ทำบุญโรงทาน วัดป่าถ้ำพญาช้างเผือก ในวันถวายเพลิงหลวงปู่วิไลย์ เขมิโย


   เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาผู้เขียนได้ไปร่วมทำบุญโรงทานตามคำชักชวนของเพื่อนชุมแพศึกษา ผู้เขียนรับปากว่าจะช่วยขับรถให้นั่นเป็นหน้าที่หลักของการเดินทางครั้งนี้ ส่วนการทำโรงทานเป็นครั้งแรกของผู้เขียนที่จะได้เห็นบรรยากาศการทำโรงทานว่าเป็นอย่างไร โดยครั้งนี้เป็นการทอดไก่ที่หมักเตรียมไว้ 100 กิโลกรัม

   แค่เริ่มการเดินทางของคืนวันศุกร์ก็ต้องทำใจให้เย็นเข้าไว้แล้ว เพราะผิดแผนตั้งแต่มีเพื่อนมาเพิ่มคนหนึ่งให้ไปรับแถวมหาวิทยาลัยหัวเฉียว ออกเส้นลาดกระบัง แล้วรถติดมากๆเพราะกำลังทำถนน กว่าจะหาทางขึ้นวงแหวนได้ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว เพื่อนที่รังสิตจุดนัดพบต่างก็โทรตามที่ไม่ถึงสักที ถึงรังสิตสี่ทุ่มพอดี แล้วก็เดินทางสู่อีสานบ้านเกิดชุมแพ

   ระหว่างทางผู้เขียนทำหน้าที่พลขับ ฟอร์จูนเนอร์ทำเวลาได้ดีพอสมควร ถึงจะง่วงแต่ก็ได้เพื่อนชวนคุยกันตลอดทาง มีเพลงหมอลำ เพลงลูกทุ่งเก่าให้ทายกันว่าชื่อเพลงอะไร ใครเป็นคนร้อง พอผ่านไปสักพักคลื่นจะหายก็หาคลื่นใหม่ฟังไปเรื่อย บางคลื่นเป็นพระเทศน์ทำนองแหล่อีสานซึ่งพวกเราต่างฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าท่านเทศน์เกี่ยวกับเรื่องราวอะไร แต่รู้สึกว่าโศกเศร้าอย่างมาก 

   อากาศข้างนอกคงเย็นทำให้ปรับแอร์ขึ้นถึง 28 องศา แต่ก็ยังรู้สึกเย็นจนหนาว ถึงภูเขียวรถวิ่งได้ไม่เร็วนักเพราะถนนยังเป็นแบบเก่าอยู่คือ 2 เลน แม้กำลังทำแต่ก็ยิ่งทำให้ระมัดระวังมากขึ้น พวกเราต่างหวังว่าเส้นจากภูเขียวถึงชุมแพถนนจะขยายเสร็จเรียบร้อยก่อนปีใหม่

   ถึงชุมแพหนาวมาก เพื่อนปั้นข้าวเหนียวย่างไฟ หรือเรียกกันว่าข้าวจี่ ผู้เขียนกินไป 2 ปั้น กินไปนั่งผิงไฟไปจนหายหนาว พอใกล้สว่างจึงขอตัวไปงีบได้สักชั่วโมง ก่อนจะอาบน้ำแล้วเดินทางไปวัดที่อำเภอคอนสาร เพื่อทำบุญโรงทานกัน

เพื่อนเขียว เพื่อนจ้อย  รีบเดินขึ้นเขาไป เพราะเพื่อนที่ไปก่อนรอถุงใส่ไก่กันอยู่...ภูเขาที่เห็นอยู่ด้านบนมีถ้ำที่หลวงปู่วิไลย์ มาปฏิบัติจนสร้างเป็นวัดถ้ำพญาช้างเผือก

เพื่อนแต๋น  ลงมือทอดไก่ท่ามกลางแดดที่ส่องหน้าร้อนตลอด...มีผู้เฒ่ามายืนรอไก่ ที่ทอดสุกไม่ทันคนที่มารับทานกัน

ไก่ทอดสูตรรังสิตอร่อยจนทอดแจกไม่ทัน....ผู้มารับทานต่างมารับมากจนผู้เขียนต้องรับทำหน้าที่จัดแถวต่อคิวให้ผู้ที่จะมารับไก่ทอด บางครั้งเข้าแถวมาถึงตัวเองไก่หมดซะงั้น ต้องยืนรออีก ถึงประมาณ 10 นาที ก็มีคนยืนรอ แสดงถึงว่าไก่ทอดของพวกเราอร่อยจนต้องยืนคอยกันเลยทีเดียว

    

   เราทอดไก่หมดเวลาเกือบเที่ยง หลังจากนั้นพวกเราจึงชวนกันไปไหว้หลวงปู่แต่ความที่ผู้คนเยอะมากจึงไม่ได้เข้าไปยังศาลาพิธี ผู้เขียนกะคร่าวๆทั้งพระทั้งโยมที่หมุนเวียนกันไปมา เดี่ยวรถขนมาใหม่แล้วรับกลับกันอยู่ตลอดเวลา น่าจะหลายหมื่นคนในวันนั้น

ไหนจะนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ทางขึ้นถ้ำ ไหนจะนั่งในศาลาพิธีกรรม(เสียดายผู้เขียนไม่ได้ถ่ายเก็บไว้) ไหนจะนั่งอยู่ในเต็นท์ ไหนจะเดินไปมากันขวักไขว่อยู่ตลอดเวลา ยอมรับว่าบารมีของหลวงปู่ช่างมากมายมหาศาลขจรขจายไกล จนผู้คนต่างหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ

   

ปากถ้ำที่ผู้เขียนขึ้นมาไหว้พระแล้วเผลอนั่งหลับไปงีบหนึ่งด้วยอากาศที่เย็นสบาย แตกต่างจากด้านล่างที่ร้อนและวุ่นวายกับผู้คน...

ด้านในของถ้ำจะสังเกตุเห็นเต็นท์นอนเล็กๆเรียงรายอยู่ตั้งแต่ปากถ้ำจนถึงด้านบนของถ้ำ น่าจะเป็นของพระธุดงค์ที่มาเดินทางมาถวายเพลิงหลวงปู่เพราะเห็นมีบริขารวางอยู่ข้างๆ

   ระหว่างที่นั่งหลับอยู่เพื่อนบอกว่าได้โทรหาผู้เขียนซึ่งในถ้ำจะไม่มีสัญญาณ พอลงมาด้านล่างที่โรงทานเพื่อนๆบอกว่านึกว่าผู้เขียนซาบซึ้งจนบวชเสียแล้ว ผู้เขียนบอกว่ามีเวลาอยากจะมาเที่ยวอีกสักครั้ง

.................


   

หมายเลขบันทึก: 643067เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2017 17:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม 2017 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท