.......(.ค่อจากตอนที่ 2 ).........“ อาบัง ไม่ตอบ ได้แต่ฝืนยิ้ม ปากเบ้ ชายหนุ่มจับแขนอาบังดึงขึ้น " เข้าไปในบ้านก่อน จะใส่ยาให้ "อาบัง ไม่ตอบ ทำหน้าเบ้ เกาะไหล่ชายหนุ่มเข้าประตูบ้านไป ขณะที่เลือดที่หัวแม่เท้าไหลหยดออกมาเป็นทาง.....แผลที่หัวแม่เท้าอาบังลึก รอยแผลเฉี่ยวเส้นเอนหัวแม่เท้าเป็นรูปตัวแอล เลือดออกมาก ชายหนุ่มใส่ยาแผลสดให้แล้วพันผ้าพันแผลให้หลายชั้น ระหว่างนั้นเขาสังเกตเห็นว่าที่ข้างตาตุ่มขาข้างเดียวกันของอาบังมีไฝดำเม็ดใหญ่รูปวงรีอยู่เม็ดหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นเวลาอาหารเย็นพอดี ชายหนุ่มจึงจัดให้อาบังกินอาหารเย็นกับเขาด้วย อาหารเย็นวันนั้นเป็นแกงจืดผักตำลึงกับแผ่นไข่ฟูใส่มาในชามแก้วแบบเจียรนัยใบใหญ่ กินเย็นเสร็จ ก่อนให้อาบังกลับ เขาตรวจบาดแผลอาบังอีกครั้ง.เพราะอาบังบอกว่าเจ็บมากขึ้น พบว่าปากแผลฉีกออกเองได้เลือดออกมากจนชุ่มผ้าพันแผล เขาจึงพาอาบังไปทำแผลใหม่ที่โรงพยาบาลศิริราชที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านเขานัก พยาบาลโรงพยาบาลเปิดผ้าพันแผลที่ชายหนุ่มทำแผลให้ชั่วคราวออกดู แล้วบอกว่าแผลกว้างลึกมากต้องให้หมอเย็บและพันแผลใหม่และนอกต่อว่า ถ้าสังกะสีเป็นสนิม ควรฉีดยากันบาดทะยักด้วย แต่ต้องคิดค่ารักษาและค่ายาชายหนุ่มบอกให้ให้ทำเลย เขาจะออกค่ายาเงินให้ทั้งหมด เมื่อเสร็จจากการทำแผล และจ่ายเงินค่าทำแผลและยาแก้บาดทะยักให้พยาบาลแล้ว ชายหนุ่มยังพาอาบังกาปูไปลงเรือข้ามฟากที่หน้าโรงพยาบาลข้ามไปท่าพระจันทร์ พาไปจะให้ขึ้นรถรับจ้าง อาบังยิ้มแหย ๆ บอกว่า ไม่มี่เงินจะขอไปรถเมล์เอง ชายหนุ่มจึงควักเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่ารถ บอกว่า เอ้าค่ารถ ถ้ามีเหลือ ให้เอาไปซื้อลอตเตอรี่ เผื่อถูกรางวัลที่ 1 จะได้มี่เงินมีทองกับเขาบ้าง ไม่ต้องมาเดินขายถั่วต๊อกๆให้เหนื่อยยากอีกต่อไป อาบังมีแววตาขอบคุณ น้ำตาคลอหน่วยในความอารีของชายหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขารับเงินแล้วถอดสร้อยข้อมือนิลมีระฆังเงินใบเล็ก 2 ใบห้อยอยู่. ที่ใส่อยู่ที่ข้อมือเขาตลอดมาไส่ข้อมือ ให้ชายหนุ่มเป็นการตอบแทน โดยบอกชายหนุ่มว่าเป็นสร้อยศักดิสิทธิจากบ้านเมืองเขา ให้รักษาไว้ให้ดี อย่าให้หาย วันหน้าวันหลังหากเขาถูกที่ 1ด้วยเงิน นี้จริง จะนำเงินรางวัลมาแบ่งให้ หรือเมื่อมีเงินมีทองตั้งตัวได้ เขาจะมาตอบแทนบุญคุณ หากเขาจะหลงลืมจำหน้าจำตัวไม่ได้ ก็จะสังเกตสร้อยนิลระฆังเงินนี้เป็นหลักฐาน เขาขอสัญญา แม้ว่า.......( โปรดรออ่านตอนที่ 4 ในตอนหน้า )
ไม่มีความเห็น