จากการที่ที่อาบังถูกคนวิ่งชนหกล้มหัวแม่เท้าซ้ายฉีกเลือดออกเป็นทาง ๆ เมื่อสิบกว่าปี ที่อาบังผู้นั้นถอดสร้อยนิลนี้จากแขนตัวเองมาใส่ข้อมือผมไว้เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ผมช่วยทำแผล ให้เงินค่ารถกลับบ้านในครั้งนั้นให้เขาฟัง ชายผู้นั้น จับข้อมือผมขึ้นดูอย่างพินิจพิเคราะห์ หลายครั้งและขอถอดสร้อยออกมาสั่นกระดิ่งฟังเสียงหลายครั้งแต่ละครั้งก็เงี่ยหูฟังอย่างใกล้ชิด หนำซ้ำยังเรียกเมียออกมาช่วยฟังอีกคนฟังแล้วต่างก็มองหน้ากัน สุดท้ายผู้สามีก็ พยักหน้ากับผู้ภรรยา ผู้ภรรยาก็ออกไป หายไปครู่ใหญ่ ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมสมุดปกแข็งเก่า ๆ เล่มหนึ่ง มายื่นให้ผู้สามี ๆ เปิดสมุดออกอ่าน.ดัง ๆ ให้ทุกตนได้ยืนด้าย . . …….ข้อความในสมุดที่ชายผู้สามีอ่านมีใจความว่า “ ข้าพเจ้า นาย บังกาปู ชาว เมืองปูระ ประเทศ อินเดีย ( มีรูปครึ่งตัว ) เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย....ทำบันทึกนี้ขึ้นมาเพื่อแจ้งว่า ครั้งหนึ่งข้าฯได้ไปขายถั่วที่เมืองบางกอกฯ ได้ประสพเหตุถูกคนวิ่งชนหกล้มหัวแม่เท้าซ้ายแกว่งไปถูกสังกะสีรั้วในตรอกแคบ ๆ บาดเป็นแผลเลือดออกมาก ได้ชายไทยคนหนึ่งที่เดินกลับบ้านที่นั่นพอดี เขาคนนั้นพาข้าฯเข้าไปในบ้าน แล้วเขากับภรรยาช่วยกันทำแผลให้ข้าฯ , เลี้ยงข้าวเย็นข้าฯและพาข้าฯไปฉีดยากันบาดทะยักที่โรงพยาบาลศิริราชที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแม้แต่น้อย อีกทั้งยังออกค่ายา.ให้เงินเงินค่ารถกลับบ้านอีกด้วยโดยบอกข้าฯว่าให้.......
ไม่มีความเห็น