่า ใช่ไหมคะ  แต่จริงหรือ!  ที่การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งจะเหมือนง่าย  ตรงไปตรงมาอย่างนั้น

เด็กที่เข้าโรงเรียนอาจารย์  เศรษฐานะ  ระดับการศึกษาของพ่อแม่ ชุดความรู้ มุมมอง ความเชื่อ ทัศนคติที่เป็นพื้นฐานในการเลี้ยงดูเด็กเป็นอย่างไร จะส่งผลต่อวิธีการที่ใช้เลี้ยงดูเด็ก ส่งผลต่อพฤติกรรมดูแลสุขภาพช่องปาก สุขภาพทั่วไปของลูกหลาน ส่งผลเป็นเด็กฟันดี หรือฟันผุของนักเรียนอาจารย์ด้วยนะคะ

เด็ก ๆ ที่ไหนก็ชอบกินขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลมนะคะ ไม่แปลก เพราะสารความหวาน  เช่น น้ำตาลทราย  น้ำตาลฟรุคโตส  ให้พลังงาน  กินแล้วสดชื่น มีความสุขทันที  แต่ครอบครัว คนเลี้ยงดู คนที่ทำหน้าที่กล่อมเกลา คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก ที่บ่มเพาะสร้างนิสัยเด็กมาตั้งแต่เล็ก มีความรู้ในจุดนี้พอไหม มีความสามารถในการสร้างการเรียนรู้ให้เด็กเพียงพอที่จะตัดสินใจเลือกอาหาร หรือจัดอาหารให้เด็กอย่างเหมาะสมไหม เคยเห็นไหมคะ พอเด็กเริ่่มร้องไห้จะเอาอะไร (ลูกอม ขนมถุง) ร้องไห้ปฏิเสธไม่อยากให้ผู้ใหญ่แปรงฟันให้ พ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่อยากเห็นเด็กร้องไห้ ก็ยอมเด็กทุกอย่าง จนกลายเป็นลูกหลานเทวดา … ยังไม่รวมพ่อแม่ที่ไม่รู้ว่า เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องแปรงฟันซ้ำให้เด็กที่ยังแปรงฟันไม่สะอาดนะคะ เหมือนยังต้องตัดเล็บ ขัดเล็บดำ ๆ ของเด็กให้ขาวสะอาด อย่างไรอย่างนั้นค่ะ … ซับซ้อนกว่านั้น ยายก็แก่ ตาก็เฒ่า เจ็บออดแอด พ่อแม่อยู่กรุงเทพฯ ใคร?ทำหน้าที่

ความรู้ว่าปริมาณน้ำตาลในนมหวาน นมเปรี้ยว น้ำอัดลม ลูกอม ท็อฟฟี่ คาราเมล แป้งกรุบกรอบก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ขณะอยู่ในปาก ปริมาณน้ำตาลเหล่านี้ที่ค้างในช่องปาก ยิ่งเยอะยิ่งค้างบ่อยยิ่งไม่ดีต่อฟัน  ถ้าทำความสะอาดช่องปาก แปรงฟันได้ไม่สะอาดพอ ระยะเวลาหนึ่งผ่านไป เชื้อโรคในช่องปากจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นกรดค้างบนตัวฟัน รอบ ๆ ฟัน ผิวฟันจะถูกกรดทำลาย จากอณูเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จนเป็นจุดขาวขุ่น จุดดำ รูดำใหญ่ขึ้น ๆ กลายเป็นรูผุ

ถึงขนาดปวดฟัน พ่อ แม่ ครอบครัวมีส่วนร่วมแน่นอน แต่อาจจะมีส่วนร่วมเมื่อสายเกินไปแล้วก็ได้  (จะไม่สาย  เมื่อหันมาเอาใจใส่จริงจังนะคะ)

การมีส่วนร่วมของครอบครัวตัดวงจรโรคฟันผุ อย่างน้อยที่เป็นไปได้ คือ

1) กินน้ำตาล กินแป้งเมื่อไหร่ อย่าปล่อยให้น้ำตาลค้างในปาก ควรแปรงฟันทันที ใช้ยาสีฟันมีฟลูออไรด์เป็นสารเสริมความแข็งแรงให้ผิวเคลือบฟัน พ่อแม่ครอบครัวจะมีวิธีการค่อย ๆ สอนลูกหลานได้ไหม  ทำให้กิจวัตรทำความสะอาดร่างกายเป็นเรื่องสนุก  เป็นปกติธรรมดา  ปลูกฝังผ่านเรื่องเล่า  นิทานแสนสนุก  ที่สำคัญ ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ครอบครัวทำได้ไหม

2) ปากสะอาดแล้ว ต้องยืดเวลาที่ปากสะอาดไปนาน ๆ อมเชื้อโรคน้อย ๆ ดีกว่าปากสาก ๆ ขี้ฟันเยอะเขรอะเต็มไปหมด เด็กที่กินจุบจิบ กินบ่อยไม่รู้ตัว ดูโทรทัศน์ก็กิน กดเล่นเกมโทรศัพท์ก็กิน เล่นเกมไม่กินข้าวปลาอาหาร  ไม่ค่อยกินผัก  ผลไม้หวานน้อยที่มีประโยชน์  เล่นไปกินแต่ขนมถุงไป  มาม่าแห้งฉีกซองเครื่องปรุงโรย  ถ้วยมาม่าคัพใส่น้ำร้อน  กลิ่นหอมต้มยำ  รสชาติจี๊ดจ๊าด วางข้างแป้นพิมพ์เครื่องคอมพ์ในร้านเกม  พร้อมกิน  … พ่อ แม่ ครอบครัวรู้ไหมว่าตัวเองบ่มเพาะสิ่งไม่ดีอะไรให้ลูกหลานบ้าง  พ่อแม่รังแกฉันไม่รู้ตัว … หรือเปล่า?  (ก็บอกจนปากเปียกปากแฉะแล้ว  จะให้ทำไง?)

โดยสรุปนะคะ ครอบครัว คือ สถาบันพื้นฐาน สถาบันแรกที่มีหน้าที่ขัดเกลาทางสังคม ที่ให้การเลี้ยงดูเด็กพอเหมาะพอควรที่จะเป็นพื้นฐานต่อช่วงวัยต่อไป ต่อไปก็แล้วแต่ว่าเด็กไปที่ไหนนะคะ สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก แล้วค่อยโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนเอกชน โรงเรียนรัฐบาล แล้วแต่ค่ะ ที่จะทำหน้าที่สถาบันที่สองในการขัดเกลาทางสังคมต่อเด็ก  แน่นอน ... ยังมีอีกหลายสถาบันนะคะ

หรือเด็กที่ครอบครัวปล่อยให้เติบโตมาพร้อมจอโทรศัพท์ จอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ หน้าจอเหล่านี้ได้ทำหน้าที่แทนสถาบันครอบครัวไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ... จนใจจะตอบนะคะอาจารย์

ขอบพระคุณมาก ๆ อีกครั้งที่อาจารย์เอาใจใส่สุขภาพเด็ก  สุขภาพช่องปากนักเรียนเหมือนลูกหลานนะคะ ^_,^

หมายเลขบันทึก: 648875เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2018 20:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กรกฎาคม 2018 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สะเทือนวงการหมอฟันเลยไหมครับ ;)..

หมายถึงตัวเลข 90% ในคำถามใช่ไหมคะคุณครูเงา หรือบทบาทของครอบครัว ซึ่งคำตอบก็แหว่ง ๆ วิ่น ๆ

อยากบอกว่า เคยเห็น แค่ยายแก่กับเด็กอนุบาล ประถม มัธยม รวมเป็น 5 ชีวิต ในบ้าน 1 หลัง … ความเป็นครอบครัว มีความหมายว่าอย่างไร

ก็น่าจะสะเทือนนะคะ เป็นตัวเลขที่สูงมาก ที่อย่างน้อย 1 ซี่ ไม่ว่าฟันน้ำนมหรือฟันแท้ในช่องปากเด็กหนึ่งคน มีปัญหาฟันผุ วิเคราะห์ระดับชุมชน ถือว่าเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากได้ค่ะ ในวงการหมอฟัน จึงต้องแสวงหาภาคีทำงานร่วมกันเพื่อเด็ก ๆ ค่ะ ลำพังหมอฟันวิชาชีพเดียวคงแก้ไขปัญหาเด็กฟันผุไม่สำเร็จ

ขึ้นกับตัวเจ้าของสุขภาพ ครอบครัว โรงเรียน สถาบันสุขภาพ สถาบันปกครองท้องถิ่น ผู้ใหญ่ในท้องที่ละค่ะ เห็นว่าตัวเลข 90% เป็นเรื่องชินตา ไม่เห็นความเชื่อมโยงว่าไปกระทบกับอะไรได้บ้าง ปวดฟัน งดเรียน เรียนช้า กินไม่ได้ นอนหลับไม่สนิท โภชนาการ พัฒนาการ สมอง และอื่น ๆ

หรือ 90% เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ น่าค้นหาสาเหตุ น่าแสวงหาวิธีต่าง ๆ และลงมือแก้ไขที่ต้นตอรากเหง้า … จนนำไปสู่การป้องกันปัญหาอนาคตเมื่อเป็นผู้ใหญ่ หรือป้องกันปัญหาของเด็กรุ่นเล็กกว่านี้

คำตอบอยู่ที่ครอบครัว อยู่ที่ผู้คน ผู้ใหญ่ในชุมชนนั้น ๆ ด้วยนะคะ … คุณครูเงาว่าไหม?

ว่าตามกัน ขอบคุณมากค่ะ ^_,^

ในโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร ประเด็นเรื่องนี้เป็นโจทย์ใหญ่พอๆ กับประเด็นเด็กอ้วนเลยครับ

เชื่อมโยงจากครัวเรื่อน-มาบนรถรับส่ง-มายังโรงเรียน มายังร้านรวงรอบโรงเรียน ฯลฯ

เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องทำความสะอาดร่างกาย ฟัน ช่องปาก บ้านช่อง เสื้อผ้า เรื่องเล็กมั้งคะ อ.แผ่นดิน

เรื่องปลูกฝังวินัยให้เด็ก ๆ เริ่มจากคิดเอง ทำทุกสิ่งที่ควรทำด้วยตัวเองเป็น … เล็กกว่า

สงสัยพ่อแม่คนเลี้ยงยุคนี้ … ลืมทัศนคติ ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง

อะไร ๆ ก็พึ่งพาภายนอก คนอื่น … ไม่มีทางหักห้ามใจ ใฝ่ดี ด้วยตนเอง

วินัย สร้างด้วยใจที่แข็งแรง … ด้วยมือคนในครอบครัวที่อ่อนโยนนะคะ อาจารย์ว่าไหมคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท