พื้นที่ 2/3 ในวัยเด็กของผม



ทำความเข้าใจความหมายของ “พื้นที่ 2/3” ได้ที่  https://www.gotoknow.org/posts/635072    

วันนี้จะ reflect ชีวิตของตนเองย้อนหลังไป ๖๐ - ๗๐ ปี    ในชนบทแท้ๆ    เดิน “ตีนเปล่า”   กินข้าวกับจานสังกะสี ช้อนสังกะสี หรือบางทีก็กินด้วยมือ    ดื่มน้ำจากขันน้ำ    ขันใบเดียวกินวนกันทั้งวงกินข้าว ที่นั่งล้อมรอบถาดสังกะสีที่ในถาดมีจานหรือชามกับข้าวสองสามอย่าง    วันไหนมีไข่เค็ม ผมต้องทำหน้าที่พี่คนโต ผ่าไข่เค็มแบ่งกินคนละครึ่งกับน้อง     ให้น้องเลือกก่อนว่าจะกินซีกไหน   

พื้นที่เรียนรู้ 2/3 ในวัยเด็กของผมจัดโดยแม่    เป็น พื้นที่ที่ผมไม่มีอิสระ    และผมเบื่อที่สุด    แต่ไม่มีทางเลี่ยงด้วยอานุภาพแห่งไม้เรียว   

ไวเหมือนชีวิตจริง (ไม่ใช่เหมือนโกหก) จากเด็กเมื่อวานซืน ผมกลายเป็นคนแก่เสียแล้ว    และแม่ก็จากไปแล้วหลายปี    แต่ผมยังรำลึกถึงพระคุณแม่แทบทุกวัน    ว่าแม่ได้จัด “พื้นที่ 2/3” ที่ยอดเยี่ยมต่ออนาคต ให้แก่ผมและน้องๆ   

พื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ทำงาน ช่วยงานบ้าน   และเมื่อโตขึ้นก็ฝึกให้ทำมาหากิน    แม่ต้องการฝึกลูกให้ค้าขายเป็น    ตามความคิดแบบคนจีน    ว่าคนเราต้องตั้งตัวสร้างฐานะด้วยการค้าขาย   

แต่แม่ก็ต้องผิดหวังกับลูกชายคนโต    ที่ไม่เอาถ่านด้านการค้าขาย    เพราะเป็นคนเก็บตัว ขี้อาย พูดคุยเจรจาไม่เก่ง  เอาแต่อ่านหนังสือ    แม่พร่ำบ่นว่า ทำตัวอย่างนี้โตขึ้นจะทำมาหากินอะไร    บ่นพร้อมกับฝึกให้ทำงานสารพัด    แม่ต้องการให้ลูกมีชีวิตที่มั่นคง    ชีวิตที่มั่นคงในสายตาของแม่คือการค้าขาย

แต่แล้วครูพิเชษฐ์ ก็มาบอกพ่อว่าเด็กคนนี้ต้องส่งไปเรียนที่กรุงเทพ เพื่อปูทางไปเรียนหมอ    ผลการเรียนของผมดีจนพ่อแม่ภูมิใจ    และแม่ก็เลิกบ่นว่าผมในเรื่องกังวลว่าจะเอาชีวิตไม่รอด   

แต่เมื่อเป็นหมอและเป็นถึงอาจารย์หมอ    แม่ก็ผิดหวังอีก    ที่ลูกไม่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างฐานะด้านการเงิน    เอาแต่ทำงานวิชาการและงานหลวง    “อุดมคติกินไม่ได้นะลูก”   แม่บ่นอยู่ราวๆ สิบปีจนเลิกบ่นไปเอง   

เมื่อแม่อายุเกือบเก้าสิบ และผมอายุเกือบเจ็ดสิบ    ผมถามแม่ว่า หากย้อนหลังกลับไปตอนผมเป็นหมอใหม่ๆ และตัดสินใจใช้ชีวิตแบบนี้  และแม่รู้ว่าเส้นทางดังกล่าวจะนำชีวิตผมมาเป็นเช่นปัจจุบัน แม่จะบ่นไหม    แม่ยิ้มและตอบด้วยสายตาแสดงความสุขว่า “ไม่บ่น    ชีวิตอย่างนี้ดีแล้ว”  

บัดนี้ ผมก็อยากบอกแม่ว่า    สมัยผมเป็นเด็ก ผมคับแค้นใจกับการถูกแม่บังคับให้ทำงาน     แต่บัดนี้ผมเข้าใจผลดีของการได้รับการฝึกฝนให้เป็นคนสู้งาน สู้ความยากลำบาก  ที่แม่ให้แก่ผมยามเป็นเด็ก   และผมได้นำมาปรับใช้ในชีวิตสมัยเป็นผู้ใหญ่    หากกลับไปเป็นเด็กอีก ผมก็อยากให้แม่บังคับฝึกงานอย่างที่เคยได้    แม้จะแถมไม้เรียวแทบทุกวันก็ยอม

เพราะนี่คือ พื้นที่ 2/3 ที่ปั้นให้ชีวิตผมดีถึงขนาดนี้

วิจารณ์ พานิช

๑๘ ม.ค. ๖๑


หมายเลขบันทึก: 644330เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2018 09:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 มกราคม 2018 09:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
นิ่มอนงค์ งามประภาสม

ชื่นชมคนสมัยก่อนที่เลี้ยงลูกโดยให้ฝึกประสบการณ์นะคะ คุณแม่ก้อเลี้ยงดูแบบเข็มงวดให้ฝึกช่วยทำงาน อ่านหนังสือ ฝึกวินัย ขอขอบพระคุณคุณแม่ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท