25 ม.ค. 2561
วันนี้เป็นวันที่ต้องไปศึกษาดูงานที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูสวางคนิวาส ตอนที่อาจารย์บอกว่าต้องไปดูงานในพื้นที่จริงรู้สึกตื่นเต้นมาก ต้องคอยสังเกตในสิ่งที่พี่OTทำ ว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ทำเพื่ออะไร และทำอย่างไร แต่สิ่งที่กังวลมากที่สุดคงจะเป็นตอนที่ต้องตั้งคำถามเพื่อถามพี่OT ฉันเป็นคนที่ตั้งคำถามไม่เก่ง ไม่รู้ว่าทำไมต้องถาม และไม่รู้ว่าตัวเองสงสัยอะไรอยู่ ฉันเตรียมสมุดโน้ตไปจดเพราะคิดว่าอย่างน้อยการจดอาจจะช่วยให้เกิดคำถามขึ้นมาได้หลังจากกลับไปอ่านอีกครั้ง แต่พอเอาเข้าจริงระหว่างที่ต้องสัมภาษณ์พี่OTและผู้รับบริการ ก็จดไม่ค่อยทันเท่าไหร่เพราะเขาพูดเร็วมาก อีกทั้งเราต้องสังเกตสีหน้า ท่าทาง ของผู้รับบริการด้วยว่าเขาเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร หลังจากนั้นฉันจึงเริ่มตั้งใจฟังในระหว่างที่ผู้รับบริการตอบคำถามและจับประเด็นแค่เรื่องที่ฉันคิดว่าสำคัญจริงๆ การทำแบบนี้ช่วยให้เราสามารถจับประเด็นได้มากกว่าจริงๆ เหมือนที่อาจารย์บอกว่าเวลาที่ต้องทำงานจริงๆ เรามีเวลาเพียงแค่ 15 นาทีในการพบผู้บริการ เราต้องหาสาเหตุให้ได้ภายในระยะเวลาแค่นี้ และต้องเขียนรายละเอียดส่งให้กับหน่วยงานอื่นที่ต้องรับหน้าที่ต่อ ระหว่างสัมภาษณ์พี่OT มีประโยคนึงที่ฉันชอบมาก
" เวลาเรารักษาคนไข้ เราต้องเข้าใจเขา ใจเย็นๆ
ที่เขาเป็นอยู่ก็ทำให้รู้สึกแย่พอแล้ว
เราต้องอย่าไปทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิม
ต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา "
เพราะทุกคนที่เข้ามาที่นี่หลายๆคนก็เคยหมดหวังมาก่อนจนอาจจะตัดใจยอมแพ้ไป แต่เมื่อมาแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เขาสามารถทำบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเองได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากสำหรับใครหลายๆคน แต่นั้นก็เป็นเหมือนความหวังสำหรับคนเหล่านี้ ที่อาจจะทำให้เขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างปกติอีกครั้ง
นศ.ก.บ.หทัยชนก์
ไม่มีความเห็น