.....ไปให้เธอดู หญิงสาวลืมตาโตขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นภาพ กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า "โอ้ พี่สกลซังหรือคะ จำได้แล้วค่ะ พี่โอสุเกะเขาพูดถึงคุณจนนาทีสุดท้ายที่เขาจะสิ้นใจเลยค่ะ" แล้วเธอก็หันไปยิ้มโค้งขอบคุณให้กับมิสซิซ..,สามี และเพื่อนมิซซิสที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมพร้อมร้องเชิญเข้าไปข้างใน เธอจูงมือผมนำหน้าพวกเราผ่านผู้คนที่นั่งอยู่ตอนหน้าประตูห้องเข้าไปกลางห้องซึ่งมีเตียงนอนตั้งอยู่เตียงหนึ่ง บนเตียวนั้น มีร่างของใครคนหนึ่งในเครื่องแบบทหารญี่ปุ่นนอนยาวเหยียดอยู่อย่างไม่ไหวติง มือขวาถูกนำออกมาวางแบอยู่บนพานทอง รอการรดน้ำตามประเพณีจากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ข้างหัว เตียงนอนซ้ายขวามีทหารเสนารักษ์ญี่ปุ่น นั่งอยู่ข้างละคน ข้างหัวเตียงนอนด้านหน้าเป็นขาตั้งมีรูปถ่ายโอสุเกะในเครื่องแบบสิบเอกทหารญี่ปุ่นแขวนอยู่พร้อมมาลัยดอกไม้ และมีกระถางธูปอยู่หน้ารูปถ่าย มีธูปที่จุดแล้วกำลังมีควันลอยออกมาจากธูปที่ถูกจุดนั้นพร้อมกลิ่นธูปที่กระจายทั่วบริเวณห้อง ใต้ลงมาเป็นพานใส่ธูปที่ยังไม่ได้จุดอยู่ 2 - 3 แหนบพร้อมไม้ขีดไฟ น้องสาวโอสุเกะเข้าไปหยิบธูปในพานออกมาจุดส่งให้ผมแบละมิซซิส,สามีกับเพื่อน ผมรับธูปด้วยใจอันหดหู่ยกมือไหว้ไปที่รูป000
โอสุเกะ แล้วพูดเบา ๆ ว่า "เพื่อนเอ๊ย ขอให้วิญญาณของเพื่อนจงไปสุ่สุขติเถุอะนะ ผมมาเยี่ยมคุณแต่ไม่ทันการ ผมต้องขอโทษด้วย" จากนั้นก็รับน้ำอาบศพจากเธอ ไปรดลงบนฝ่ามือซีด ๆ ที่วางอยู่บนพานข้างต้วอย่างช้ า ๆ พูดต่อไปอีกว่า "จงไปดีเถอะเพื่อน ขออย่าเป็นห่วงสิ่งใดเลย เราจะทำตามที่เคยสัญญากับเพื่อนไว้ทุกประการ"
คืนนั้น มิซซิส...กับสามีและเพื่อนผู้มีน้ำใจ ตกลงจะอยู่ค้างคืนเป็นเพื่อนน้องสาวโอสุเกะ 1 คืน เพื่อปรึกษาเรื่องงานศพโอสุเกะ และได้ข้อสรุปว่า กรมทหารผ่านศึกของญี่ปุ่นจะจัดรถมารับศพพรุ่งนี้และจะเป็นเจ้าภาพเผาให้ทุกอย่างที่ฌาปนะกิจสถานของกรมทหารผ่านศึก ในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า ผมเอาจดหมายแอร์เมล์ หลายฉบับที่ส่งถึงโอสุเกะแล้วถูกตีกลับว่าผู้รับย้ายที่อยู่ใหม่ ให้น้องสาวโอสุเกะดู ซึ่งเธอบอกว่า คงเป็นตอนที่พี่เขาป่วยหนักในตอนไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารต่ออีกเป็นเวลาเกือบสิบปี หลังจากกลับมาจากเมืองไทยแล้ว และพอด่อยยังชั่วออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ย้ายจากบ้านเช่าในเมืองมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ที่นี่ เพื่อดูแลหนู เพราะพ่อแมก็ได้เสียชีวิตรก่อนหน้านั้นทั้งสองคนไปแล้ว ส่วนพีก็ไม่หายขาดคงป่วยมาตลอดเวลาจนอีกหลายปี พี่บอกไม่ให้เขียนจดหมายไปบอกพี่สกลซังเพราะเกรงพีจะกังวลใจโดยตั้งใจว่าหายป่วยแล้วจะขียนไปบอกเอง แต่พี่เขาเขียนจดหมายฝากหนูไว้ให้พี 1 ฉบับก่อนตาย กำชับว่าให้ติดต่อส่งให้พี่อ่านให้ได้และให้ดิฉันทำตามที่พี่เขาเขียนไว้ ผมก็บอกเธอว่าผมได้รับทุน โคลัมโบ ให้มาดูงานด้านโทรศัพท์ที่ญี่ปุ่น........(โปรดรออ่านต่อตอนหน้า )
ไม่มีความเห็น