การกำหนดในใจว่า "พองหนอ - ยุบหนอ" ..เป็นเพรีงคำภาวนา ซึ่งเป็นอารมณ์บัญญัติเพื่อก่อให้เกิดสมาธิเท่านั้นไม่ใช่เป็นอารมร์ปรมัตถ์ ซึ่งเป็นอารมณืของวิปัสสนากรรมฐาน ดังนั้น นอกเหนือจากการกำหนดในใจว่า "พองหนอ ยุบหนอ" แล้วโยคีจะต้องพยายามสังเกตุ "อาการพอง อาการยุบ" ซึ่งเป็นอารมณ์ปรมัตรถ์ แน่นอนในระยะเริ่มต้นโยคีมักจะกำหนดได้แต่เพียงอารมณ์บัญญัติก่อน
จากหลักฐานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การกำหนดอาการพองและอากายุบของท้อง มิใช่การกำหนดลมหายใจเข้า และลมหายใจออกซึ่งอยู่ในหมวดอานาปานปัพพะ แต่เป็นการกำหนดวาโยธาติหรือธาตุลมซึ่งอยุ่ในหมวดะาติมนสิการปัพพะ ดังที่รพะพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในมหาสติปัฎฐานสูตรว่า "ภิกษุพิจารณาดุกาย นี้แหละ ตามที่สถิตอยุ่ ตามที่ตั้งอยู่โดยความเป็นธาตุว่า ในการนี้มี ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุลม
การกำหนดพอง-ยุบเป็นธาตุกรรมฐานนั้น ต้องรู้ความเป็นมาว่ามีธาตุอะไรมาเกี่ยวข้องคือ ธาตุ ๔ มีที่มาในมหาสติปัฐานสูตรทางสู่นิพพาน กล่าววา "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อปฏิบัติอีกอยางหนึ่งคื อภิกษุพิจารณากายนี้แหละตามที่ตั้งอยุ่ ตามที่ดำรงอยุ่ โดยความเป็นธาตุว่า ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุลม มีอยุ่ในการนี้
หมวดที่ชื่่อว่า ธาตุมนสิการ คือ การพิจารณาธาตุหรือ จตุธาุววัตถาน คือการกำหนด ธาตุ ๔ หรือธาตุกรรมฐานคือ กรรมฐานที่กำหนดธาติ คำว่า ธาตุ แปลว่า สภาวะ คือ สภาพที่ว่างเปล่าไม่ใช่บุคคลตัวเราของเรา ธาตุในทางธรรมนั้นเป็นาภวธรรม ไม่ใช่สมมุติบัญัติซึ่งใช้สื่อสารกันจนเขาใจกันว่า เป็นก้อนอัตภาพมนุษย์ การพิจารณาธาตนี้มีประโยชน์เพื่อให้ละวางความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน ดดยให้เข้าใจว่ามีเพียงธาตุเท่านั้น ไม่ใช่ตัวเรา ของเรา บุรุษ หรือสตรีิธาตุดังกล่าวไม่ใช่ธาตุทางเคาีร้อยกว่าชนิดในจักรวาล หรือธาตุที่อาจถูกสงเคราะห์ขึ้นด้วยมือของมนุษย์
โดยการตามรู้สภาวะพองยุบของท้องที่สอนกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้น จัดเป็นธาตุกรรมฐาน เพราะสภาวพองยุบเป็นลักษระตึงหย่อนของลมในทองนอกลำไส้ที่เรียกว่ากุจฉิยสยวาโย ความจริงลมหายใจที่สูดเข้าไปในปอดมิได้เคลื่อนไปในท้องดังที่เข้าใจกัน โดยทั่วไปดังนั้น สภาวะพองยุบจึงเป็นลมในท้องที่มีอยุ่เดิม และเป็นอารมณืกรรมฐานอย่างหนึ่งตามหลักกายานุปัสสนา
ในขณะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ธาตุทั้ง ๔ จะปรากฎอาการใหรู้เป็นปัจจุบันธรรมตัวอย่างในอิริยาบทนั่ง ร่างกายของโยคีจะมลักาณะตึงและเคร่ง เพื่อให้ทรงตัวอยุ่ได้ในอิริยาบทนี้ด้วยอำนาจของธาตุลมเหมือนลูกโป่งที่ถุกอันจนแน่นด้วลม จนมีลักาณะพองและตึง ความแข็งหรือความอ่อน คือลักษณะเฉพาะของธาตุดินบางครั้งรุ้สึกอุ่นหรือร้อนบริเวณท้องหรือก้นที่สัมผัสกับพื้น ความอุ่่น หรือความร้อน คือธาตุไฟที่ปรากฎออกมาการที่ท้องหรือส่วนต่างๆ ของร่างกายเกาะกุมกันมีรูปร่างเฉาะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผนังหน้าท้อง การเกาะกุม เช่นนี้ คือ ลักษณะของธาตุน้ำ สวนอาการหรือการเคลื่อนไหว ของท้องเวลาท้องพองออกและท้องยุบลง คือปรากฎการณืของธาตุลม..
บางส่วนจาก วิทยานิพนธ์ เรือง "ศึกษาหลักปฏิบัติวิปัสสนาภาวนาแบบพอง-ยุบตามแนวทางปฏิบติของพระโสภณมหาเถระ" โดย พระครูปลัดสุนทร สุนฺทโร (แซ่เตียว)
ไม่มีความเห็น