วันนี้..ผมอ่านข้อคิดของลี กา ชิง ที่นักคิดนักเขียน “ขจรศักด์”แปลและเรียบเรียงไว้ มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร...
ความน่าสนใจแรก..ก็คือ..ลีกาชิง..เป็นใคร? ทำให้ผมต้องไปค้นหาในกูเกิล ก็เลยพบว่า..ลีกาชิง..เป็นมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง รวยเป็นอันดับ ๒ ของเอเชีย...
ลีกาชิง..กว่าจะรวยมาได้ถึงวันนี้..ผ่านการใช้ชีวิตที่มุ่งมั่นอดทน และมองการณ์ไกล และใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า..
ความน่าสนใจต่อไปก็คือ..ลีกาชิง..พูดอะไรไว้ จึงได้ชื่อว่า..”เป็นหลักความจริงของชีวิต” ยังคงเป็นความจริงอยู่หรือไม่ อย่างไร..? นำไปใช้ได้มากน้อยแค่ไหน?
ลีกาชิง...บอกว่า....
"คนที่มีความสามารถ...มักไม่ใส่ใจเรื่องของอารมณ์..แต่จะจริงจังเรื่องงานเป็นหลัก..."
"คนที่ไร้ความสามารถ...มักไม่จริงจังกับงาน...แต่ถือเอาอารมณ์เป็นตัวตัดสิน..."
"จำไว้เสมอว่า...ทำงานเพื่อจะให้ชีวิตดีขึ้น..แต่ไม่ใช่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพไปวันๆ..."
"ศัตรูเมื่อกลายเป็นมิตร...น่าไว้ใจกว่ามิตร...มิตรเมื่อกลายเป็นศัตรู...น่ากลัวกว่าศัตรู..."
"ตอนรถไฟเริ่มถูกคิดค้นออกมาวิ่งใหม่ๆ...ผู้คนมากมายบอกว่าไม่มีทางสู้รถม้าได้..."
"ตอนเครื่องบินเริ่มพัฒนาออกมาบินในยุคแรกๆ...หลายๆคนดูถูกว่ามันก็แค่เป็นว่าวยักษ์ตัวหนึ่ง..."
"เรื่องเหล่านี้บอกเราว่า...หากเรามีฝันที่ยิ่งใหญ่ในใจเรา...ก็ไม่ต้องสนใจว่าคนนอกจะมองเราอย่างไร..."
"เงินทองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยคน...แต่มันสามารถทำให้เห็นสันดานที่แท้จริงของคน..."
"ว่ายน้ำไม่เป็น...จะเปลี่ยนสระว่ายน้ำไปกี่สระก็คือว่ายไม่เป็นอยู่ดี..."
"ไม่ซื่อสัตย์ในความรัก...จะเปลี่ยนแฟนกี่คนก็จะยากที่จะเจอรักแท้..."
"บริหารธุรกิจไม่เป็น...เปลี่ยนพนักงานหรือเปลี่ยนลูกค้าก็ช่วยไม่ได้..."
"ไม่รู้จักทุ่มเท...จะเปลี่ยนเจ้านายหรือเปลี่ยนบริษัท...ชีวิตก็เส็งเคร็งเหมือนเดิม..."
"ไม่รู้จักดูแลสุขภาพ...โรงพยาบาลชั้นเลิศหรืออาหารเสริมชั้นดี...ก็ยากจะทำให้มีอายุยืนยาว..."
"ตัวเราเองเป็นบ่อเกิดของปัญหาทุกอย่าง...คิดจะพัฒนาอะไรให้ดีขึ้น...ต้องพัฒนาปรับปรุงตัวเราเองเสียก่อน..."
"นกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้...ไม่เคยกลัวว่ากิ่งไม้จะหัก...เพราะมันไม่เคยไว้ใจกิ่งไม้..แต่มันมั่นใจในปีกของตัวเอง..."
"วันนี้ทำเรื่องที่คนอื่นไม่ยอมทำ...พรุ่งนี้จะได้สามารถทำ...ในสิ่งที่คนอื่นทำไม่เป็น..."
อ่านแล้วทำให้ได้ข้อคิด.."หลักความจริงอย่างหนึ่งของชีวิตครู.."ก็คือ..คุณจะมีตำแหน่งอะไร? จะเรียนจบวุฒิอะไรมาก็ตาม มีวิทยฐานะสูงส่งแค่ไหน? หรือประชุมอบรมสัมมนา และศึกษาดูงาน มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน.."
จะมีประโยชน์อะไร? หากคุณไม่เรียนรู้และสู้งาน ไม่ทำหน้าที่ในงานที่อยู่ตรงหน้า ทั้งงานนโยบายและงานประจำ..ที่เรียกว่างานประกันคุณภาพ..ที่มองกันที่ตัวเด็ก..
ดังนั้น ผมจึงมีความเชื่อว่า..ความเป็นครู..อยู่ที่จิตสำนึกมากกว่า..และการลงมือทำจริงๆ..น่าจะดีกว่า..การแสวงหาไม่รู้จบ..
ขอบคุณ..ลีกาชิง..ที่พูดว่า.. "วันนี้ทำเรื่องที่คนอื่นไม่ยอมทำ...พรุ่งนี้จะได้สามารถทำ...ในสิ่งที่คนอื่นทำไม่เป็น..."
ชยันต์ เพชรศรีัจันทร์
๑๐ เมษายน ๒๕๖๑
บรรยากาศของโรงเรียน เดือนเมษายน..ที่ดอกประดู่ เหลืองอร่าม สวยงาม สบายตา
ไม่มีความเห็น