ค่าใช้จ่ายในการประหารชีวิต


การแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยอาชญากร เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ไม่แตกต่างจากการแก้ไขดัดแปลง พันธุกรรมแห่งเสือ สัญชาติญาณแห่งเสือ หรือ จิตวิญญาณแห่งเสือ เพื่อให้ลูกเสือเป็นลูกแมว และ ทำให้เรือนจำกลายเป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์อาชญากรในปัจจุบัน....................

 

          หน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การลงโทษอาชญากรให้มีความเกรงกลัวต่อโทษ รวมตลอดถึงการลงโทษนั้นจะต้องทำให้ผู้ที่กำลังคิดจะกระทำความผิดมีความเกรงกลัวต่อโทษและล้มเลิกการกระทำความผิด และ การประหารชีวิต (Execution) เป็นรูปแบบการลงโทษเพื่อปกป้องคุ้มครองสังคมให้ปลอดภัยจากอาชญากรรม จัดอยู่ในทฤษฎีการลงโทษแบบแก้แค้นทดแทน (Retributive Theory) เป็นการลงโทษโดยยึดหลักตาต่อตา และ ฟันต่อฟัน (An eye for an eye , and a tooth for a tooth) เป็บรูปแบบการลงโทษที่ทำให้อาชญากรเกรงกลัวต่อการลงโทษ และ สามารถช่วยลดการกระทำความผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ในปัจจุบัน หลักการพื้นฐานของทฤษฎีแก้แค้นทดแทนไม่ได้เป็นที่คาดหมายในสังคมที่มีอารยธรรมเท่าใดนัก ทฤษฎีนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดย penologists สมัยใหม่ และ ซ้ำซ้อน ของบริบทแห่งการลงโทษในปัจจุบัน ที่ได้ให้ความสำคัญกับ วิธีการลงโทษแบบมนุษยธรรม (Humane) มากขื้น จนเป็นที่สังเกตว่าเรือนจำได้กลายเป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์อาชญากรไม่ได้เป็นสถานที่ของการปฏิรูปตามที่ถูกหมายให้เป็น (It is observed that prisons have become a place for breeding criminals not as a place of reformation as it was meant to be.) ค่าใช้จ่ายในการประหารชีวิต ที่นำเสนอในบทความนี้ เป็นการเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย การประหารชีวิต ของไทยระหว่าง การประหารชีวิตด้วยปืน และ การประหารชีวิตด้วยการฉีดสารผิด ข้อมูลจาก เรือนจำกลางบางขวาง กรมราชทัณฑ์ โดยสังเขป ดังนี้  

          การประหารชีวิตด้วยปืน มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

           - เงินรางวัลการประหารชีวิต รายละ ๔,๕๐๐ บาท

           - ค่ากระสุนปืนขนาด ๙ ม.ม. นัดละ ๔๐ บาท ใช้กระสุนปืนประมาณ ๑๐ นัด ค่าใช้จ่ายประมาณ ๔๐๐ บาท

             รวมการประหารชีวิตด้วยปืน เป็นเงิน ประมาณ ๔,๙๐๐ บาท
 

          การประหารชีวิตด้วยการฉีดสารผิด มีค่าใช้จ่าย ดังนี้

          - เงินรางวัลการประหารชีวิต รายละ ๑๐,๐๐๐ บาท

          - ค่าสารพิษ และ อุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายประมาณ ๒,๓๖๔.๙๕ บาท

          รวมการประหารชีวิตด้วยการฉีดสารผิด เป็นเงิน ประมาณ ๑๒,๓๖๔.๙๕  บาท  

          ด้านอุปกรณ์ และ สารพิษที่ใช้ในการีดสารพิษ มีดังนี้

          - Sodium Pentothal (ยานอนหลับ) ยาควบคุมพิเศษ ประเภทยาใช้ภายใน ปริมาณที่ใช้ไม่ต่ำกว่า ๕ กรัม ในสารละลาย ๕๐ CC. หรือ Propofol ชนิดยาอันตราย ประเภทยาใช้ภายใน ปริมาณไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ mg. ใช้จำนวน ๕ หลอด

          - Pancuronium Bromide ชนิดยาคลายกล้ามเนื้อ ยาควบคุมพิเศษ ประเภทยาใช้ภายใน ปริมาณที่ใช้ไม่ต่ำกว่า ๕๐ cc. (๑๐๐ มิลลิกรัม) ใช้จำนวน ๒๕ หลอด

          - Potassium Chloride ชนิดยาทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหยุดเต้น เป็นยาควบคุมพิเศษ ประเภทยาใช้ภายใน ปริมาณที่ใช้ไม่ต่ำกว่า ๕๐ cc. (๗๕ กรัม) ใช้จำนวน ๓ หลอด

          - สายน้ำเกลือพร้อมถุงน้ำเกลือ รวมเข็มฉีดยา และ

          - EKG MONITER  

          โดยสรุป  

         สำหรับค่าใช้จ่ายในการประหารชีวิต ทั้งการประหารชีวิตด้วยปืน เป็นเงิน ประมาณ ๔,๙๐๐ บาท และ การประหารชีวิตด้วยการฉีดสารผิด เป็นเงิน ประมาณ ๑๒,๓๖๔.๙๕  บาท ดังกล่าว เมื่อเปรียบเทียบกับเงินใช้จ่ายในวิธีการลงโทษแบบมนุษยธรรม (Humane) หรือ ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยเพื่อคืนคนดีสู่สังคม สำหรับกรณีของประเทศไทยเรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เลี้ยงดูนักโทษเป็นจำนวนมาก โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ เรามีค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นเงิน ๑๒,๐๖๑.๑๐ ล้านบาท ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ เรามีค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นเงิน ๑๒,๖๕๘ ล้านบาท (ข้อมูลจากสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี) ในจำนวนนี้รวมถึงค่าอาหารที่ใช้เลี้ยงดูนักโทษในปัจจุบันที่มีจำนวน ๒๗๖,๓๖๔ แสน (ข้อมูล ณ วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๐) คิดเป็นเงินประมาณ ๑๕ ล้านบาทต่อวัน (วันละ ๕๔ บาท ต่อหัวต่อคนต่อวัน) นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก กรณีนี้ นักวิจัยจากต่างประเทศบางคณะเห็นว่าวิธีการลงโทษแบบมนุษยธรรมโดยเน้นการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยเพื่อคืนคนดีสู่สังคม ในปัจจุบัน นอกจากทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการเลี้ยงดูนักโทษจำนวนมาก ดังกล่าว ยังเป็นวิธีการลงโทษที่ทำให้นักโทษไม่เกรงกลัวต่อโทษ และ ทำให้ผู้ที่กำลังคิดจะกระทำความผิดไม่มีความเกรงกลัวต่อโทษ และ ส่งผลต่อการกระทำความผิดซ้ำแล้ว ยังทำให้เรือนจำได้กลายเป็นสถานที่สำหรับเพาะพันธุ์อาชญากร โดยบางท่านได้กล่าวในทำนองเปรียบเปรยว่า การแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยอาชญากร เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ไม่แตกต่างจากการแก้ไขดัดแปลง พันธุกรรมแห่งเสือ สัญชาติญาณแห่งเสือ หรือ จิตวิญญาณแห่งเสือ เพื่อให้ลูกเสือเป็นลูกแมว โปรดดูแนวคิดที่ใกล้เคียง ทฤษฎีอาชญากรโดยกำเนิด (Born Criminal) ของซีซาร์ ลอมโบรโซ ที่เห็นว่าอาชญากรว่าเป็นสิ่งที่ “สืบสายมาจากบรรพบุรุษ”(Atavistic) และ เห็นว่าเป็นเรื่องน่าตลก เพราะอาชญากรเป็นพวกที่มีสัญชาติญาณไม่เคยยอมใครง่ายๆ  


                             ....................

วินัย เจริญเฉลิมศักดิ์ ประธานนักศึกษาปริญญาเอกนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี ปี ๒๕๕๙ - ปัจจุบัน

๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๐

หมายเลขบันทึก: 643217เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2017 18:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2017 11:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาชญากร ตามความเห็นผม มีทั้งเป็นโดยกำเนิด และเป็นโดยสิ่งแวดล้อม
ถ้าจะพูดแบบข้ามภพข้ามชาติ ก็ต้องว่า ชาติก่อนเสวยชาติเป็นเดรัจฉาน หรือ มาร สันดานจิตก็ติดมาเช่นนั้น 
ส่วนเลวตามสิ่งแวดล้อม อันนี้น่าจะพอดัดได้

แต่ถ้าทัณฑสถาน เป็นที่บ่มเพราะอาชญกร นี่ต้องคิดแก้ไขกันอย่างด่วน
ไทยเรามีธรรมะ อยู่แล้ว ก็อย่าให้อายประเทศอื่นที่เขาลดจำนวนคุกลงได้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท