๕๕. ฉลองวันเกิดของแม่..ที่โรงพยาบาล


“แม่ครับ..เราจะอยู่เป็นแม่เป็นลูกกันอีกสักกี่ปี..ไม่มีใครรู้..แต่ที่อยากให้แม่รู้คือ พวกผมรักแม่..อยากให้แม่อยู่อย่างมีความสุข แม่อยากไปไหนก็บอก อยากกินอะไรก็บอก..ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร คนอื่นก็คือคนอื่น..ไม่มีใครรักแม่ เท่าลูกของแม่หรอก”

               วันเกิดของแม่..ผมจะไปหาแม่ที่บ้าน ปีไหนตรงกับวันธรรมดา..ผมก็จะไปหาแม่ในวันเสาร์ วันนี้..ก็เป็นวันเสาร์ แต่ผมต้องไปหาแม่ที่โรงพยาบาลราชธานี จ.อยุธยา

            แม่ผมอายุ ๘๐ แล้ว..แม่เกิดวันที่ ๑๒ พฤษภาคม..ผมจำได้ดี เพราะเป็นวันที่ผมจะต้องไปหาแม่ก่อนเปิดเรียน ๓ – ๔ วัน..เพื่อขอศีลขอพร เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย..

            แม่ผม..สุขภาพแข็งแรง เพราะตรวจร่างกายเป็นประจำ..แต่วันนี้แม่ต้องนอนโรงพยาบาลอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด แม่ถูกรถเฉี่ยวหน้าปากซอย คุณหมอตรวจอย่างละเอียด เอ๊กซเรย์สมองแล้วไม่เป็นอะไร..

            ข้อมือแม่ร้าว หมอเข้าเฝือกให้ แม่เจ็บที่หัวไหล่ หมอต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ยอมให้ออกจากโรงพยาบาลง่ายๆ แม่ต้องพักรักษาตัวไปอีก ๓ – ๔ วัน

            วันนี้..แม่จึงมีอาการซึมเศร้า พูดน้อย อยากกลับบ้าน ลูกๆพยายามเอาใจแม่ทุกอย่าง ผมซื้อเค้กและผลไม้ไปให้ ชวนแม่คุยเพื่อให้แม่ลืมอาการเจ็บที่แขนและข้อมือ

            น้องสาวผม..มากระซิบให้ผมฟัง กลัวแม่จะได้ยิน..แม่เริ่มหลงแล้วนะพี่..ผมยิ้มๆ และบอกน้องไปว่า..ก็คงมีบ้าง แต่ตอนนี้..แม่น่าจะขวัญเสียมากกว่า..

            แม่เป็นคนประหยัดมาก..และก็คงคิดวิตกกังวล ต่างๆนานา ว่าลูกๆจะต้องมาเสียค่าใช้จ่ายให้โรงพยาบาลเอกชน..จ่ายค่าห้องพิเศษ ผมอธิบายแล้วว่าแม่ไม่ต้องห่วง มันไม่ได้มากมายอย่างที่แม่คิดหรอก..สบายใจเถอะ..

            ทุกปีที่ผ่านมา..จะพาแม่ไปเที่ยว บางทีก็ไปหาอะไรทานนอกบ้าน แม่จะพูดคุยอย่างแจ่มใสเบิกบาน เล่าเรื่องราวแห่งความหลัง ซ้ำไปซ้ำมา ผมฟังมาทุกปี ไม่มีเบื่อ...

            แต่วันเกิดปีนี้..แม่ไม่พูดอะไรเลย..แม่ไม่มีแรงแม้แต่จะเป่าเค้ก..แม่รับพวงมาลัยที่ผมกราบไหว้ แม่ไม่มีคำพรใดๆ ให้ผมเลย..ผมเข้าใจความรู้สึกของแม่ตอนนี้..และเชื่อว่าแม่จะผ่านวันนี้ไปได้..ไม่ยากเย็น

            คำพรของแม่ทุกปี..แม่จะบอกให้ตั้งใจทำงาน ให้ชีวิตราชการมีความก้าวหน้า ขับรถให้ระมัดระวัง..แล้วผมก็จะมอบเงินให้แม่ไว้ใช้ ๒,๐๐๐ – ๓,๐๐๐ บาท ซึ่งผมก็ได้ให้แม่เป็นประจำทุกเดือน..อยู่แล้ว

            แม่มีรายได้จากการเก็บค่าเช่าบ้าน และน้องสาวผม ซึ่งเป็นข้าราชการครู ก็ให้เงินแม่ใช้ทุกเดือน..น้องบอกให้เท่าไหร่ แม่ก็เก็บหมด ไม่ค่อยเอาออกมาใช้

            น้องสาวผมซื้อบ้านใหม่..เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่ได้มาตรฐาน สะดวกสบายขึ้น แต่แม่บอกไม่น่าอยู่ ไม่รู้จะคุยกับใคร แม่อยากออกไปนอกบ้าน เมื่อสองวันก่อน แม่เดินไปถึงปากซอย จนเป็นที่มาของอุบัติเหตุ..รถเฉี่ยวชน..

            วันเกิดของแม่..ผมจึงต้องมากราบแม่ที่โรงพยาบาล แม่ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ผมพูดเอง..พูดให้น้องๆ หลานๆได้ยินทั่วกัน...

            “แม่ครับ..เราจะอยู่เป็นแม่เป็นลูกกันอีกสักกี่ปี..ไม่มีใครรู้..แต่ที่อยากให้แม่รู้คือ พวกผมรักแม่..อยากให้แม่อยู่อย่างมีความสุข แม่อยากไปไหนก็บอก อยากกินอะไรก็บอก..ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร คนอื่นก็คือคนอื่น..ไม่มีใครรักแม่ เท่าลูกของแม่หรอก”

            ผมส่งกระเป๋าผ้าใส่ตังค์ใบเล็กๆให้แม่ถือไว้ ข้างในมีดอกมะลิและเงินหนึ่งหมื่นบาท..”เดือนนี้..ผมให้แม่มากหน่อยครับ..แม่อยากได้อะไรก็บอกน้อง ขอให้แม่หายไวๆนะครับ...”

            “เอาเก็บไว้เถอะ..แม่มี..ลูกๆเปิดเทอมต้องใช้เงินเยอะ” ผมอดยิ้มไม่ได้ เพราะได้ยินแม่พูดอย่างนี้ทุกปี ก็เลยบอกแม่ไปว่า..

            “ตั้งใจเอามาให้เป็นของขวัญวันเกิดแม่เลยนะเนี่ย..แม่อยู่กับพวกเรานานๆนะ เดี๋ยวปีหน้าจะเพิ่มให้อีก..แล้วถ้าผมไม่มี..จะมายืม...”

            แม่ทำหน้างงๆ คงรับมุกผมไม่ทัน..แต่แม่ก็คงคิดได้ ว่าผมพูดเล่น เพราะผมไม่เคยใช้เงินของแม่มาตั้งแต่ปี ๒๕๒๙ แล้ว..หรือหลังจากที่ผมได้รับราชการครู..นั่นเอง

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๒  พฤษภาคม  ๒๕๖๑

 

หมายเลขบันทึก: 647151เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2018 21:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2018 21:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เป็นภาพที่น่าชื่นชมมากค่ะครู  ขอให้คุณแม่หายไว ๆ นะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท